ปัจจุบันหลายคนคงคุ้นเคยกับการทำงานแบบ Work from Home กันมาบ้างแล้ว แต่หากเป็น Work from Anywhere การทำงานที่ให้อิสระพนักงานได้เลือกสถานที่ทำงานเอง ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน คาเฟ่ หรือต่างประเทศ จะทำได้จริงเหรอ? แล้วบริษัทจะ Track เวลาการทำงาน หรือติดต่อกันระหว่างการทำงานยากไหม? หลายองค์กรยังกังวลเรื่องเหล่านี้อยู่ ในบทความนี้ JobThai เลยได้รวมรวมเรื่องราวเกี่ยวกับการทำงาน ความรู้สึกต่อรูปแบบการทำงาน และแสดงให้ดู ว่าการทำงานที่ THiNKNET ให้อะไรกับพนักงานและองค์กรมากกว่าที่เราคิด

เพราะ Work from Anywhere ทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

การเรียนรู้และต่อยอดทักษะเป็นสิ่งที่คนทำงานทุกคนควรทำ แต่ข้อจำกัดในเรื่องเวลาและการเดินทางก็เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่คนทำงานต้องเจอ เพราะต้องรีบออกจากบ้านในตอนเช้าและกว่าจะถึงบ้านก็หมดแรงจะทำอะไร การทำงานจากที่ที่เราเลือกเองได้ ไม่ใช่เพียงแค่ลดเวลาในการเดินทางเพียงอย่างเดียว แต่ยังเพิ่มเวลาในการเรียนรู้ให้พนักงานได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มทักษะสำหรับการทำงานหรือต่อยอดงานอดิเรกที่ตัวเองชอบให้กลายมาเป็นอาชีพที่สอง

• โฟล์ก Multimedia Designer ผู้ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ จากคณะบริหาร สาขาการตลาด ที่คอยหาความรู้เพิ่มเติมนอกเวลางานและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ จนได้เอาชนะ Skill Gap และเปลี่ยนสายอาชีพตัวเองมาเป็น Multimedia Design ที่ต้องผลิตสื่อรูปแบบภาพนิ่งและวิดีโอให้กับ THiNKNET

• สเกว Sales & Customer Service Specialist สาวออฟฟิศที่ผันตัวมาเป็น VJ จนเจออาชีพเสริมที่ชอบ ที่ต่อยอดทักษะในการพูดคุยและเจรจากับลูกค้า มาเป็นการพูดกับ User ผ่านการเป็น VJ ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งการต่อยอดครั้งนี้ก็กลายมาเป็น Second Job ที่สเกวได้สร้างรายได้พร้อมกับทำสิ่งที่รักไปด้วย

เพราะ Work from Anywhere ทำให้เราได้เติบโต

แน่นอนว่าเราทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเติบโตได้ แต่จะทำยังไงให้เติบโตได้อย่างมีคุณภาพทั้งด้านการทำงานและการใช้ชีวิต ซึ่งการทำงานแบบไม่ต้องเข้าออฟฟิศก็ทำให้พนักงานหลายคนในTHiNKNET ไม่ว่าจะเป็นน้องใหม่ น้องฝึกงาน หรือคนที่เคยทำงานมาบ้างแล้วก็ตาม สามารถเลือกเส้นทางการเติบโตของตัวเองได้กว้างมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกเวลางาน และที่สำคัญ ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันก็ทำให้ทุกคนสามารถเรียนรู้และเติบโตไปได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

• เก่ง ศิวัช จาก Part time สู่ Software Engineer ที่ได้เรียนรู้ขั้นตอนการวางแผนก่อนพัฒนาระบบและได้ศึกษา Tech Stack ที่ยังไม่เคยใช้ ตั้งแต่ยังเป็นพนักงาน Part-time ซึ่งปัญหาที่หลายองค์กรกลัวว่าพนักงานใหม่ไม่ได้เข้ามาที่ออฟฟิศจะทำงานและเรียนรู้งานได้อย่างเต็มที่หรือเปล่า ที่ THiNKNET ก็มี Workshop ของพี่ ๆ ที่คอยช่วยปรับพื้นฐานความรู้ที่จะต้องใช้ในการทำงานแบบจัดเต็ม

