คนมักเข้าใจว่าเมื่อเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ นั่นหมายความว่าวุฒิภาวะของเราก็จะโตขึ้นเช่นเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วหลายคนกำลังเข้าใจผิดกับคำว่า “โตขึ้นตามวัย” และ “โตเป็นผู้ใหญ่” สองคำนี้ค่อนข้างแตกต่างกัน เพราะคำว่าโตขึ้นตามวัย คือการการแก่ลงไปตามวัย หรือการเจริญวัย แต่โตเป็นผู้ใหญ่ คือการเจริญเติบโต อย่างมีวุฒิภาวะ JobThai เลยจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจกับคำว่าวุฒิภาวะให้มากขึ้น รวมถึงบอกวิธีเช็กตัวเองง่าย ๆ ว่าคุณมีวุฒิภาวะที่โตพอแล้วหรือยัง
ในทางจิตวิทยา “วุฒิภาวะ” หมายถึงความสามารถในการตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมอย่างถูกกาลเทศะ รวมถึงยอมรับและพร้อมรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองเป็น ซึ่งการมีวุฒิภาวะที่โตแล้วนั้น ยังรวมถึงการมีเป้าหมายชีวิต ใช้ชีวิตอย่างมีทิศทางและมีความหมาย ซึ่งต่างจากคนที่ยังไม่มีวุฒิภาวะพอ พวกเขาจะใช้ชีวิตแบบไม่มีทิศทาง รวมถึงไม่สามารถควบคุมอารมณ์และมีพฤติกรรมที่สามารถสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองและผู้อื่นได้
ในสังคมปัจจุบันคุณอาจจะได้พบเจอคนมากมาย เช่น คนอายุน้อยแต่มีความคิดโตกว่าผู้ใหญ่บางคน หรือคนอายุมากแต่คำพูดและการกระทำกลับไม่มีมารยาทและไม่เคารพผู้อื่น ดังนั้นวุฒิภาวะจึงไม่เกี่ยวอะไรกับอายุ แต่คือสิ่งที่คุณต้องสร้างขึ้นด้วยตัวเอง ซึ่งเกิดได้จากสภาพแวดล้อมและการฝึกฝนความคิดและจิตใจเป็นหลัก ถ้าคุณเป็นนายความคิดและคำพูดตัวเอง ไม่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือทุกสิ่ง สิ่งที่คุณแสดงออกมาจะบอกถึงวุฒิภาวะภายในของตัวคุณเอง
ในโลกของการทำงาน ทุกคนต่างมาจากครอบครัวที่มีการอบอรมสั่งสอนต่างกัน รวมถึงมีการศึกษาที่ไม่เหมือนกันด้วย แต่เมื่อต้องมาทำงานร่วมกับคนอื่น นอกจากต้องมีความฉลาดทางสติปัญญา มีความรู้ความสามารถในการทำงานแล้ว คุณยังจำเป็นต้องมีวุฒิภาวะด้วย ถ้าคุณมีวุฒิการศึกษาแต่ขาดวุฒิภาวะ คุณอาจจะได้เข้าทำงานในตำแหน่งที่เหมาะสมกับความเก่งของคุณก็จริง แต่เวลาทำงานไปเรื่อย ๆ การอยู่ร่วมกันในสังคมกับผู้อื่นจะค่อนข้างยาก เพราะคนขาดวุฒิภาวะจะมองโลกแง่ลบมากกว่าบวก เป็นคนที่ขาดความรับผิดชอบ ชอบตัดสินคนอื่น ไม่ค่อยมีจุดหมาย รวมถึงชอบใช้อารมณ์มากกว่าสติ
ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าตัวเองโตแค่อายุแต่วุฒิภาวะยังต่ำอยู่ หรือ โตทั้งอายุและวุฒิภาวะ เรามี 7 สิ่งที่จะบอกว่าวุฒิภาวะของคุณโตแล้วหรือยัง มาให้ทุกคนได้ลองเช็กตัวเองกันว่ามีหรือไม่มีข้อไหนบ้าง
คนขาดวุฒิภาวะเมื่อเริ่มหัดทำอะไรไปนิดเดียว ก็จะหวังผลตอบแทนทันที พอไม่เห็นผลทันใจก็ล้มเลิกง่าย ๆ แต่คนมีวุฒิภาวะจะมองไปถึงอนาคต มองว่าโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่ “ทำง่าย” และ “สำเร็จเร็ว” ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องจ่ายเพื่อมันก่อน รวมถึงรู้ดีว่าคนที่ประสบความสำเร็จจะไม่มีวันละทิ้ง เพราะคนที่ละทิ้งจะไม่มีวันประสบความสำเร็จ
คนเราทุกคนพัฒนาได้ ดังนั้นคนมีวุฒิภาวะจะมีจิตใจที่เปิดกว้างพร้อมรับสิ่งใหม่ ๆ ชอบการศึกษาหาความรู้ ไม่ยอมหยุดเรียนรู้เพราะคิดว่าตัวเองฉลาดพอแล้ว รวมทั้งจะชอบมองหาเรื่องดี ๆ และมีทัศนคติที่เป็นด้านบวกมากกว่าคิดและฟังเรื่องร้าย ๆ ที่เป็นด้านลบ เพราะคิดว่าการเอาแต่ดูดซับความคิดที่เป็นพิษ มันจะกัดกร่อนจิตใจและชีวิตให้มีแต่มุมมองด้านลบต่อทุกสิ่ง
