เคล็ดลับการสมัครงานสำหรับคนทำงานวัยขึ้นเลขสาม

18/03/22   |   16.1k   |  

 

  • เมื่ออายุเยอะขึ้น ตำแหน่งของเราควรต้องสูงขึ้นตามด้วย อาจลองดูตำแหน่งที่สูงขึ้นหน่อย เช่น งานระดับหัวหน้างาน หัวหน้าทีม หรือผู้จัดการ ที่เราจะสามารถพัฒนาทักษะทั้งด้านการทำงานและการบริหารทีมได้

  • ประสบการณ์ในการทำงานและการใช้ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่สามารถศึกษาจากในบทเรียนได้ ทำให้เรามีข้อได้เปรียบในเรื่องนี้กว่าคนทำงานที่เพิ่งจบมาใหม่ ซึ่งเราสามารถดึงเรื่องนี้มานำเสนอตัวเองได้ 

  • แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะและความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะในบางตำแหน่งและสายงานที่มีความเกี่ยวข้องกับการพูดคุยเพื่อพรีเซนต์หรือขายงานให้ลูกค้า ที่เรื่องพวกนี้เป็นอีกสิ่งสำคัญอย่างมาก 

  • หลายครั้งที่เรามักจะเห็นความขัดแย้งของพนักงานรุ่นใหม่ที่มีต่อองค์กร ซึ่งพนักงานที่เคยทำงานมาเป็นระยะเวลานาน มีประสบการณ์ในการทำงานมาหลายที่ จะเข้าใจสังคมการทำงานมากกว่า และอาจสามารถตอบคำถามและอธิบายเหตุผลที่คนรุ่นใหม่ไม่เข้าใจหรือไม่กล้าถามองค์กรได้

  • หลายบริษัทจะรู้สึกว่าพนักงานที่มีอายุเยอะมักจะมีทิฐิสูง กลัวจะไม่เปิดใจรับฟังไอเดียจากคนรุ่นใหม่ ทำให้ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการนำเสนอตัวเองว่าเราเป็นคนทำงานแบบไหน มีทัศนคติกับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าที่มีอายุน้อยกว่ายังไง

 

 

JobThai Mobile Application หางานง่าน ได้งานที่ใช่ โหลดเลย!

iOS

Android

Huawei AppGallery

“รับพนักงานอายุไม่เกิน 35 ปี” ประโยคเจ็บจี๊ดที่อาจทำให้คนทำงานหลายคนรู้สึกแย่ ว่าทำไมบริษัทถึงไม่มองที่ความสามารถหรือทักษะ แต่กลับมองที่อายุเพียงอย่างเดียว ซึ่งจริง ๆ แล้วเงื่อนไขต่าง ๆ ในการรับสมัครพนักงานเหล่านี้ก็มีเหตุผลในตัวเอง และไม่ได้แปลว่าคนทำงานวัยขึ้นเลขสามห้ามย้ายงาน เพียงแต่เราต้องจัดการกับเงื่อนไขต่าง ๆ และนำเสนอตัวเองให้เป็นต่างหาก JobThai เลยอยากมาแนะนำ ‘เคล็ดลับการสมัครงานของคนทำงานวัยขึ้นเลขสาม’ ว่าต้องหางานยังไงถึงจะมีประสิทธิภาพ และได้งานที่ต้องการ

 

รวมตำแหน่งงานใน JobThai ที่เปิดรับพนักงานแบบไม่จำกัดอายุทั้งหมดได้ ที่นี่

 

ทำไมหลายองค์กรถึงรับสมัครพนักงานอายุไม่เกิน 35 ปี

ที่หลายองค์กรรับสมัครพนักงานอายุไม่เกิน 35 ปี ส่วนใหญ่มีเหตุผลมาจาก ตำแหน่งและระดับงานที่เปิดรับสมัครไม่ได้ต้องการคนที่มีประสบการณ์เยอะ อย่างบริษัทต้องการพนักงานระดับ Junior ในตำแหน่งงานสายครีเอทีฟ เด็กจบใหม่หรือคนที่อายุน้อย ๆ อาจจะมีโอกาสมากกว่า เพื่อที่องค์กรจะได้รับไอเดียหรือทักษะใหม่ ๆ ในการทำงาน และเด็กจบใหม่อาจมีไฟแรงและกระตือรือร้นกว่า นอกจากนี้อาจเป็นเรื่องของเงินเดือน เพราะเด็กจบใหม่เงินเดือนไม่เยอะเท่าคนมีประสบการณ์การทำงานมานาน

 

แล้วคนทำงานวัยขึ้นเลขสามควรสมัครงานยังไง และโชว์จุดเด่นในเรื่องไหนบ้าง

มาดูเคล็ดลับในการสมัครงานให้มีประสิทธิภาพกัน  

 

