เชื่อว่าปีที่ผ่านมาหลายคนคงมีหลายเรื่องให้คิด ไม่ว่าจะเป็นการย้อนมองดูอดีตว่าตัวเองทำอะไรไปบ้าง เรื่องชีวิตส่วนตัว สุขภาพ ความรัก และการงานเป็นยังไงบ้าง รวมไปถึงการคิดวางแผนสำหรับปี 2025 สำหรับใครที่กำลังวางแผนเรื่องการทำงานและตั้งเป้าหมายอยากฝึกฝนทักษะเพื่อการทำงานของปีนี้ วันนี้ JobThai ได้รวบรวมทักษะที่คนทำงานจำเป็นต้องมีในปี 2025 มาฝากกัน จะได้เตรียมตัวรับมือกับอนาคตของโลกการทำงานอย่างมั่นใจ จะทำงานที่เก่าหรือเปลี่ยนงานใหม่ก็ไรกังวล
ปัจจุบันแทบทุกสาขาอาชีพต้องเกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน แต่จะมากหรือน้อยก็แตกต่างกันไป ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้สามารถเข้ามาช่วยการทำงานของคนได้ หรืองานบางอย่างมนุษย์ไม่ต้องลงมือทำเองอีกต่อไปด้วยซ้ำ ไปดูกันว่าคนทำงานในปี 2025 นี้ ต้องเตรียมพร้อมทักษะเทคโนโลยีด้านไหนกันบ้าง
นิยามของคำว่า Digital Literacy หมายถึงความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำเครื่องมือ และอุปกรณ์ดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสื่อสารหรือการปฏิบัติงานได้ หัวใจสำคัญของทักษะนี้จึงเป็นการเรียนรู้ที่จะเข้าใจหลักการทำงานพื้นฐานของเทคโนโลยีตัวที่เราจะต้องใช้งานให้ลึกซึ้ง รู้ว่าจะต้องป้อนคำสั่งยังไง ต้องกดปุ่มไหน ทำความเข้าใจให้ทะลุปรุโปร่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ เมื่อเรารู้วิธีใช้งานเป็นอย่างดี จะทำงานอะไรก็ไม่มีสะดุด ในปีนี้ทักษะการเรียนรู้ที่จะตามเทคโนโลยีให้ทันจะกลายเป็นไฟต์บังคับที่คนทำงานทุกคนไม่รู้ไม่ได้ ในทางกลับกันคนที่ตามเทคโนโลยีไม่ทันก็จะถูกมองว่าตกยุค ไม่ทันคนอื่น หรืออาจจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานได้ด้วย
เมื่อเรามีความรู้และใช้เครื่องมือดิจิทัลสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในทุก ๆ วันของการทำงานจนคล่องแล้ว ลองเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ ทุกวันนี้มีหลายเครื่องมือให้เลือกใช้เพื่อให้งานของเราง่ายขึ้น เมื่อเราใช้เป็นแล้ว ก็อย่าลืมแบ่งปันสอนคนอื่นในที่ทำงานบ้าง ให้ทีมของเราพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน
ทุกวันนี้หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อของ Generative AI หรือ AI ที่ช่วยผลิต Content ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบทความ สรุปความ Brainstorm หาไอเดีย ด้วย ChatGPT การสร้างรูปภาพจากจินตนาการที่คนวาดรูปไม่เป็น ไม่มีทักษะด้านศิลปะก็สามารถเนรมิตผลงานได้ภายในไม่กี่อึดใจด้วย Bing AI หรือ Midjourney แม้การใช้งานในเชิงพาณิชย์แบบเต็มรูปแบบนั้นยังมีปัญหาเรื่องของลิขสิทธิ์อยู่ แต่วงการธุรกิจก็เริ่มให้ความสนใจกับเครื่องมือทุ่นแรงนี้กันมากขึ้น เพราะมันช่วยลดเวลา และช่วยจัดการงาน Routine ให้กับเรา เราสามารถใช้มันในการช่วยหาไอเดีย หรือหาข้อมูลแบบคร่าว ๆ เบื้องต้นได้ ทำให้มีเวลาเหลือไปทำงานอย่างอื่น นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาผู้เชี่ยวชาญด้าน AI หลายคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันในทำนองว่า “มนุษย์เราไม่ต้องกลัว AI จะแย่งงานหรอก เพราะคนที่ใช้งาน AI เก่ง ๆ ต่างหากที่จะเราจะต้องแข่งขันด้วย” คนทำงานคนไหนที่ไม่เคยลองใช้งานเจ้า AI สักที ปี 2025 นี้น่าจะถึงเวลาแล้วที่เราจะเรียนรู้การใช้งาน AI และพัฒนาทักษะเพื่อสร้างแต้มต่อในการทำงานของเรา
