ในปัจจุบันทุกอุปกรณ์ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตสามารถพาผู้ใช้เข้าไปโลดแล่นในโลกออนไลน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด เราสามารถทำแทบทุกอย่างที่ต้องการได้ผ่านทางออนไลน์ ทั้งการแชทคุยกับเพื่อน ซื้อของ หรือแม้แต่การหางาน สมัครงาน ที่ทุกวันนี้นอกจากแพลตฟอร์มประกาศงานออนไลน์ที่น่าเชื่อถือแล้ว ยังมีโพสต์ประกาศงานบน Social Media อีกด้วย แต่ก็ใช่ว่าเราจะสามารถเชื่อใจทุกโพสต์ที่ขึ้นมาบนหน้าฟีดของเราได้ ในเมื่อบางครั้งเราอาจยังไม่เคยเห็นหน้าเห็นตาคนที่โพสต์ประกาศงานจริง ๆ เลยด้วยซ้ำ จนทำให้มีผู้สมัครหลายคนที่เจอกับโพสต์ประกาศงานปลอม ถูกหลอกเก็บข้อมูลส่วนตัว ถูกหลอกเอาเงินแถมยังไม่ได้งานหรือไม่ก็ถูกชวนไปเล่นพนัน
วันนี้ JobThai ขอพามาดูว่าเราจะป้องกันการ “โดนหลอก” จากโพสต์ประกาศงานบนโลกออนไลน์ยังไงได้บ้าง
พอไถ ๆ หน้าจอโทรศัพท์ไปสักพักแล้วเห็นว่ามีโพสต์ประกาศงานที่ตรงกับความสนใจของเรา สิ่งแรกที่ต้องทำคืออ่านรายละเอียดต่าง ๆ ในโพสต์ประกาศงานนั้นให้ดี ไม่ว่าจะเป็น
- ประกาศงานตำแหน่งอะไร
- มีหน้าที่อะไรบ้าง
- ชื่อบริษัทหรือร้านค้าอะไร
- ที่ทำงานตั้งอยู่ที่ไหน ย่านไหน
- มีสวัสดิการรึเปล่า
- ใน Job Description หรือรายละเอียดงาน มีเขียนอะไรเพิ่มเติมไหม
- เงินเดือนเป็นยังไงบ้าง
- ช่องทางการติดต่อ มีอีเมลที่เชื่อถือได้ หรือมีเบอร์โทรศัพท์ที่เป็นเบอร์สำนักงานไหม
เมื่ออ่านจบทั้งหมดแล้วเราควรจะเห็นภาพคร่าว ๆ แล้วว่างานนั้นเป็นงานแบบไหน ถ้ารายละเอียดงานยังคงมีความคลุมเครือ ไม่ชัดเจน อ่านจบแล้วยังงง ๆ เหมือนได้ข้อมูลไม่ครบ ก็อย่าเพิ่งไว้ใจประกาศงานนั้นเป็นอันขาด
ถึงจะอ่านรายละเอียดงานจนเห็นภาพพอสมควรแล้ว เราก็ต้องไม่ลืมที่จะพิจารณาความสมเหตุสมผลของตำแหน่งงานนั้น ๆ ด้วย ถ้าบางที่เสนอรายรับให้เราสูง ๆ แบบที่ว่าสูงเกินกว่าที่ตำแหน่งนั้น ๆ ควรจะได้ตามปกติ แถมยังได้ทำงานแค่ไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน หรือต่อสัปดาห์ ไม่พอยังมีสวัสดิการดี ๆ ให้อีกเยอะแยะเลย พออ่านมาแล้วมันเหมือนกับว่าเราดูเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบมากจนเกินไป แล้วทางบริษัทที่รับสมัครจะไม่เสียเปรียบเหรอ? นี่แหละคือประเด็นที่น่าสงสัยสุด ๆ เพราะมันอาจจะเป็นแค่การเอาประโยคเหล่านี้มาหลอกล่อเพื่อให้คนอ่านที่สนใจติดต่อไปก็ได้
ทุกครั้งที่อ่านโพสต์ประกาศงานให้สังเกตการเขียนประกาศให้ดีว่ามีการใช้ภาษาเป็นยังไง บริษัทต่าง ๆ ที่เปิดรับพนักงานมักจะไม่มองข้ามเรื่องนี้เพราะมันเป็นอะไรที่มีผลกับความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์องค์กรเป็นอย่างมาก ประกาศงานที่เป็นของจริงส่วนใหญ่จะใช้ภาษาที่เป็นทางการ ใช้ถ้อยคำที่ถูกต้อง ไม่พิมพ์ผิดจนน่าเกลียด เพราะจะต้องมีการตรวจทานคำก่อนโพสต์ประกาศงาน
ลองดูประโยครับสมัครงานตำแหน่งเดียวกันนี้สิ ว่าอันไหนน่าเชื่อถือกว่ากัน ระหว่างประกาศงานแรก...