• เอเจ Content Creator สาย Ambivert ที่ครีเอตคอนเทนต์ให้ปังได้แม้ทำงานแบบ Hybrid อีกหนึ่งน้องใหม่ที่เข้ามาร่วมงานกันในช่วง Covid-19 ซึ่งแน่นอนว่าต้องทำงานที่บ้าน 100% ซึ่งตัวเอเจเองก็พัฒนาทักษะผ่านการสังเกตสิ่งที่คนอื่น ๆ ทำอย่างการฟังรายการพอดแคสต์ หรืออ่านโพสต์ต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดียอย่างตั้งใจมากขึ้น เพื่อจดจำว่าเขาใช้ภาษากันแบบไหน มีคำแบบไหนที่น่าสนใจและน่านำไปปรับใช้กับงานตัวเองบ้าง

เพราะ Work from Anywhere ทำให้เราได้เปลี่ยนแปลง

ออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 เพื่อให้เข้าไปทำงานทันตอน 7 โมง พอถึงเวลาเลิกงานกว่าจะถึงที่พักก็หมดวันไปแล้ว เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่คนทำงานในกรุงเทพฯ หลายคนรู้สึกปกติ การจะทำอาหารกินเอง หรือออกกำลังกายก็ตัดทิ้งไปได้เลย แต่เมื่อรูปแบบการทำงานได้เปลี่ยนไป รูปแบบการใช้ชีวิตก็ต้องปรับเช่นกัน ซึ่งพนักงานหลายคนที่ไม่ต้องเสียเวลากว่า 3-4 ชั่วโมงในการเดินทาง ก็เปลี่ยนเวลานั้นมาออกกำลังกายหรือทำอาหารกินเองแทน

• พี่หมี Supervisor, Product Support ที่จะมาแชร์ประสบการณ์ ยิมปิด แต่ Work from Anywhere ทำให้เราได้มาฟิตกันที่บ้าน ด้วยการออกกำลังกายในรูปแบบ Body Weight และ Free Weight โดยใช้อุปกรณ์เพียงไม่กี่อย่าง แต่สามารถสร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมัน และทำให้สุขภาพร่างกายโดยรวมดีขึ้นอีกด้วย

• พี่แป๋ว Supervisor Accountant ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย กินไม่เป็นเวลา และกินดึกทุกมื้อ แต่ Work from Anywhere ก็ได้เปลี่ยนสาวอวบให้กลายเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ผ่านเทคนิคการลดปริมาณอาหาร เลือกกิน ทำอาหารกินเอง ออกกำลังกาย และการแข่งขันลดน้ำหนักกับแฟน

• พี่อั้ม Engineering Manager ที่ตัดสินใจ ลดน้ำหนัก 16 กิโลกรัม ด้วยวิธี Keto ภายใน 60 วัน ผ่านการศึกษาและปรับสูตรของการบริโภค Keto ตามแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งการทำงานแบบWFH เลยตอบโจทย์กับชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาของการทำงานหรือเวลาในการปรุงและกินอาหารที่สามารถจัดการได้เอง

เพราะ Work from Anywhere ทำให้เราได้เป็นตัวของตัวเอง

ด้วยบริบททางสังคม การทำงาน และสภาพแวดล้อมของการทำงาน ทำให้บางครั้งเราก็ต้องละความเป็นตัวของตัวเองหรือปรับตัวเพื่อเข้าสังคม แต่ถ้าเราสามารถเลือกสไตล์การทำงานของเราเองได้ล่ะ? ทั้งการทำงานที่เข้ากับตัวเองไม่ว่าจะชอบทำงานคนเดียวหรือทำงานร่วมกับคนอื่น เป็นตัวเองที่สามารถเลือกท่องเที่ยวในวันหยุด หรือเป็นตัวเองที่สามารถสร้างงานอดิเรกให้เป็นประโยชน์ได้ 