ข้อมูลในโลกธุรกิจนั้นเป็นทรัพยากรที่มีค่า คนทำงานที่หาข้อมูลเก่งและใช้ข้อมูลนั้นเพื่อบรรลุเป้าหมายในการทำงานจึงโดดเด่นกว่าคนอื่น เช่น นักการตลาดที่อ่าน Data ได้ อาจจะช่วยให้งานบางอย่างรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องนั่งรอคำอธิบายจากทีมที่ดูเรื่องนั้นโดยตรง หรือมี Mindset ที่เข้าใจการออกแบบ และสามารถดึงข้อมูลเชิงลึกมาใช้ได้มากกว่าคนที่ทำงานในตำแหน่งเดียวกันแต่ไม่ถนัดการอ่านข้อมูลเชิงเทคนิค การผันตัวเองไปเป็นพนักงานออฟฟิศสาย Hybrid ที่นอกจากจะมีความรู้ในงานหลักของตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว ยังมีทักษะการอ่านและวิเคราะห์ข้อมูลมาเสริมจึงทำให้เรามองเห็นโอกาสทางธุรกิจและได้เปรียบมากกว่าคนที่รู้แต่เรื่องงานของตัวเองเพียงอย่างเดียว
สำหรับใครที่สนใจทักษะด้านการใช้ข้อมูลในระดับที่สูงขึ้น เราแนะนำให้ลองศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิชา Data Science และหา คอร์สฝึกฝนทักษะ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) การแปลงข้อมูลเป็นภาพเพื่อการสื่อสารทางธุรกิจ (Data Visualization) รวมไปถึงการคำนวณและสถิติสำหรับการจัดการข้อมูล ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องใช้เวลาฝึกฝนกันสักหน่อย แต่การันตีว่าคุณจะโดดเด่นขึ้นในตลาดแรงงานและเติบโตไปได้ไกลกว่าที่คิดในเส้นทางการทำงานในอนาคตแน่นอน หรือถ้าใครชอบทางนี้ขึ้นมาจริง ๆ อาจจะได้เจอโอกาสใหม่ ๆ จากการย้ายสายงานก็ได้
พูดถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลกันไปแล้ว เรามาดูทักษะในการรับมือกับข้อเสียที่มาพร้อมกับโลกดิจิทัลกันบ้าง ความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นเรื่องที่ทุกบริษัทให้ความสนใจกันมากขึ้น สำหรับองค์กรใหญ่ ๆ จะมีการวางระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยและมีการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลาเพื่อป้องกันการคุกคามใหม่ ๆ จากกลุ่มมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสจากจุดอ่อนของระบบสร้างความเสียทางการเงินและข้อมูลให้กับบริษัท แต่แม้ว่าระบบรักษาความปลอดภัยจะแน่นหนาขนาดไหน ถ้าพนักงานไม่เข้าใจระบบการรักษาความปลอดภัยอย่างถ่องแท้ก็อาจตกเป็นเหยื่อของการโจมตีทางไซเบอร์ได้อยู่ดี การฝึกอบรมทักษะด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงกลายมาเป็นหัวข้อหลักสูตรการอบรมที่บริษัทต่างให้ความสำคัญ เพราะฉะนั้นทักษะนี้จึงไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวหรือเป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นหน้าที่ของพนักงานทุกคนที่ต้องเฝ้าระวังอยู่เสมอในการทำงานแต่ละวัน คนทำงานในยุคใหม่อย่างน้อย ๆ ก็ควรมีความตระหนักในการใช้งานระบบหรือซอฟต์แวร์ของบริษัท ระมัดระวังในการกรอกข้อมูล เช่น Username และ Password ในเว็บเบราว์เซอร์ ไม่คลิก Link ดาวน์โหลดไฟล์ หรือ เปิด Email ที่มีแหล่งที่มาไม่ชัดเจนหรือมี URL แปลก ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การแฝงตัวของไวรัสคอมพิวเตอร์หรือ Malware ที่เข้ามาขโมยข้อมูลได้
การมีทักษะความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์แล้ว ทักษะนี้ยังเป็นประโยชน์กับชีวิตประจำวันของเราด้วย เพราะถ้าเข้าใจหลักการพื้นฐานเรื่องความปลอดภัยและรูปแบบการโจมตีทางไซเบอร์ เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับการใช้งานแพลตฟอร์มหรืออุปกรณ์ดิจิทัลประเภทใด ๆ ก็ตาม เราก็จะมีสติ ไม่ทำผิดพลาดและตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ
ต่อไปเราจะพาไปดูทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในทุกตำแหน่ง ไม่ว่าคุณจะทำงานในสาขาอาชีพ หรือ อุตสาหกรรมไหน ถ้าฝึกฝนทักษะเหล่านี้ไว้ รับรองว่าการทำงานในปีนี้ของคุณจะง่ายขึ้นอย่างแน่นอน
ไม่มีใครสามารถทำงานสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว คำพูดนี้จริงเสียยิ่งกว่าจริงในยุคปัจจุบันที่โลกธุรกิจมีความซับซ้อน แม้ว่าในอดีตเราอาจจะเป็นคนเก่งในการทำงานคนเดียว ลุยเดี่ยววิเคราะห์ข้อมูลอยู่ในมุมหนึ่งของออฟฟิศแล้วประสบความสำเร็จได้ แต่การทำงานในปัจจุบันที่มีขั้นตอนและกระบวนการเกี่ยวข้องมากมาย ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญจากคนหลายแผนก การก้มหน้าก้มตาทำแต่งานของตัวเอง โดยไม่รับรู้ความเป็นไปของเพื่อนร่วมงานต่างแผนก มีแต่จะฉุดรั้งให้เราไม่ได้เติบโต หรือแค่สื่อสารดี นำเสนองานเก่งอาจไม่เพียงพออีกต่อไป การเป็นคนทำงานที่โดดเด่นในปี 2025 คุณต้องเป็น Team Player หรือเป็นคนที่สามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้อย่างดี มีทักษะในการเชื่อมประสาน ส่งไม้ต่อให้คนที่เราทำงานด้วยสามารถทำงานต่อกันได้อย่างราบรื่น ถ้าเวลามีทีมอื่นมาติดต่อขอคุยงานด้วย แล้วทุกคนต่างชี้มาที่คุณ เพราะดีลง่าย อธิบายงานได้เข้าใจเป็นฉาก ๆ หรือ ได้รับมอบหมายให้ไปติดต่องานกับแผนกอื่นบ่อย ๆ มั่นใจได้เลยว่าไม่ว่าในแผนก หรือ ต่างแผนกทักษะการทำงานเป็นทีมแบบนี้นี่แหละที่จะเป็นประโยชน์กับการเติบโตในปีหน้าและปีต่อ ๆ ไปแน่นอน
หางานสำหรับคนมีทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ ที่นี่ และ ที่นี่
การเป็นผู้นำเริ่มได้แม้เรายังไม่ได้เป็นหัวหน้าทีม เพราะหัวใจของการเป็นผู้นำคือการรู้บทบาทหน้าที่การทำงานของสมาชิกแต่ละคนในทีม และจัดสรรให้ทุกคนได้ทำงานอย่างเหมาะสมและเต็มศักยภาพจนทำให้งานบรรลุผลตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งแน่นอนว่านอกจากมีผู้นำแล้วก็ต้องมีผู้ตามด้วย แต่ละคนมีความถนัดไม่เหมือนกัน อยู่ที่ว่าใครจะรับผิดชอบหน้าที่อะไรในแต่ละชิ้นงานที่เข้ามาในแต่ละวัน เมื่อทุกคนได้ทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่มีสะดุด งานก็ย่อมออกมาดี เพราะฉะนั้น ทักษะความเป็นผู้นำจึงจำเป็นสำหรับคนที่เป็นหัวหน้าทีมอยู่แล้ว และคนที่ยังไม่มีตำแหน่งก็สามารถเรียนรู้ทักษะนี้ได้จากการเป็นผู้ตามที่ดีเช่นเดียวกัน
