หลังจากเดินทาง Road Show ไปพบปะน้อง ๆ มหาวิทยาลัยรังสิต ในวันที่ 6 มิถุนายน 2024 กับโครงการ Unlock U โครงการที่จะช่วยคนรุ่นใหม่ปลดล็อกตัวตน ค้นหาเส้นทางที่ใช่ ปลุกแรงบันดาลใจในการมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จ คราวนี้ก็มาถึงจุดหมายที่สอง นั่นคือมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (รังสิต) โดยทีมงาน JobThai ได้ยกทัพไปจัดบูธเพื่อช่วยน้อง ๆ เตรียมความพร้อมในการหางานและแนะนำวิธีการใช้งาน JobThai Platform เพื่อหางานที่ตรงใจ ใช่สำหรับตัวเอง เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2024 ที่ผ่านมา

นอกจากช่วยแนะนำฟีเจอร์และวิธีการใช้งานแพลตฟอร์ม พร้อมมอบของที่ระลึกเป็นสติกเกอร์สำหรับน้อง ๆ ม.กรุงเทพโดยเฉพาะแล้ว ภายในบูทยังมีกิจกรรมสนุก ๆ อย่างการเล่นเกมตอบคำถามเกี่ยวกับ JobThai เพื่อลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษอีกด้วย

สำหรับ Talk Session หรือเซสชันพูดคุยเพื่อแชร์แนวคิด ประสบการณ์ และมุมมองชีวิตที่ถือเป็นไฮไลต์ของงานที่ทุกคนตั้งตาคอย ครั้งนี้มาในหัวข้อ “ก้าวข้าม” นำทีมโดย Unlock Talkers ระดับประเทศ 5 ท่าน ได้แก่ วู้ดดี้ วุฒิธร, เคน  นครินทร์ (The Standard), โอ๊ต ปราโมทย์, ฝน ทัตชญา (Monster Fon) และรัศมีแข

โดยก่อนจะไปพูดคุยเจาะชีวิต Talkers แต่ละคน คุณเคนก็ได้ขึ้นเวทีบรรยายเพื่อปลุกแรงบันดาลใจให้กับน้อง ๆ ม.กรุงเทพ โดยได้ฝากประเด็นเรื่องการก้าวข้ามเอาไว้ 4 อย่างที่อยากให้ทุกคนเอาชนะและข้ามผ่านไปให้ได้ ได้แก่

1. ก้าวข้ามค่านิยมในสังคม ไม่ต้องไปสนใจว่าค่านิยมอะไรที่คนในสังคมบอกว่าดี คนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งเดียวกัน เราแค่หาให้เจอว่าตัวเองสนใจอะไร อยากเป็นหรืออยากทำอะไรก็พอ เพราะการทำตามค่านิยมไม่ได้การันตีว่าจะทำให้เรามีความสุข แต่การทำตามหัวใจตัวเองเป็นสิ่งที่เรามั่นใจได้ว่าเติมเต็มตัวเราแน่ ๆ

2. ก้าวข้ามความกลัว อย่ากลัวที่จะทำตามความฝัน คนหนุ่มสาวก็เหมือนคนมีปีก ถ้าไม่ใช้ปีกบิน ปีกนั้นก็จะกลายเป็นส่วนเกินของชีวิต ดังนั้นถ้าเรารู้ตัวเองแล้วว่าอยากทำอะไร ก็อย่าปฏิเสธมัน ควรปล่อยให้ความกล้าในตัวทำงานและเอาชนะความกลัวในใจให้ได้

3. ก้าวข้ามความสามารถ เมื่อเราเริ่มเดินทางตามความฝัน เราอาจพบว่าเส้นทางนั้นขรุขระและไม่ราบรื่น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ในช่วงแรกของการทำงาน ถ้าเรารู้สึกว่าเราไม่เก่ง ไม่ประสบความสำเร็จ ก็ไม่ต้องท้อใจ ให้ทำต่อไป คนเราใช่ว่าเกิดมาแล้วจะว่ายน้ำเป็นเลย ทุกคนต้องฝึกฝนกันทั้งนั้น การทุ่มเทและความพยายามจะช่วยให้เราสามารถก้าวข้ามความสามารถของเราได้ในท้ายที่สุด