• สำหรับคนที่มีบุคลิกแบบ Ambivert ที่ก้ำกึ่งระหว่าง Introvert และ Extrovert อย่างบี Quality Assurance ที่บอกได้เลยว่าการได้ Work from Anywhere เป็นสวรรค์ของชาว Ambivert จริง ๆ ไม่ว่าจะชอบเข้าสังคมหรือทำกิจกรรมร่วมกับคนในทีม หรือเมื่อถึงเวลาพักผ่อนหรืออยากอยู่คนเดียวก็ทำได้เช่นกัน 

• มิ่งขวัญ สาว QA ผู้รักในการท่องเที่ยวกับ Anywhere You Can Work เป็นอีกหนึ่งคนที่เลือกใช้เวลาว่างในวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อท่องเที่ยวกับครอบครัว ออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ตกแต่งห้องนอน และที่สำคัญยังได้ใช้เวลากับ “ดันเต้” น้องหมาที่คอยมาเฝ้าโต๊ะในเวลาทำงาน

• Work from Anywhere ทำงานอดิเรกให้เป็นคอนเทนต์ที่มีคนดูมากกว่า 10 ล้านวิว ไม่ใช่เรื่องแต่งแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องจริงของ ป๊อบแป๊บ Semi Senior, Marketing Communication ที่ใช้เวลาว่างหลังเลิกงานและวันหยุดในการเล่นเซิร์ฟสเก็ตและถ่ายวิดีโอแนะนำวิธีการเล่นง่าย ๆ ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok จนทำให้มีผู้ติดตามถึงหลักแสนคนในเวลาไม่กี่เดือน

เพราะ Work from Anywhere ทำให้เราได้เจอโอกาสที่ใช่

โอกาส เป็นเรื่องที่อยู่รอบตัวของเราทุกคน ซึ่งพนักงานที่ THiNKNET ไม่ได้เป็นเพียงการเข้ามาเพื่อทำงาน แต่พนักงานยังได้รับโอกาสอีกมากมาย ทั้งเรื่องการทำงานที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต การได้อยู่ใกล้ชิดครอบครัว และการได้ใช้เวลาเต็มที่กับงานอดิเรก  ที่พนักงานแต่ละคนก็มี Lifestyle แตกต่างกัน แต่หากมาถึงพาร์ทของการทำงานก็ยังสามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้อย่างดี

• โอกาสเรื่องการทำงาน ที่เปิดรับพนักงานจากหลายสาขา ทั้งคนที่มีประสบการณ์หรือเด็กจบใหม่ก็ตาม หากคน ๆ นั้นเป็นคนที่มีทักษะ พร้อมเรียนรู้ และมีแพสชันในการทำงาน ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะได้มาร่วมงานด้วยกัน 

• โอกาสได้ใกล้ชิดกับคนที่รัก ทั้งบทบาทของคนทำงาน บทบาทของหัวหน้าครอบครัว หรือบทบาทของคนที่เลี้ยงน้องหมาน้องแมว ที่พนักงานหลายคนต้องรับผิดชอบ การ Work from Anywhere ก็ทำให้พนักงานที่นี่สามารถทำงาน และอยู่ใกล้สิ่งที่รักไปด้วยในเวลาเดียวกัน

• โอกาสเต็มที่กับงานอดิเรก อย่างการเต็มที่กับการเล่นกีฬาหลังเลิกงาน หรือเต็มที่กับการทำขนมเค้กแบบไม่หวานที่ตัวเองชอบ จนได้ทำเค้กส่งให้ร้านคาเฟ่และกลายเป็นรายได้เสริมหลังเลิกงาน

เพราะ Work from Anywhere ทำให้เราได้มาเจอกัน

เมื่อ THiNKNET ได้ปรับรูปแบบการทำงานเป็น Work from Anywhere บริษัทก็สามารถลดกำแพงที่ชื่อว่า “ระยะห่าง” ลง ซึ่งข้อดีคือบริษัทจะได้รับใบสมัครที่หลากหลายและดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถได้มากขึ้น ไม่ว่าคนคนนั้นจะอยู่ที่ไหนของประเทศ หากคนทำงานคนไหนสนใจรูปแบบการทำงานแบบ Work from Anywhere สามารถ ดูตำแหน่งงานที่เปิดรับและร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ THiNKNET ได้ ที่นี่