ตลอดระยะเวลาที่พี่เดือนทำงานคลุกคลีกับการหางานและสมัครงานมา พี่มีโอกาสได้เจอคนที่ว่างงานเป็นระยะเวลานานจนรู้สึกไม่มั่นใจที่จะเดินหน้าสมัครงานต่อเยอะพอสมควรเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคนว่างงานที่เป็นนักศึกษาจบใหม่ หรือคนว่างงานที่เคยมีประสบการณ์ทำงานมาก่อน วันนี้พี่เดือนนึกถึงเรื่องนี้ได้พอดีจึงขอหยิบหัวข้อนี้มาพูดคุยกัน ใครที่กำลังกังวลในเรื่องนี้อยู่หรือเคยผ่านสถานการณ์แบบนี้มาก่อนมาร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่ด้านล่างบทความนี้เลยนะคะ มาช่วยกันให้กำลังใจคนที่กำลังว่างงานอยู่ไปด้วยกันค่ะ
คนสัมภาษณ์งานไม่ได้มองเรื่องการว่างงานนานเป็นจุดอ่อนของผู้สมัคร
อย่างที่หลาย ๆ คนคิด
เคยสงสัยไหมคะว่าผู้สัมภาษณ์งานเขาคิดอย่างไรกับผู้สมัครที่ว่างงานมาเป็นเวลานาน พี่เดือนมีโอกาสได้พูดคุยเรื่องนี้กับคนที่มีหน้าที่สัมภาษณ์งานหลายคนจนรู้ว่า คนสัมภาษณ์งานไม่ได้มองเรื่องการว่างงานนานเป็นจุดอ่อนของผู้สมัครอย่างที่หลาย ๆ คนคิดนะคะ นอกจากนี้ระยะเวลาว่างงานนั้นไม่ทำให้ผู้สัมภาษณ์สงสัยในความสามารถผู้สมัครอีกด้วย เพราะแต่ละคนย่อมมีเหตุผลของการว่างงานที่ไม่เหมือนกัน แต่ถ้าถามว่าเขาจะถามผู้สมัครถึงช่วงเวลาที่ว่างงานไหมพี่เดือนก็ตอบได้เลยว่า “ถามอย่างแน่นอน” เพราะหน้าที่ของเขาคือการทำความรู้จักกับผู้สมัครให้ได้มากที่สุดนั่นเองค่ะ
เมื่อทราบแล้วว่าผู้สัมภาษณ์งานจะต้องตั้งคำถามถึงระยะเวลาที่ว่างงาน เราจึงต้องเตรียมคำตอบที่เหมาะสมสำหรับตัวเราเองไว้และแน่นอนว่าพี่มีคำแนะนำดี ๆ ในการตอบคำถามนี้มาฝากเช่นกันค่ะ
บอกถึงเหตุผลของการว่างงานเป็นระยะเวลานานไปตามความเป็นจริง…
…ใช้โอกาสนี้เล่าถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติมที่ได้มาในระหว่างที่ว่างงานด้วย
ทุกครั้งที่พี่เดือนเขียนถึงเทคนิคการสัมภาษณ์งาน พี่จะบอกเสมอว่าการสัมภาษณ์งานเป็นเรื่องของการให้เหตุผล ดังนั้นวิธีตอบคำถามเกี่ยวกับการว่างงานที่ดีที่สุดในความคิดของพี่ คือ การบอกถึงเหตุผลของการว่างงานเป็นระยะเวลานานไปตามความเป็นจริง เช่น ต้องหยุดงานเพราะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพซึ่งใช้เวลาในการรักษาตัวค่อนข้างนาน หรือต้องหยุดงานเพราะมีความจำเป็นทางครอบครัว ซึ่งก็ควรชี้แจงให้ชัดเจนว่ามีความจำเป็นอย่างไร เช่น คนในครอบครัวป่วยจำเป็นต้องมีคนดูแลตลอดเวลา หรือต้องกลับไปช่วยธุรกิจของครอบครัว แม้กระทั่งจะตอบว่ายังไม่เจองานที่ถูกใจและเหมาะสมกับตัวเองก็ยังสามารถตอบได้นะคะ แต่อย่าลืมอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่างานที่เหมาะสมกับตัวเองในความคิดของน้องนั้นมีลักษณะแบบไหน เพื่อแสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าเรารู้จักจุดเด่นของตนเองเป็นอย่างดีและรู้ว่าจะนำจุดเด่นเหล่านั้นไปปรับใช้กับการทำงานได้อย่างไรบ้าง
