เราคุ้นเคยกับการใช้คำว่า Problem เวลาพูดถึงปัญหา แต่ในบางสถานการณ์การใช้คำว่า Problem อาจจะทำให้คนฟังรู้สึกไม่ดี เครียดและกังวลเกินความจำเป็นไป ดังนั้นเราอาจลองเอาคำว่า Issue ที่แปลว่าประเด็นมาใช้แทน เพื่อให้ดูน่าฟังกว่า
ตัวอย่าง
เปลี่ยนจาก “I think our team has a communication problem.” ที่แปลว่า “ฉันคิดว่าทีมของเรากำลังมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร” ไปเป็น “I think our team has a communication issue.” ที่พูดถึงประเด็นเรื่องการสื่อสารแทน โดยไม่ย้ำว่ามันคือปัญหา ก็จะทำให้คนฟังไม่รู้สึกเครียด บรรยากาศในการทำงานก็ไม่เสียด้วย
ถ้าเราต้องเป็นคนบอกเพื่อนร่วมงานให้เร่งการทำงาน แทนที่จะบอกว่า"We need to speed up our timeline." "เราต้องเร่งแผนการดำเนินงาน" ซึ่งฟังเหมือนเราอยากให้เร่ง ทำให้คนฟังอาจจะไม่ค่อยพอใจ เป็น "Our boss requires us to speed up our timeline.” “บอสบอกว่าเราต้องเร่งตารางแผนการดำเนินงานแล้ว” แทน ก็อาจจะทำให้คนฟังอยากให้ความร่วมมือขึ้น
“I see your department has bought a new printer.” "ฉันเห็นแผนกเธอได้ซื้อเครื่องพิมพ์ใหม่" ประโยคนี้จะเป็นว่าเราใช้ Bought ที่เป็นกริยาช่องที่ 2 ของคำว่า Buy แต่การจะพูดถึงการซื้อของชิ้นใหญ่ มีราคา หรือของบริษัทที่ต้องทำงบเบิกจริงจัง การใช้คำว่า Purchase ในประโยค “I see your department has purchased a new printer.” จะเหมาะสมกว่า
คำง่าย ๆ อย่าง Give ที่แปลว่าให้ มีอีกคำที่เราเอามาใช้แทนได้ เพื่อให้ฟังดูสวย เป็นทางการ และให้เกียรติมากขึ้น นั่นก็คือคำว่า “Provide” ส่วนคำว่า Give ก็นำไปใช้กับเพื่อน คนที่เด็กกว่า คนที่สนิท หรือกรณีการพูดคุยที่สบาย ๆ แทน
ตัวอย่าง
"Why has McDonald’s suddenly given a discount on all of their hamburgers?" "ทำไมแมคโดนัลด์ถึงตัดสินใจให้ส่วนลด 30% สำหรับแฮมเบอร์เกอร์ทุกเมนู” ถ้าเปลี่ยนมาใช้ Provide ในประโยคนี้แทน ก็จะฟังแล้วดูทางการให้เกียรติลูกค้ามากขึ้น " Why has McDonald’s suddenly provided a discount on all of their hamburgers?" "ทำไมแมคโดนัลด์ถึงตัดสินใจมอบส่วนลด 30% สำหรับแฮมเบอร์เกอร์ทุกเมนู”
A: If you keep working as hard as this, I forecast you will get sick.
B: Really? I need a change.
A: Yes, taking a vacation is a good choice.
บทสนทนาข้างบนจะเป็นการบอกให้เพื่อนลาพัก ก่อนที่จะป่วยเพราะทำงานหนักมากเกินไป ซึ่งเราสามารถเอาคำว่า Downtime มาแทน Vacation ได้ “A: Yes, having some downtime is a good choice.” เพื่อบอกว่าให้พักชาร์จแบต เช่น พักเล็ก ๆ ระหว่างวัน แว่บไปกินขนมให้หัวแล่น หรือ ลาพักวันสองวัน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแทนที่จะเป็นการลาไปเที่ยว
A: And they will follow your idea regarding social media promotion.
B: Great! Why do they think that my idea would work?
A: Because we all agree that you are the most expert at social media in our department.
ตัวอย่างบทสนทนาข้างบน เมื่อ B ถามว่าทำไมถึงคิดว่าไอเดียเรื่อง Social Media ของเขาน่าจะได้ผลดี A ก็ตอบกลับมาว่า เพราะว่าทุกคนเห็นด้วยว่าเขามีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้ ซึ่งก็เป็นการใช้คำว่า Agree ที่ไม่ผิด แต่เราสามารถพูดได้อีกแบบโดยใช้คำว่า Consensus “Because we all came to a consensus that you are the most expert at social media in our department.”
เรื่องที่ต้องระวังก็คือ ถ้าจะใช้คำว่า Consensus ในกรณีแบบนี้ ต้องใช้เป็นวลี “to reach a consensus” หรือ “come to a consensus” เพราะ Consensus เป็นคำนาม และถ้ากรณีไม่เห็นด้วย ให้ใช้ประโยคตามนี้เลย