คุณจะไม่ตัดสินคนอื่นว่าเขาเป็นคนยังไง โดยเฉพาะการที่ไม่ได้รู้จักตัวตนของเขาจริง ๆ ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมกับเขา และคุณจะมองว่าทุกคนมีข้อดีและข้อเสียในตัวด้วยกันทั้งนั้น การตัดสินคนอื่นเร็วไปจะทำให้คุณพลาดโอกาสในการรู้จักด้านดีของเขา รวมถึงคุณจะไม่ชอบการบังคับให้คนอื่นมาเห็นด้วย เพราะเชื่อว่าทุกคนมีมุมมองความคิดเป็นของตัวเอง และไม่มีใครชอบถูกคนอื่น “ยัดเยียด”ความคิดมาให้อยู่แล้ว
คนมีวุฒิภาวะจะไม่ชอบเอาความสุขไปผูกไว้ที่คนอื่น แต่เชื่อว่าความสุขสร้างขึ้นได้ด้วยตัวเอง รวมถึงเชื่อว่าการให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการให้อภัย ดังนั้นเวลามีเรื่องทะเลาะกับใคร จะพยายามก้าวข้ามผ่านความโกรธและความเคียดแค้นในใจให้ได้ แม้ว่ามันอาจจะยากในช่วงแรก แต่การให้อภัยคือการปลดบ่วงที่ติดค้างในใจออกไป เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของตัวเองและความสัมพันธ์ของคนรอบข้าง
ทุกคนมีอดีต และผ่านมันมาแล้วด้วยกันทั้งนั้น คนมีวุฒิภาวะจะเชื่อว่าการจดจำอดีตไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องจดจำแล้วเอามาเป็นบทเรียนราคาแพง คนที่จมกับอดีตคือคนที่ขุดหลุมฝังตัวเองไว้ตรงนั้น ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ คนที่ก้าวไปข้างหน้าคือคนที่ไม่แบกความความผิดพลาดในอดีตติดตัวมาปัจจุบัน และไม่กลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึงด้วย
การพูดถึงข้อดีของคนอื่นจะช่วยสร้างมิตรมากกว่าศัตรู และการมองเห็นข้อดีคนอื่นเก่ง ก็จะทำให้เราเห็นข้อดีของตัวเองเก่งเหมือนกัน คนมีวุฒิภาวะจะพยายามพูดถึงข้อดีของคนอื่น เข้าใจว่าคำพูดบางประโยคสามารถบั่นทอนจิตใจคนฟังได้ และคำพูดที่ไม่ดีมันก็จะเป็นเหมือนมีดที่บาดลึกอยู่ในใจคนฟังไปนาน แม้จะเป็นความจริง ถ้าต้องพูดเรื่องที่ไม่ดี จะพูดด้วยวิธีการและท่าทีที่ถนอมน้ำใจคนฟัง รวมถึงจะใช้สติทุกครั้งก่อนพูด จะไม่พูดเพื่อความสะใจส่วนตัว เพราะคำพูดที่หลุดจากปากไม่อาจเรียกกลับคืนได้ รวมถึงเลือกที่จะไม่พูดหรือพูดให้น้อยลงเมื่อเห็นว่าการโต้เถียงกลับไปนั้นไร้ประโยชน์ถ้าอีกฝ่ายไม่เปิดใจ
เมื่อเกิดอารมณ์โกรธ คุณจะมีสติพอที่จะไม่ปล่อยให้อารมณ์พาไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้าย เมื่อมีเรื่องต้องตัดสินใจ คุณจะใช้สติใคร่ครวญคิดให้รอบคอบ การตัดสินสิ่งต่าง ๆ อย่างวู่วามคือการใช้อารมณ์ตัดสินแทนสติ ซึ่งมีแต่จะเสียกับเสีย เพราะคุณเชื่อเสมอว่าปัญหามีไว้ให้แก้ไข ไม่ใช่เอาไว้ทำลายตัวเอง รวมถึงถ้าเผลอทำผิดพลาดอะไรไป คุณก็พร้อมยอมรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นอย่างไม่ลังเล
การพัฒนาวุฒิภาวะให้สูงขึ้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้ทั้งเวลา และความพยายาม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสมาคมกับผู้อื่น การฝึกความอดทน มีความจริงใจต่อตนเองและสังคมรอบข้าง กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง รวมถึงเป็นนายความคิดและคำพูดของตัวเอง อย่าปล่อยให้ความไร้สติอยู่เหนือสิ่งเหล่านี้ เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณไม่ใส่ใจในสิ่งที่ตัวเองคิด สิ่งทีตัวเองพูด สิ่งที่ตัวเองทำ สิ่งที่คุณแสดงออกมาจะแสดงถึงวุฒิภาวะของตัวคุณเอง
ฝากประวัติเพื่อหางานที่ใช่ได้ ที่นี่
|
|
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน