- องค์กรควรเลือกจัดกิจกรรมโดยยึดแนวทางจาก Mission, Core Values และวัฒนธรรมขององค์กร โดยพยายามให้พนักงานทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการคิดให้มากที่สุด
- บางบริษัทจัดการแข่งขันภายในขึ้นมาเพื่อผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน และดึงพนักงานจากต่างแผนกให้มารู้จักกันมากขึ้น
- สามารถจัดกิจกรรมสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้ด้วยการทำกิจกรรมจิตอาสาช่วยเหลือสังคม หรือการออกไปส่งมอบความสุขให้กับผู้ด้อยโอกาส
- ปลูกฝังให้พนักงานรู้จักการเป็น “ผู้ให้” ด้วยการจัดกิจกรรมส่งต่อความสุข เช่น การสมทบทุนหรือการมอบข้าวของเครื่องใช้ให้กับมูลนิธิ
- พัฒนาทักษะความสามารถพนักงานด้วยกิจกรรม Hackathon ชวนพนักงานระดมสมองแก้ไขปัญหา เสนอไอเดีย เพื่อพากันไปสู่ปีใหม่ที่ดีกว่า
- เติมไฟในการทำงานให้กับพนักงานด้วยการจัดกิจกรรม Recognition กิจกรรมแสดงความจดจำและชื่นชมในศักยภาพและผลงานของพนักงาน
|
|
ก่อนช่วงโควิด-19 ถ้าจะพูดถึงกิจกรรมของบริษัทที่จัดให้พนักงานได้ผ่อนคลายตอนท้ายปี ส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นการจัดปาร์ตี้ตามร้านอาหาร หรือโรงแรม ที่พนักงานจะได้เอ็นจอยไปกับอาหาร เครื่องดื่ม และกิจกรรมจับสลากของรางวัล ซึ่งเป็นงานเลี้ยงฉลองในแบบที่เราคุ้นเคยกันดี
หลายบริษัทก็คงมีความคิดที่อยากจะหากิจกรรมใหม่ ๆ ให้ปีนี้กลายเป็นที่จดจำของพนักงาน แต่ติดตรงที่ยังไม่รู้ว่าจะทำออกมาในรูปแบบไหนดี แถมตอนนี้ยังมีข้อจำกัดเรื่อง Social-Distancing และบางออฟฟิศก็มีการแบบ Work from Home หรือ Remote Working เพิ่มมาอีกด้วย วันนี้ JobThai เลยอยากมาแนะนำไอเดียจัดกิจกรรมส่งท้ายปีที่มีทั้งประโยชน์ ความบันเทิง และความสร้างสรรค์ จะเป็นยังไงลองไปดูกัน
เรื่องควรรู้ก่อนคิดหากิจกรรมให้กับพนักงาน
ก่อนจะเริ่มมองหาไอเดียบรรเจิดในการทำกิจกรรม เราควรเริ่มต้นจากการมองที่ Mission, Core Values และวัฒนธรรมขององค์กรเพื่อเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรม ยกตัวอย่างเช่น Fitbit ผู้นำด้านอุปกรณ์เชื่อมต่อด้านการดูแลสุขภาพ ที่มีเป้าหมายหลักที่จะทำให้ชีวิตของคนดีขึ้นจากสินค้าที่พวกเขาสร้าง โดยเน้นเรื่องของ “เทคโนโลยี” และ “สุขภาพ” ทำให้พนักงานของที่นี่จะต้องสนใจในสองสิ่งเหล่านี้
เมื่อโฟกัสที่ Mission, Core Values และวัฒนธรรมขององค์กร แล้วเราก็สามารถนำมันมาเป็นจุดกำเนิดไอเดียการจัดกิจกรรมได้ โดยสิ่งที่สำคัญคือควรให้พนักงานจากทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการคิดหากิจกรรมให้มากที่สุด เพราะเราจะได้รู้ว่าในปีนั้น ๆ พนักงานในองค์กรอยากให้มีกิจกรรมออกมาในรูปแบบประมาณไหน และเมื่อเราเห็นสิ่งที่องค์กรให้ความสำคัญแล้ว ก็ลองมาดูกันได้เลยว่ามีกิจกรรมแปลกใหม่อันไหนที่เหมาะกับพนักงานของเราบ้าง
1. จัดการแข่งขันเพื่อเพิ่มความสามัคคี