กับประกาศงานที่สอง...
ถึงเราจะอ่านรายละเอียดงานจนรู้ชื่อบริษัทหรือร้านค้านั้น ๆ แล้วก็อย่าเพิ่งวางใจไป เดี๋ยวนี้โพสต์ประกาศงานออนไลน์บางโพสต์ถึงขั้นตั้งชื่อบริษัทปลอมเพื่อหลอกให้คนหางานติดต่อไป หรือบางรายก็ปลอมตัวเป็นบริษัทหรือองค์กรที่มีชื่อเสียงเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น ดังนั้นเราต้องเช็กให้ชัวร์ก่อนว่ามีบริษัทนั้นอยู่จริงรึเปล่า ถ้ามีจริง เขาดำเนินงานเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการอะไร มีออฟฟิศหรือสถานที่ทำงานตั้งอยู่ที่ไหน
อย่างไรก็ตามถึงเราจะเช็กจนแน่ใจว่าเป็นบริษัททีมีอยู่จริงและน่าเชื่อถือประมาณนึง ก็อย่าเพิ่งสมัครจนกว่าจะรู้บริษัทนี้กำลังประกาศหาพนักงานในตำแหน่งนี้จริง ๆ รึเปล่า โดยคุณสามารถเข้าไปดูในแพลตฟอร์มหางานออนไลน์ เพื่อหาว่ามีประกาศงานในตำแหน่งที่เราเห็นจากโพสต์ก่อนหน้านี้อยู่จริงรึเปล่า หรือถ้าในโพสต์ประกาศงานที่เราเห็นตอนแรกมีแนบเบอร์โทรติดต่อกลับเอาไว้ในโพสต์ คุณจะโทรไปถามเพื่อความแน่ใจเลยก็ได้ แต่ก่อนจะโทรก็อย่าลืมเช็กหมายเลขที่ได้มาให้ดีก่อนว่าเป็นเบอร์ของบริษัทนั้นจริง ๆ
ก่อนที่จะเริ่มกดโทรออกเพื่อติดต่อถามรายละเอียดงาน คุณต้องแน่ใจก่อนว่าเบอร์ที่ได้มานั้นไม่ใช่เบอร์สแปมหรือเบอร์ของบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งเทคโนโลยีเดี๋ยวนี้ก็พอจะช่วยเราในเรื่องนั้นได้แล้ว โดยเราสามารถเอาเบอร์ไปเช็กในแอปฯ คัดกรองเบอร์โทรอย่างแอปฯ Whoscall หรือ Truecaller เพื่อความปลอดภัยก่อนโทรถามรายละเอียดงาน เราสามารถพิมพ์เบอร์โทรที่เราสงสัยลงไปในแอปฯ เพื่อคัดกรองว่าเบอร์นั้น ๆ เป็นเบอร์ของพนักงานส่งของ ขายประกัน หรือเป็นเบอร์โทรที่ไม่น่าไว้ใจรึเปล่า
นอกจากนี้แอปฯ เหล่านี้ยังสามารถช่วยเราบล็อกเบอร์สแปมได้ ถ้ามีคนปลอมตัวเป็น HR โทรมาหาเราและแกล้งทำทีเหมือนโทรมาเพื่อติดต่องาน มันก็จะเด้งโชว์ขึ้นมาก่อนตัดสินใจรับสายว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์ที่ไม่ควรรับสาย
ถ้าคุณยังไม่ได้สัมภาษณ์งานใด ๆ เลย หรือได้คุยแค่สักครู่หนึ่งผ่านทางโทรศัพท์แล้วอีกฝ่ายบอกว่าคุณผ่านสัมภาษณ์งานแล้ว และขั้นต่อไปคือจะให้คุณส่งข้อมูลส่วนตัวอย่างสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ล่ะก็ ระวังไว้ให้ดี เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ควรตกไปอยู่ในมือของคนที่เราเองก็ไม่รู้จักดี ซึ่งอาจถูกเอาไปใช้อย่างผิดกฎหมายได้
บางครั้งการหลอกเอาข้อมูลคนหางานอาจมาในรูปแบบของลิงก์ปลอม ที่เห็นแล้วเหมือนโพสต์ฟอร์มกรอกข้อมูลสมัครงานทั่วไป แต่พอกดเข้าไปที่ลิงก์จริง ๆ แล้วเป็นลิงก์ปลอมที่ไม่ได้พาเข้าไปที่ฟอร์มการสมัครงานที่เชื่อถือได้ แต่พาเข้าไปที่เว็บไซต์ปลอมที่หลอกให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัวแบบละเอียดยิบเลยต่างหาก
นอกเหนือจากการขอข้อมูลแล้ว บางคนอาจเจอกรณีให้โอนจ่ายเงินค้ำประกันก่อนเริ่มงาน แต่พอจ่ายแล้วเขาก็เชิดเงินหายไปเลย ทำเอาเรานั่งงงว่าควรเอายังไงดี สิ่งที่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินค้ำประกันก็คือ ตามกฎหมายแรงงานมาตรา 10 นายจ้างไม่สามารถเรียกหลักประกันการทำงานจากเราได้ ยกเว้นแต่ว่าจะเป็นงานที่คนเป็นลูกจ้างจะต้องรับผิดชอบการเงินหรือทรัพย์สินของนายจ้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้างได้ โดยมีงานที่นายจ้างสามารถเรียกหลักประกันความเสียหายจากการทำงานได้ 7 ประเภทดังนี้
