ภาพของ Personal Trainer ที่กำลังเทรนลูกค้าคงเป็นภาพคุ้นตาของใครหลายคนที่แวะเวียนไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสเซ็นเตอร์กันเป็นประจำ แม้แต่คนที่ไม่ได้เข้าฟิตเนสก็น่าจะเคยได้ยินอาชีพนี้ผ่านหูกันมาบ้าง ซึ่งแต่ละคนก็รู้จักและมีความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีพ Personal Trainer ที่ไม่เหมือนกัน
JobThai ได้พูดคุยกับคุณมิก Personal Trainer ประจำฟิตเนสแห่งหนึ่งเกี่ยวกับการทำงานของเขา วันนี้เราก็เลยมีเรื่องราวของ Personal Trainer มาฝากคนที่สงสัยว่าอาชีพนี้เป็นยังไง และวันวันนึงเขาทำอะไรกันบ้าง
- Personal Trainer คือคนที่วางโปรแกรม แนะนำการออกกำลังกาย และคอยซัพพอร์ตลูกค้า เพื่อป้องกันการบาดเจ็บระหว่างการออกกำลังกาย
- นอกจากเป็นที่ปรึกษาในเรื่องการออกกำลังกายแล้ว ยังต้องเป็นคนที่คอยผลักดันและให้กำลังใจลูกค้าเพื่อให้เขาสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
- Personal Trainer อาจต้องทำงานร่วมกับหมอหรือนักกายภาพบำบัด ที่ต้องการให้คนไข้มีร่างกายแข็งแรงมากขึ้นด้วย
- อาชีพนี้ไม่จำเป็นต้องจบสายวิทยาศาสตร์การกีฬามาโดยตรงเสมอไป เพราะเดี๋ยวนี้มีสถาบันสอนเพื่อเป็น Personal Trainer และมีแหล่งความรู้มากมาย แต่การที่จบสายวิทยาศาสตร์การกีฬามา อาจจะมีต้นทุนเรื่องกายวิภาค การเคลื่อนไหวร่างกาย หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ มากกว่า
|
|
แนะนำตัวเองหน่อยว่าเรียนจบอะไรมา และกำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้
ชื่อ มิก พงศ์พันธ์ ศิริพูนพิพัฒน์กุล จบการศึกษาจากวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล ตอนนี้เป็น Senior Personal Trainer อยู่ที่ Anytime Fitness สาขาอัมรินทร์ พลาซ่า มีประสบการณ์ทำงานเป็นเทรนเนอร์มา 5 ปี
ทำไมถึงตัดสินใจเป็น Personal Trainer
เด็ก ๆ ตัวเองเป็นคนตัวเล็กมาก แต่ชอบออกกำลังกาย เริ่มจากเล่นกีฬาทั่ว ๆ ไปอย่างฟุตบอลกับพี่ชายและเพื่อน จนรักการออกกำลังกายมาก แล้วเห็นเพื่อนพี่ชายคนนึงเขาตัวเล็กเหมือนกัน แต่เขาก็ค่อย ๆ ออกกำลังกายจนตัวใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น เราเลยเอาเขาเป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากมีสุขภาพที่แข็งแรง ตัวเล็กแต่แข็งแรง ผมก็เลยหาข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันการศึกษาในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับทางนี้ แล้วก็เลือกที่จะทำงานเป็น Personal Trainer เพราะอยากจะเห็นคนมีสุขภาพที่ดีกันมากขึ้น
หน้าที่ของคนเป็น Personal Trainer คืออะไร
เทรนเนอร์เป็นเหมือนผู้ฝึกสอนครับ แนะนำการออกกำลังกาย วิธีการออกกำลังกายให้ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ และผลักดันให้ลูกค้าเปลี่ยนแปลงสุขภาพของตัวเขาเอง เราก็ต้องคอยให้กำลังใจเขา และวางโปรแกรมการออกกำลังกายให้เขาโดยลดอาการบาดเจ็บให้มากที่สุด