สิ่งที่คนทำงานทุกคนสามารถฝึกความเป็นผู้นำได้เลยวันนี้ไม่ต้องรอให้มีตำแหน่งคือการเป็นแบบอย่างที่ดีในการทำงานให้เพื่อนร่วมทีม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความขยัน ความมีประสิทธิภาพ การแบ่งปันสิ่งที่เป็นประโยชน์ การเป็นผู้ฟังหรือที่ปรึกษาที่ดี หรือมีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นในทีม ขึ้นอยู่กับว่าเราทำสิ่งไหนได้ดี ซึ่งคุณลักษณะเหล่านี้อาจกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนร่วมทีมของเราได้ เมื่อวันที่เราได้เป็นหัวหน้าจริง ๆ ประกอบกับทักษะด้านอื่น ๆ ที่สั่งสมมาตลอดชีวิตการทำงาน เราก็จะสามารถปรับตัวเข้ากับบทบาทใหม่เปลี่ยนจากผู้ตามไปสู่ผู้นำได้อย่างไม่ยากเย็น
หางานสำหรับคนมีทักษะการเป็นผู้นำได้ ที่นี่ และ ที่นี่
การบริหารเวลา การจัดลำดับความสำคัญของงานที่ได้รับมอบหมาย ต่างก็เป็นทักษะที่เราต้องใช้อยู่เสมอ เมื่อเราบริหารงานที่ได้รับมอบหมายได้ดีแล้ว ถ้าปี 2025 นี้อยากอัปเลเวลตัวเองไปอีกขั้น ลองเสนอไอเดียทำ Project ใหม่ ๆ หรือขออาสาทำงานที่ไม่เคยลองแต่คิดว่าเราทำไหว จะเกี่ยวข้องกับงานของเราโดยตรง หรือเป็นงานที่เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมเพื่อพนักงานคนอื่น ๆ ในออฟฟิศของเราก็ได้ การได้ลองบริหารงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในวันนี้จะปูทางไปสู่การบริหารงานที่ใหญ่และท้าท้ายและต้องอาศัยทักษะมากกว่าหนึ่งทักษะ ได้เจอกับความกดดันทั้งเรื่องเวลา การประสานงานกับคน และอาจจะต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เราจะได้ฝึกตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมสู่ความก้าวหน้าหรือเป็นผู้บริหารในอนาคตได้อีกด้วย
หางานสำหรับคนมีทักษะการบริหารจัดการได้ ที่นี่ และ ที่นี่
ถึงจะไม่ได้ทำตำแหน่งนักวิเคราะห์แต่การวิเคราะห์ข้อมูลหรือสถานการณ์ต่าง ๆ และการตัดสินใจที่ดีนั้นสามารถฝึกฝนกันได้ไม่ว่าเราจะทำงานในสายงานไหน การเป็นคนที่มีทักษะการวิเคราะห์จะทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะเราได้เอาข้อมูลต่าง ๆ ทั้งที่เราหามาเองและที่ได้มาจากคนอื่น มาวิเคราะห์อย่างรอบด้าน และตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลเหล่านั้น คนที่ทำงานเก่งก็เพราะพวกเขามีความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน รู้ว่าต้องหาข้อมูลได้จากไหน และใช้วิธีการอย่างไร ที่สำคัญคือนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และนำไปใช้ต่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการทำงาน การวิเคราะห์อย่างมีหลักการจนนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องจึงสร้างความแตกต่างในการทำงานและทำให้เราเป็นพนักงานที่ทุกบริษัทต่างต้องการตัว
หางานสำหรับคนมีทักษะการคิดวิเคราะห์ได้ ที่นี่ และ ที่นี่
ในออฟฟิศที่พนักงานแต่ละคนมีสไตล์การทำงาน บุคลิกและการแสดงออกทางอารมณ์ต่อสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป การทำงานอาจมีความขัดแย้ง โต้เถียงกัน หรือมีการแสดงออกทางสีหน้าท่าทางที่อาจกลายเป็นชนวนไปสู่การเผชิญหน้า หรือการมีปากมีเสียงกันได้ ความฉลาดทางอารมณ์จึงมีบทบาทสำคัญในการอยู่ร่วมกันในสังคมการทำงาน คนทำงานยุคใหม่ควรฝึกทักษะการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสมเคารพซึ่งกันและกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบเจ้านาย-ลูกน้อง พี่ น้อง เพื่อนร่วมงาน พี่แม่บ้าน หรือพี่รปภ. รู้จักสังเกตท่าทีของคู่สนทนา เมื่อสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายแสดงออกถึงความไม่พอใจ ก็ให้ถ้อยทีถ้อยอาศัย ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ในการตัดสินใจหรือแสดงพฤติกรรมในที่ทำงาน หรือถ้าเราเป็นคนกลางแล้วเห็นบรรยากาศไม่ดี ก็ควรช่วยเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย สร้างความสามัคคีให้กับสมาชิกในทีมทุกคน ถ้าทำได้แบบนี้ไม่ว่าจะเจอความกดดันหรือความขัดแย้งแบบไหน ก็ทำให้เราจับมือพากันบรรลุเป้าหมายการทำงานได้ โดยไม่มีใครต้องเป็นผู้บาดเจ็บทางจิตใจในที่ทำงาน สังคมในที่ทำงานก็จะแฮปปี้
หางานที่ต้องมีความฉลาดทางอารมณ์ได้ ที่นี่ และ ที่นี่
แน่นอนว่าทักษะการคิดสร้างสรรค์สุดบรรเจิดอาจเป็นพรสวรรค์ของคนทำงานบางสาขาอาชีพที่ต้องเสนอไอเดียสุด Creative ให้ลูกค้าตัดสินกันทุกวัน แต่ในโลกธุรกิจทุกวันนี้ใคร ๆ ก็พูดถึงนวัตกรรมหรือไอเดียใหม่ที่สร้างความแตกต่างในตลาด โดยการจะได้ไอเดียธุรกิจที่ไม่ซ้ำใคร ก็จำเป็นต้องมีทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์เช่นกัน และไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำงานอยู่สายงานไหนก็สามารถมีทักษะนี้ได้ ถ้าเรารู้สึกว่าอยากลองฝึกสกิลนี้บ้างแล้วไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ก็ลองตั้งคำถามกับงานที่ทำอยู่ในแต่ละวัน แล้วหาเวลาฝึกคิดว่างานที่ทำอยู่สามารถเปลี่ยนแปลงตรงไหนได้ ปรับปรุงส่วนนี้แล้วจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิมได้หรือไม่ อะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนแล้วพอจะกลายเป็นจริงได้ การฝึกทักษะความคิดสร้างสรรค์จึงสำคัญที่เราสามารถเอาไอเดียนั้นมาประยุกต์ใช้กับการทำงานจริง ๆ ของเรายังไง ถ้ามีไอเดียใหม่ลองไปคุยกับเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าดู เผื่อช่วยกันต่อยอดแล้วเป็นประโยชน์กับการทำงานของทีมหรือองค์กรของเราได้ รวมถึงถ้าใครกำลังมองหางานใหม่ ก็สามารถนำเอาเคสที่เราเคยแสดงความคิดสร้างสรรค์และถูกหยิบยกไปเป็น Project ประดับพอร์ตโฟลิโอ สร้างความโดดเด่นให้กับเราในการสัมภาษณ์งานได้อีกด้วย
หางานสำหรับคนมีทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์ได้ ที่นี่ และ ที่นี่
คนเราต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะในการดำเนินชีวิตหรือการทำงาน เราขับรถมาทำงานตอนเช้าเจอรถติด ก็ต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางเพื่อไปให้ถึงที่ทำงานให้ทันเวลา การทำงานก็ไม่ต่างกัน แต่ละวันเราอาจจะเจอปัญหาเฉพาะหน้าในการทำงาน เจอการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายตำแหน่ง เปลี่ยนสภาพแวดล้อมหรือรูปแบบการทำงาน เปลี่ยนหัวหน้า เปลี่ยนโครงสร้างองค์กร หรือได้รับมอบหมายให้ไปทำงานในหน้าที่ใหม่ การปรับตัวให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงจึงเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญ ยิ่งโลกธุรกิจยิ่งมีปัจจัยมากกมายที่จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของเรา งานของบริษัทเราอาจจะเหมือนเดิม แต่ก็มีบางครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงมาจากภายนอก เช่น คนที่เราติดต่อทำธุรกิจด้วยเป็นประจำของบริษัทคู่ค้าลาออกไป เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะรู้จักกับคนที่มาทำหน้าที่แทน ซึ่งก็ต้องใช้เวลาทำความรู้จักหรือใช้วิธีการเข้าหาทำความคุ้นเคยกันใหม่เพื่อให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น การเปลี่ยนแปลงจึงเป็นธรรมชาติของโลกธุรกิจ อยู่ที่ว่าใครจะปรับตัวได้ช้าหรือเร็วขนาดไหน การเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์การทำงานอย่างเหมาะสมจึงเป็นอีกหนึ่งทักษะที่เราจะต้องได้ใช้ในปี 2025 อย่างแน่นอน
หางานสำหรับคนมีทักษะในการปรับตัวได้ ที่นี่ และ ที่นี่
การเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ไม่จำกัดเพียงแค่การศึกษาในห้องเรียน แต่ยังรวมถึงการเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การอ่านหนังสือ การฟัง Podcast การแลกเปลี่ยนไอเดียกับคนที่น่าสนใจเมื่อได้เข้าร่วมการอบรม สัมมนา ตลอดจน การเรียนคอร์สออนไลน์ คนทำงานที่มีทักษะนี้จะรู้จักการใช้ทุกโอกาสในการเรียนรู้และเพิ่มศักยภาพของตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการสังเกต การจดจำเทคนิคที่เป็นประโยชน์จากที่ทำงาน หรือศึกษาเพิ่มเติมด้วยตัวเอง และนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
ประโยชน์โดยตรงของการเรียนรู้ตลอดชีวิตคือ เราจะได้เปรียบในการแข่งขันในการทำงาน เพราะไม่ว่าวิธีการทำงานของสายงานที่ทำอยู่จะเปลี่ยนไปขนาดไหน หรือจะมีเทคโนโลยีตัวใหม่ ๆ มาเราก็พร้อมที่จะปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตามเทรนด์ได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันบริษัทก็จะมองเห็นว่าคนที่มีทักษะนี้ มีความมุ่งมั่น มีทัศนคติที่เปิดกว้างในการทำงาน เมื่อมีงานที่ท้าทายและต้องอาศัยความสามารถ ก็มีโอกาสได้รับมอบหมายงานที่สำคัญ นำไปสู่โอกาสในการเติบโตในอาชีพ ทั้งได้เงินเดือนสูงขึ้น ได้เลื่อนตำแหน่ง มีความก้าวหน้าในองค์กรมากกว่าคนทำงานทั่วไป
หางานสำหรับคนมีทักษะการเรียนรู้ได้ ที่นี่ และ ที่นี่
โลกการทำงานอาจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สิ่งที่คนทำงานอย่างเราต้องทำก็คือการปรับตัวให้เข้ากับโลก ด้วยการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะการทำงานของตัวเองให้พร้อมรับกับโอกาสใหม่ ๆ ในชีวิต JobThai พร้อมอยู่เคียงข้างคนทำงาน สรรหา Content ดี ๆ มานำเสนอตลอดทั้งปี ไม่ว่าปีนี้ ปีหน้า หรือปีไหน ๆ
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
ที่มา:
aws.amazon.com, conted.ox.ac.uk, coursera.org, emeritus.org, forbes.com, ict.dmh.go.th, linkedin.com, ocsc.go.th, sciencedirect.com, techsauce.co, uk.indeed.com, westernsydney.edu.au