- งานสมุห์บัญชี
- งานพนักงานเก็บหรือจ่ายเงิน
- งานควบคุมหรือรับผิดชอบเกี่ยวกับวัตถุมีค่า คือ เพชร พลอย เงิน ทองคำ ทองคำขาวและไข่มุก
- งานเฝ้าหรือดูแลสถานที่หรือทรัพย์สินของนายจ้าง หรือที่อยู่ในความรับผิดชอบของนายจ้าง
- งานติดตามหรือเร่งรัดหนี้สิน
- งานควบคุมหรือรับผิดชอบยานพาหนะ
- งานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการคลังสินค้า ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให้เช่าทรัพย์ ให้เช่าซื้อ ให้กู้ยืม รับฝากทรัพย์ รับจำนอง รับจำนำ รับประกันภัย รับโอนหรือรับจัดส่งเงินหรือการธนาคาร ทั้งนี้ เฉพาะลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ควบคุมเงินหรือทรัพย์สินเพื่อการที่ว่านั้น
ถ้างานที่เราตั้งใจจะสมัครไม่ได้อยู่ในงาน 7 ประเภทนี้ เช่น งานพนักงานต้อนรับ แล้วดันโดนเรียกเงินค้ำประกันก่อนเริ่มงานก็แนะนำว่าให้ถอยออกมาได้เลยก่อนที่จะต้องเสียเงินจำนวนไม่น้อยไปฟรี ๆ
บางครั้งเราอาจจะเห็นโพสต์ประกาศงานจากบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว หรือ ช่องทาง Social Media อื่น ๆ ดังนั้นนอกจากอ่านรายละเอียดงานแล้วเราก็ต้องดูให้ดีว่าโปรไฟล์ของคนที่ลงโพสต์ประกาศงานมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน เพราะในโลกออนไลน์เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเรากำลังคุยอยู่กับใครอยู่ รูปโปรไฟล์ของเขาคือรูปตัวเขาเองจริง ๆ รึเปล่า
มีตัวอย่างจากเรื่องจริงที่มีบัญชีผู้ใช้ส่วนตัวมาโพสต์ประกาศงานเพื่อหลอกล่อให้คนหางานโทรไปหรือส่งข้อความไปสอบถามรายละเอียด แต่พอติดต่อไปเขาก็ตอบว่าตำแหน่งที่ประกาศนั้นเต็มแล้ว และชวนสมัครเว็บพนันแทน
เพราะฉะนั้นลองเช็กดูว่าบัญชีส่วนตัวนั้น ๆ มีประวัติการทำงานของเขาขึ้นอยู่บนโปรไฟล์รึเปล่า รูปโปร์ไฟล์ที่ลงเป็นแบบไหน ชื่อบัญชีมีความน่าเชื่อถือพอจะเป็น HR หรือคนประกาศงานไหม ถ้าเราบังเอิญไปเจองานน่าสนใจแต่คนโพสต์ชื่อบัญชีว่า “รักจริงง ชวิ้งปิ้วปิ้ววว” หรือชื่ออื่น ๆ ที่ไม่ใช่ทั้งภาษาไทยหรืออังกฤษแต่กลับพิมพ์ประกาศงานเป็นภาษาไทยได้อย่างน่าสงสัยก็อย่าไว้ใจจะดีกว่า
ในยุคดิจิทัลแบบนี้เรายังสามารถหางานได้ผ่านช่องทางอื่นอีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการหางานผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันหางานอย่าง JobThai ที่มีการตรวจสอบหนังสือรับรองบริษัทของทุกบริษัทที่จะลงประกาศงาน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าบริษัทต่าง ๆ นั้นมีตัวตนจริง ก่อนจะให้มีการลงประกาศงาน และรวบรวมตำแหน่งงานเอาไว้ให้คนหางานได้เปรียบเทียบและเลือกสมัครอย่างหลากหลาย ซึ่งมีรายละเอียดงานที่ชัดเจนครบถ้วนแถมยังสามารถฝากประวัติเอาไว้กับทางแพลตฟอร์มเพื่อให้บริษัทที่กำลังหาคนเข้ามาดูประวัติได้โดยที่เราไม่ต้องกดสมัครงานอีกด้วย
ฝากประวัติกับ JobThai ปลอดภัย ไว้ใจได้แน่นอน คลิก ที่นี่
|
|
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
ที่มา:
prachachat.net
thanulaw.com
facebook.com