เราอาจจะต้องทำงานร่วมกับสายงานอื่นบ้างเหมือนกัน เช่น หมอส่งคนไข้มาให้กายภาพบำบัด พอกายภาพดูแลในเบื้องต้นแล้วอยากจะสร้างความแข็งแรงก็ส่งต่อมาให้เทรนเนอร์ มันเป็นเฟืองที่ช่วยกันทั้งหมด
กิจวัตรที่ต้องทำในแต่ละวันของ Personal Trainer มีอะไรบ้าง
เริ่มจากดู Schedule เราก่อนว่าวันนี้เรานัดลูกค้ากี่คน แต่ละคนลงเวลาไว้ตอนไหนบ้าง แล้วก็มาดูว่าคราวที่แล้วเทรนอะไรมา แล้วเราจะเทรนยังไงต่อ จะวางโปรแกรมให้ลูกค้าคนนี้ยังไงให้มีความต่อเนื่อง แต่นอกจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับพื้นงานของแต่ละบริษัทด้วยว่าเขาอยากให้ทำอะไรบ้าง บางที่ก็อยากให้เทรนลูกค้าอย่างเดียว แต่บางที่ก็อาจจะต้องขายด้วยเทรนด้วย
อะไรคือความท้าทายของการทำงานเป็น Personal Trainer
เรื่องของการเปลี่ยนแปลงในตัวลูกค้า เราจะเปลี่ยนแปลงให้เขาไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ยังไง อยากให้เขาแข็งแรงขึ้นเขาต้องทำยังไง หรือเราจะทำยังไงให้เขาบรรลุเป้าหมายที่เขาตั้งไว้ การเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวัน เปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามันทำได้ค่อนข้างยาก มันต้องช่วยกันทั้งตัวเราและก็ตัวลูกค้า
ถ้าอยากเป็น Personal Trainer ต้องทำยังไง จำเป็นต้องเรียนสายวิทยาศาสตร์การกีฬาไหม
ขอตอบแยกเป็นสองแบบ แบบที่หนึ่งคือเรียนจบสายนี้มาโดยตรง ผมมองว่ามันได้ต้นทุนที่ดีกว่าคนที่เขาไม่ได้เรียนจบมาโดยตรง อย่างเรื่องกายวิภาค ร่างกายคนเรา หรือเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกายหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เราเรียนมาตั้งแต่มหาวิทยาลัย เราก็จะดึงเอาความรู้ตรงนั้นมาใช้เวลาที่เราเทรนได้ ส่วนจะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์เรา แล้วก็ความรู้ที่ศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเอามาพัฒนาตัวเรา และพัฒนาวิธีการเทรนลูกค้า หรือวิธีการออกกำลังกาย
ส่วนคนที่ไม่ได้เรียนจบมาตรงสายผมก็แนะนำว่าให้หาความรู้เพิ่มมากขึ้น เดี๋ยวนี้มีสถาบันสอนเพื่อเป็น Personal Trainer หรือสถาบันที่ให้ความรู้ด้านนี้เพิ่มมากขึ้น หรืออ่านนิตยสาร บทความทั้งของไทยและของต่างประเทศก็ได้ อย่ามองแค่ว่าจบตรงหรือไม่ตรงสาย ให้มองว่าการที่เราเป็นเทรนเนอร์เราสามารถทำให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายได้มากน้อยแค่ไหนดีกว่า
คุณมิกได้เรียนอะไรเพิ่มเติมบ้างไหม
ส่วนตัวผมจะมีคติประจำใจว่า มีดที่คมยังไงมันก็ต้องลับ เหมือนกับที่เราต้องฝึกฝน ต้องพัฒนา ต้องเรียนรู้อยู่เรื่อย ๆ เพื่อเราจะได้พัฒนาตัวเราด้วย แล้วก็เอาไปใช้ในการเทรนลูกค้าให้มีสุขภาพแข็งแรงมากขึ้นด้วย
ผมเองก็จะพยายามอัปเดตความรู้ให้กับตัวเองอยู่บ่อย ๆ ตามเทรนด์สุขภาพให้ทัน ไปอบรมในเรื่องที่เราสนใจอยากรู้เพิ่มเติม หรือ เฉพาะทาง เช่น Certified Personal Trainer, First Aid & CPR, Self-Myofascial Release, Fitness Nutrition, Functional Training/HIIT Training, Weightlifting ผมก็พยายามศึกษาหาความรู้ ถามผู้รู้ หรือพวกบทความที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อมาปรับใช้กับตัวเราเองเเละก็ตัวลูกค้าเราตามความเหมาะสม
มีคำแนะนำอะไรสำหรับคนที่อยากเป็น Personal Trainer ที่ดีและโดดเด่นบ้าง
อย่าหยุดที่จะหาความรู้เพิ่มเติมและพัฒนาตัวเอง ถึงจะแค่เปิดผ่านก็ยังได้ผ่านตา ยังได้เห็น ความรู้ที่เขาแชร์กันในโลกโซเชียล เราก็เปิดดูตาม อย่างน้อยเข้าหัวเราก็ช่วยเคาะสนิมได้ บางอย่างเรารู้อยู่แล้ว ก็เพิ่มพูนความรู้เข้าไปอีก คือถ้าคุณหยุดคุณก็จะอยู่กับที่ตลอดเวลา ถ้าคุณมองคนข้าง ๆ เหมือนเป็นคู่แข่งเราก็จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ
อาชีพนี้มีโอกาสเติบโตยังไงบ้าง
ถ้าในฟิตเนสก็จะขึ้นไปในระดับสูง ๆ อย่างพวก Club Manager ดูแลทุกส่วนของฟิตเนส หรือบางคนทำงานมานาน มีประสบการณ์ในการเทรนลูกค้ามาก และมีเงินก้อนนึงเขาก็อาจจะออกไปเปิดยิมเล็ก ๆ เปิด Class ทำ Functional Training แล้วแต่ความถนัด
คิดว่าอะไรคือจรรยาบรรณที่สำคัญของ Personal Trainer
เราต้องทำงานให้เต็มที่ ดูแลลูกค้าให้เต็มที่ เพราะเขาไว้ใจให้เราดูแลสุขภาพของเขาแล้ว เราก็ต้องทำให้เขาเห็นผลให้ได้มากที่สุด ไม่ได้บอกว่าเทรนเนอร์เป็นพระเจ้า แต่เราคือคนที่ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเขาได้ เราควรจะกระตุ้นและแนะนำเขาว่าอะไรที่ควรทำหรืออะไรที่ไม่ดีและไม่ควรทำ
จริง ๆ แล้วคนทั่วไปที่มาออกกำลังกายในฟิตเนส ควรต้องมีเทรนเนอร์ไหม
ถ้าไม่เคยเล่นมาก่อนเลย มิกแนะนำว่ามีดีกว่า เพราะการออกกำลังกายมันไม่ใช่แค่คุณเดินลู่แล้วคุณก็แข็งแรงเลย ที่สำคัญมันจะมีคนคอยซัพพอร์ตดูแลไม่ให้บาดเจ็บ คนเราถ้าเจ็บก็จะจำ แล้วก็ไม่อยากเล่น เทรนเนอร์จะช่วยให้รู้สึกว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่เข้าถึงเขาได้ง่าย เราก็ค่อย ๆ ทำให้เขาเข้าใจมันง่ายขึ้น เขาจะได้มีสุขภาพที่ดีขึ้น แล้วก็ไม่บาดเจ็บในการออกกำลังกาย
ในฐานะที่ทำงานสายนี้ คิดว่าเทรนด์การรักษาสุขภาพและการออกกำลังกายของคนจะยังได้รับความนิยมอีกนานไหม
มองในภาพกว้าง ๆ ในเทรนด์ของสุขภาพ จริง ๆ เเล้วเทรนด์นี้อัปเดตตลอดเวลา เพราะมนุษย์เรามีทางเลือกเยอะตอนนี้ก็จะใส่ใจดูเเลร่างกายมากขึ้น เนื่องจากปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น มิกคิดว่าปัญหาเหล่านั้นมันคือแรงจูงใจอย่างหนึ่งที่ทำให้คนหันมาเลือกออกกำลังกาย ฉะนั้นเทรนด์การออกกำลังกายมิกว่ามันยังอินเทรนด์อีกยาว
หลังจากอ่านบทความนี้จบ JobThai เชื่อว่าเรื่องราวและมุมมองความคิดของคุณมิก คนที่รักและเต็มที่กับอาชีพ Personal Trainer ของตัวเองเป็นชีวิตจิตใจน่าจะทำให้ภาพของอาชีพนี้ในความเข้าใจของคุณเปลี่ยนไปจากเดิมไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน สำหรับคนที่สนใจเรื่อง Personal Trainer และอยากพูดคุยกับคุณมิกเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้โดยตรงที่ Facebook : Mick Siripoonpipatkun และ IG : Mick.pongpan
JobThai มี Line แล้วนะคะ
ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่