4. ก้าวข้ามการมองผลประโยชน์ตัวเอง เมื่อเราเริ่มเก่งและประสบความสำเร็จ การมีแพสชันให้กับสิ่งที่ตัวเองชอบเป็นสิ่งที่ดี แต่เราต้องคิดถึงสังคม คิดถึงโลกด้วย ลองมองหาดูว่าเราอยากสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรให้กับโลกหรือกับคอมมูนิตี้ในสังคม แล้วเปลี่ยนความอยากทำเพื่อคนอื่นเป็นฟันเพืองในการสร้างความเปลี่ยนแปลงนั้นให้เกิดขึ้นจริง

หลังจบการบรรยายก็เข้าสู่ช่วงทอล์กแชร์ประสบการณ์ชีวิตในวัยค้นหาตัวตนของเหล่า Talkers ซึ่งแต่ละท่านก็มีภูมิหลังด้านการศึกษาและการทำงานที่หลากหลาย จึงได้ให้กำลังใจถึงประเด็นที่น้อง ๆ หลายคนมักกังวล นั่นคือไม่รู้ว่าเรียนจบแล้วจะทำอะไรดี ไม่รู้ว่าสิ่งที่เลือกเรียนในวันนี้ใช่ตัวเองมั้ย หรือไม่แน่ใจว่าจะได้เอาสิ่งที่เรียนมาไปใช้ทำงานจริงหรือเปล่า

เหล่า Talkers ต่างก็เห็นตรงกันว่าไม่เป็นไรเลย ไม่ต้องกลุ้มใจเพราะ Talkers หลายท่านก็ไม่ได้ทำงานตรงสายกับสิ่งที่เรียนมา อย่างคุณเคนที่วันนี้ทำงานด้านสื่อมวลชนก็เรียนจบเภสัชศาสตร์ หรือคุณวู้ดดี้ที่ทำงานสายบันเทิง เป็นพิธีกรสัมภาษณ์คนต่าง ๆ ก็เรียนจบเศรษฐศาสตร์มาเหมือนกัน ดังนั้นน้อง ๆ ไม่ต้องกังวล แม้การใช้เวลาเรียนสี่ปีจะสำคัญ แต่สิ่งที่เราได้จากนอกห้องเรียนอย่างการทำกิจกรรม การเข้าชมรม รวมถึงคอนเนกชันต่าง ๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน

ถ้าในอนาคตเราได้ทำงานตรงสายก็ดี แต่ถึงจะไม่ได้ทำงานตรงสาย สิ่งที่เราเรียนมาก็ใช่ว่าจะสูญเปล่า เพราะเราได้เรียนรู้วิธีการคิด การวิเคราะห์ และการมองสิ่งต่าง ๆ จากคณะที่เราเรียนมาด้วย ซึ่งสามารถเอาไปต่อยอดในการทำงานได้ อย่างเช่นคุณฝนที่ปัจจุบันทำงานด้านครีเอทีฟก็แชร์ว่าได้ใช้ทักษะที่ได้จากการเรียนศิลปะในอดีตค่อนข้างมาก

และสำหรับใครที่ยังหาตัวเองไม่เจอก็ไม่เป็นไร อาชีพแรกที่ทำอาจไม่ใช่อาชีพที่ใช่สำหรับเราจริง ๆ ก็ได้ คุณเคนเองก็ใช้เวลาระยะหนึ่งเหมือนกันกว่าจะก้าวข้ามจุดที่เดินตามค่านิยมในสังคมได้ กว่าจะค้นหาสิ่งที่ตัวเองอยากทำจริง ๆ เจอ เพราะฉะนั้นในช่วงที่ยังไม่รู้ตัวเองก็ลองไปก่อน ไม่ต้องกลัวว่าเราจะเสียเวลาเปล่า เพราะทุกการลอง เราได้อะไรกลับมาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ คอนเนกชัน ทักษะในการทำงานนั้น ซึ่งสามารถเอามาปรับใช้กับงานต่อ ๆ ไปในอนาคตได้ เก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอตัวเอง

เส้นทางการ Road Show ของเรายังไม่จบเพียงเท่านี้ ยังมีอีก 2 มหาวิทยาลัยที่ JobThai และทีม Unlock Talkers จะเดินทางไปช่วยปลดล็อกตัวตน ได้แก่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) ในวันที่ 14 สิงหาคม 2024 และมหาวิทยาลัยมหิดล (ศาลายา) ในวันที่ 19 สิงหาคม 2024 แต่ละจุดหมายจะมีไฮไลต์อะไรที่น่าสนใจบ้าง รอติดตามกันได้เลย!