ถ้าเราอยู่ในองค์กรที่รักความสนุกสนานและคนในองค์กรเองก็ชอบการแข่งขัน กิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานด้วยกันก็คือจัดการแข่งขันขึ้นภายในบริษัท แล้วถ้าจะให้ดีก็ควรเป็นกิจกรรมที่สามารถเลี่ยงการสัมผัสระหว่างตัวบุคคลและสามารถใส่หน้ากากอนามัยเอาไว้ได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องถอด เพื่อความสบายใจของทุก ๆ ฝ่าย
แนวทางการจัดกิจกรรม
ถ้างานจะสนุก เรื่องเล่น ๆ ก็ต้องเต็มที่ไม่ต่างจากเรื่องงาน เราสามารถเริ่มจากการกำหนดวัน เวลา สถานที่ จำนวนผู้เข้าร่วมแข่งขัน อาจจะแบ่งเป็นทีมหรือแข่งเดี่ยวก็ได้ จับสลากแบ่งสายทีมที่ต้องพบกัน โดยจะใช้ระบบแพ้คัดออกหรือเก็บสะสมคะแนนก็ขึ้นอยู่กับขนาดองค์กรและระยะเวลาการแข่งขัน ยิ่งถ้าพนักงานระดับหัวหน้า หรือผู้บริหารมาร่วมแข่งขันด้วยก็จะยิ่งเพิ่มความสนุกให้กับการแข่งขันมากขึ้นไปอีก ยกตัวอย่างกิจกรรมเช่น การเล่น Board Game ออนไลน์ หรือเกมทายคำระหว่างแผนกเพื่อหาทีมที่ชนะเลิศ
สิ่งที่จะช่วยดึงดูดให้พนักงานรู้สึกเต็มที่กับกิจกรรมมากขึ้นก็คือ “ของรางวัล” เพราะฉะนั้นลองดูว่ามีอะไรบ้างที่พนักงานน่าจะอยากได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นของที่ล่อตาล่อใจขนาดที่ว่าทำให้พนักงานเอาแต่จะแข่งกันเองจนลืมเรื่องความสามัคคีไป
ข้อดีของการจัดกิจกรรม
- พนักงานได้ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานและเกิดบรรยากาศที่ความสนุกสนานขึ้นในบริษัท
- แต่ละแผนกได้รู้จักกันมากขึ้น มีวีรกรรมเด็ด ๆ ของพนักงานตัวจี๊ดในทีมที่สามารถเอาไปเล่าต่อได้
- การแข่งขันเป็นกิจกรรมที่ใช้งบประมาณไม่สูงมาก โดยเฉพาะถ้าเป็นการจัดทางออนไลน์
2. กิจกรรมอาสาสมัครทำความดีส่งท้ายปี
HBO เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่เคยจัดงานเลี้ยงที่มีอาหารและเครื่องดื่มอย่างดีในโรงแรมหรูมานานกว่า 10 ปี แต่พอจัดไปนาน ๆ เข้า พนักงานยิ่งมาร่วมงานน้อยลง หรือไม่ก็มาแป๊บ ๆ แบบพอเป็นพิธีแล้วก็กลับเลย ทำให้พวกเขาเปลี่ยนความคิดใหม่มาเป็นการให้พนักงานลาในช่วงบ่ายวันหนึ่งเพื่อออกไปทำงานเพื่อสังคม สร้างประโยชน์และความสุขให้กับผู้คนข้างนอกแทน
แนวทางการจัดกิจกรรม
หาเวลาหนึ่งวันเพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานออกไปเป็นจิตอาสาช่วยเหลือสังคม โดยอาจให้แต่ละทีมกระจายไปตามสถานที่ต่าง ๆ ก็ได้ ยิ่งถ้าได้ใช้ความเชี่ยวชาญหรือนวัตกรรมขององค์กรออกไปสร้างประโยชน์ได้ด้วยก็จะยิ่งดี โดยในช่วงเวลานี้ก็จำเป็นที่จะต้องมีคนคอยดูแลกิจกรรมให้อยู่ภายใต้มาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 แล้วในช่วงเย็นก็ค่อยกลับมาที่ออฟฟิศเพื่อเขียนเรื่องราวจากประสบการณ์อาสาสมัครของตัวเองลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ภายในของบริษัท และมอบของขวัญใหญ่ให้กับเจ้าของเรื่องราวที่น่าประทับใจที่สุด ถือเป็นการส่งท้ายปีเก่าด้วยรอยยิ้มที่ได้จากการได้ทำอะไรดี ๆ ให้กับสังคม