เมื่อเราบอกเหตุผลไปแล้ว พี่เดือนคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้โอกาสนี้เล่าถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติมที่ได้มาในระหว่างที่ว่างงานด้วยนะคะ เช่น น้องตอบผู้สัมภาษณ์งานว่าหยุดงานเพราะมีความจำเป็นต้องกลับไปช่วยธุรกิจของครอบครัวให้ผ่านพ้นวิกฤติทางการเงิน ก็ควรเล่าเพิ่มเติมด้วยว่าเข้าไปช่วยในส่วนไหน ใช้วิธีการและวางแผนอย่างไรจึงผ่านมาได้ ไม่ว่าสิ่งที่ทำนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่ผู้สัมภาษณ์จะรับรู้ได้ถึงความตั้งใจในการทำงานของน้องค่ะ นอกจากนี้การอธิบายแบบนี้ยังเป็นการยืนยันถึงสถานะของน้องเองด้วยว่าได้จัดการธุระส่วนตัวของตัวเองเสร็จสิ้นแล้ว และพร้อมที่จะร่วมงานกับบริษัทที่สัมภาษณ์งานอย่างเต็มที่ค่ะ
อย่าคิดจะหลีกเลี่ยงการโดนตั้งคำถามด้วยการโกหกผู้สัมภาษณ์...
เพราะบริษัทเขาสามารถตรวจสอบได้ไม่ยากเลย
อีกสิ่งหนึ่งที่พี่เดือนอยากให้ระมัดระวัง คือ อย่าคิดจะหลีกเลี่ยงการโดนตั้งคำถามด้วยการโกหกผู้สัมภาษณ์ว่าว่างงานมาไม่นาน เพราะบริษัทเขาสามารถตรวจสอบได้ไม่ยากเลยค่ะ โดยเฉพาะคนที่เคยมีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว เพียงแค่ตรวจสอบประกันสังคมว่าขาดส่งมากี่เดือนแล้วก็จะรู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่น้องพูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่ นอกจากนี้ผู้สัมภาษณ์ที่มีความชำนาญอาจจะใช้วิธีตั้งคำถามที่ดูเหมือนวกไปวนมาจนผู้สมัครเผลอบอกความจริงออกมาเองก็ได้เช่นกัน ซึ่งถ้าเขาจับโกหกได้โอกาสได้งานก็จะดับวูบลงทันที เพราะไม่มีบริษัทที่อยากได้คนโกหกเข้าไปทำงานแน่นอนค่ะ
สุดท้ายนี้พี่เดือนอยากจะให้กำลังใจคนว่างงานที่กำลังรู้สึกกลัวหรือลังเลที่จะกดปุ่ม Apply Now เพียงเพราะว่าเราว่างงานมานานว่าไม่ต้องกลัวและอย่าหมดความมั่นใจในตัวเองนะคะ เปอร์เซ็นต์การได้งานของคนที่ว่างงานมานานมีมากพอ ๆ กับคนที่มีประวัติการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง พี่เดือนคิดว่าถ้าเรามีความสามารถตรงตามที่บริษัทต้องการเราจะต้องได้งานที่หวังไว้อย่างแน่นอนค่ะ
JobThai มี Line แล้วนะคะ
ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงานที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่