ข้อดีของการจัดกิจกรรม
- พนักงานเกิดความภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับองค์กรในการสร้างประโยชน์ให้สังคม
- พนักงานต่างแผนกได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น
- สังคมได้รับประโยชน์จากกิจกรรมที่องค์กรจัดขึ้น
3. ความสุขที่ “ได้” จากการ “ให้”
เวลาที่เรามอบอะไรบางอย่างให้กับใครสักคน นอกจากผู้รับจะได้ประโยชน์แล้ว ผู้ให้เองก็จะรู้สึกมีความสุขตามไปด้วย โดยบริษัทผู้ให้บริการด้านการตลาดออนไลน์ระดับโลกอย่าง DigitasLBi ได้จัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้พนักงานภายในบริษัทได้เป็น “ผู้ให้” อย่างแท้จริง ชื่อกิจกรรมว่า “Giving Tree” ซึ่งเป็นการนำต้นไม้มาตั้งไว้ในออฟฟิศ และห้อยกระดาษลิสต์รายการของที่จำเป็นสำหรับเด็กเอาไว้ตามกิ่งไม้ อย่างเช่น หนังสือ อุปกรณ์วาดภาพ เสื้อผ้าที่มีราคาไม่แพงมากนัก โดยจะให้พนักงานมาเลือกเอาลิสต์ไปคนละ 1 - 2 ใบแล้วไปหาซื้อของเหล่านั้นนำมาวางไว้ที่ใต้ต้นไม้เพื่อรอส่งมอบให้กับหน่วยงานที่ต้องการ และคนที่มอบของขวัญจะได้รับสลากจับรางวัลติดมือกลับไป ซึ่งทางบริษัทจะนำต้นขั้วสลากเหล่านั้นไปจับของรางวัลให้พนักงานต่อไป
แนวทางการจัดกิจกรรม
เริ่มจากการเลือกมูลนิธิหรือหน่วยงานที่ต้องการความช่วยเหลือ อาจให้พนักงานช่วยกันโหวตเลือกก็ได้ จากนั้นลองสอบถามความต้องการจากมูลนิธิที่เลือก เพื่อเอามาคิดหากิจกรรมที่จะดึงคนในบริษัทมาช่วยกันเติมเต็มความต้องการเหล่านั้นได้ ซึ่งนอกจากวิธีที่ใช้ตามตัวอย่างแล้ว เราสามารถเปลี่ยนรูปแบบของมันได้ เช่น อาจจะเปลี่ยนเป็นกิจกรรมระดมเงินเพื่อนำไปมอบให้กับมูลนิธิ และให้พนักงานที่บริจาคได้มีสิทธิ์ลุ้นรับเซ็ตขนมหรือของรางวัลสิ้นปีจากบริษัท
ข้อดีของการจัดกิจกรรม
- พนักงานได้มีส่วนร่วมในการส่งความสุขให้กับผู้อื่นผ่านการมอบของขวัญ
- พนักงานได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น
- ปลูกจิตสำนึกของการเป็นผู้ให้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม
4. Hackathon ระดมสมองประลองปัญญาเพื่อสร้างสรรค์ปีหน้าที่ดีกว่า
Hackathon คือกิจกรรมสุดฮิตที่บริษัทไอทีระดับโลกนิยมทำกัน เริ่มต้นจากการตั้งโจทย์ที่ท้าทายและให้พนักงานเข้าร่วมระดมสมองและทดลองทำจริงในระยะเวลาที่จำกัด ซึ่งการทำ Hackathon นั้นไม่ได้ถูกจำกัดแค่คนที่มีความรู้เรื่องไอทีเท่านั้นในปัจจุบัน Hackathon ยังประยุกต์ใช้ในหลาย ๆ ธุรกิจอีกด้วย
แนวทางการจัดกิจกรรม
เริ่มจากการตั้งโจทย์ที่ท้าทาย เช่น ถ้าปีหน้าบริษัทมีการตั้งเป้าหมายที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้กลายเป็นบริษัทที่พนักงานสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ซึ่งมันอาจจะมีอุปสรรคในช่วงแรก ๆ อย่างแน่นอน เราจึงหยิบประเด็นนี้มาตั้งเป็นโจทย์ว่า “เส้นทางสู่การ Work from Anywhere อย่างสมบูรณ์แบบ” เป็นการเปิดโอกาสให้พนักงานฟอร์มทีมซึ่งประกอบไปด้วยตัวแทนจากทุกแผนกช่วยกันระดมความคิดและค้นหาว่าอุปสรรคที่อาจจากการทำงาน Work from Anywhere คืออะไร และเราจะแก้ไขมันได้ยังไงบ้าง เช่น อาจจะคิดหาระบบการทำงานทางไกลที่เหมาะกับองค์กรว่าทำยังไงให้งานยังเดินหน้าเหมือนเวลาเข้าออฟฟิศ หรือลองดูว่าเราจะรักษาความตรงต่อเวลาในการเข้า-ออกงานของพนักงานต่อไปได้ยังไงบ้าง เมื่อได้ไอเดียออกมาแล้วก็นำเสนอผลงานให้กับผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานเพื่อร่วมกันโหวตหาผู้ชนะ และมอบรางวัลให้กับทีมเจ้าของไอเดีย ซึ่งไอเดียนั้น ๆ ก็อาจถูกหยิบมาใช้จริงต่อไปในอนาคต
ข้อดีของการจัดกิจกรรม
- ปลดล็อกความสามารถใหม่ ๆ ของพนักงานจากการคิดและทดลองทำสิ่งที่นอกเหนือจากงานที่ทำเป็นประจำ
- องค์กรได้แนวคิดและมุมมองใหม่ ๆ จากคนที่รู้จักเรื่องเกี่ยวกับบริษัทดีอยู่แล้วมาปรับใช้ต่อไป
- พนักงานได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กร เพิ่มพูน Employee Engagement (ความผูกพันระหว่างพนักงานและองค์กร)
5. กิจกรรมแสดงความจดจำและชื่นชมในตัวคนทำงาน
ในช่วงท้ายปีเราจะได้เห็นว่าตลอดปีที่ผ่านมามีแผนกไหนมีผลงานที่โดดเด่น พนักงานคนไหนที่ทุ่มเทให้กับงานตัวเองจนเห็นผลที่ดีและสอดคล้องกลยุทธ์ทางธุรกิจและวิสัยทัศน์ของบริษัท อีกกิจกรรมที่สามารถจัดขึ้นได้คือการตอบแทนความทุ่มเทให้พนักงานเหล่านั้นได้รู้ว่าคนเป็นหัวหน้ามองเห็นศักยภาพในตัวเขา และชื่นชมมันเป็นอย่างมาก เพราะคนทำงานเองก็คงหายเหนื่อยถ้ารู้ว่าผลงานที่เขาทำนั้นมีผู้ใหญ่ หัวหน้า หรือเพื่อนร่วมงานที่จดจำมันได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกเรียกว่าวัฒนธรรม Recognition
แนวทางการจัดกิจกรรม
กิจกรรมที่จะใช้แสดง Recognition นั้นไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น การประกาศชื่อพนักงานดีเด่นประจำปีผ่านทางอีเมลภายในและโซเชียลมีเดียของบริษัทให้คนจำนวนมาก ๆ ได้เห็นว่าพนักงานคนนั้น ๆ เป็นกำลังสำคัญของบริษัท อาจมีการมอบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เป็นการส่วนตัวจากผู้ใหญ่ในออฟฟิศอีกด้วย
ข้อดีของการจัดกิจกรรม
- ลดจำนวนการลาออกของพนักงานที่มาจากสาเหตุที่ว่าตั้งใจทำงานแล้วแต่ไม่มีใครมองเห็น
- พนักงานรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ ทำให้เขาอยากที่จะพัฒนาตัวเองต่อไปให้ดียิ่งกว่าเดิม
- ผลักดันช่วยคนอื่น ๆ ในองค์กรมีไฟในการทำงานมากขึ้นเพื่อให้ได้รับการจดจำจากคนรอบข้าง
การส่งท้ายปีเก่าด้วยกิจกรรมที่สร้างสรรค์จะทำให้คนทำงานมีภาพจำบรรยากาศของบริษัทในช่วงท้ายปีที่ออกมาดีและอาจช่วยให้พลังบวกยังคงอยู่ยาวไปจนถึงต้นปีถัดไป ดังนั้นถ้าใครพอจะมีไอเดียในหัวแล้วก็เริ่มวางแผนกิจกรรมได้เลย ขอให้คุณมีความสุขกับปีใหม่ที่กำลังจะเข้ามา
|
|
JobThai Official Group |
Public group · 200,000 members |
|
|
|
ที่มา:
blog.jobthai.com
thebalance.com
nytimes.com
fastcompany.com
hbr.org