เลือกตำแหน่งและระดับงานที่เหมาะสม

เมื่ออายุเยอะขึ้น แน่นอนว่าตำแหน่งของเราควรต้องสูงขึ้นตามมาด้วย การจะไปสมัครงานในตำแหน่งที่ต้องแข่งขันกับเด็กรุ่นใหม่ก็อาจมีโอกาสน้อยที่จะได้งาน เราอาจลองดูตำแหน่งที่สูงขึ้นหน่อยเช่นงานระดับหัวหน้างาน หัวหน้าทีม หรือผู้จัดการ ที่เราจะสามารถพัฒนาทักษะทั้งด้านการทำงานและการบริหารทีมได้ หรือหากเรารู้สึกเบื่อกับงานเดิม ๆ ที่เราทำมาหลายปีและต้องการเปลี่ยนสายงาน ในกรณีนี้เราต้องไปอ่านรายละเอียดสายงานนั้นว่าเขาต้องการทักษะแบบไหนบ้าง และรีบเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด ผ่านการนำประสบการณ์ที่เคยมีมาปรับใช้ หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ตามคอร์สเรียนต่าง ๆ ก็จะทำให้โอกาสในการได้งานเรามีมากขึ้น แต่ถ้าเราไม่ต้องการงานระดับที่สูงขึ้นเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เราก็ต้องยอมรับด้วยว่ารายได้เราอาจจะเท่าเดิมหรือน้อยลงกว่าเดิม

 

เอาประสบการณ์ในการทำงานและการใช้ชีวิตมาเป็นจุดขาย

ประสบการณ์ในการทำงานและการใช้ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่สามารถศึกษาจากในบทเรียนได้ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้และใช้เวลาไปกับมัน ทำให้เรามีข้อได้เปรียบในเรื่องนี้มากกว่าคนทำงานที่เพิ่งจบมาใหม่ ซึ่งเราสามารถดึงเรื่องนี้มานำเสนอตัวเองได้ เช่น ทักษะในการรับมือและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมว่าเราเคยรับมือกับปัญหาอะไรบ้าง ใช้เวลาเท่าไหร่ และผลลัพธ์เป็นยังไง นอกจากนี้บางตำแหน่งงานที่ต้องอาศัยทักษะเฉพาะและประสบการณ์ในด้านนั้นจริง ๆ เราในวัยนี้ก็อาจทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพกว่า ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้จะทำให้ Resume หรือ CV ของเราดูน่าสนใจมากขึ้น เพียงแค่เราต้องนำเสนอตัวเองให้องค์กรรับรู้มากที่สุดว่าทำไมถึงต้องรับเรา

 

เทคนิคพรีเซนต์ตัวเองให้เก่ง แล้วมาเป็นตัวเต็งในการสมัครงาน

 

แสดงออกถึงวุฒิภาวะและความน่าเชื่อถือ

ในบางตำแหน่งและสายงานที่มีความเกี่ยวข้องกับการพูดคุยเพื่อพรีเซนต์หรือขายงานให้ลูกค้า ความน่าเชื่อถือเป็นอีกสิ่งสำคัญอย่างมากที่จะทำให้คำพูดต่าง ๆ ของเรามีน้ำหนักมากขึ้น นอกจากนี้วุฒิภาวะทางอารมณ์ (EQ) ที่โตขึ้นตามอายุและประสการณ์จะทำให้เราสามารถปรับตัวและเข้าใจเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น เรื่องของการทำงานเป็นทีม หรือการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นขั้นตอน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็เป็นอีกข้อได้เปรียบที่ทำให้ประวัติของเราดูเป็นมืออาชีพมากกว่าผู้สมัครคนอื่น ๆ ที่เป็นเด็กจบใหม่ 

 

ถึงตัวจะโตแต่วุฒิภาวะของคุณโตแล้วหรือยัง?

มีความเข้าใจทั้งฝั่งขององค์กรและพนักงาน

หลายครั้งที่เรามักจะเห็นความขัดแย้งของพนักงานรุ่นใหม่ที่มีต่อองค์กรจนทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา แม้กรณีเหล่านั้นอาจเป็นเพียงปัญหาเล็ก ๆ ก็ตาม ซึ่งพนักงานที่เคยทำงานมาเป็นระยะเวลานานจนเป็น Senior นั้นจะมีประสบการณ์ในการทำงานในองค์กรต่าง ๆ มาหลายที่ ทำให้เข้าใจสังคมการทำงาน การดูแลพนักงาน หรือรู้เหตุผลขององค์กรในการออกนโยบายหรือกฎระเบียบต่าง ๆ ทำให้ไม่ค่อยมีความขัดแย้งกับองค์กรมาก รวมทั้งอาจสามารถตอบคำถามและอธิบายเหตุผลที่คนรุ่นใหม่ไม่เข้าใจหรือไม่กล้าถามองค์กรตรง ๆ ด้วยตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นคำถามเรื่องสวัสดิการหรือกฎหรือข้อบังคับที่เด็กจบใหม่อาจคิดว่าไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ก็เป็นเรานี่แหละที่จะสามารถตอบคำถามเหล่านั้นให้กับพวกเขาได้ ทั้งในฐานะรุ่นพี่ในแผนกและคนที่มีประสบการณ์ในเรื่องเหล่านี้มา ซึ่งในองค์กรที่มีพนักงานหลายช่วงอายุ บางครั้งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะพนักงานอายุน้อยบางส่วนชอบที่จะรับฟังคำแนะนำจากพนักงานที่มีอายุและประสบการณ์มากกว่าแทนที่จะเดินไปถามกับ HR หรือหัวหน้าแผนกโดยตรง 

 

แสดงให้องค์กรเห็นว่าสามารถทำงานกับคนรุ่นใหม่ได้

อีกหนึ่งปัญหาหลักที่คนทำงานวัยเลขสามเจอก็คือ หลายบริษัทจะรู้สึกว่าพนักงานที่มีอายุเยอะมักจะมีทิฐิสูง กลัวจะไม่เปิดใจรับฟังไอเดียจากคนรุ่นใหม่จนทำให้ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ หรือบางองค์กรที่มีหัวหน้าอายุยังไม่เยอะมาก ก็ไม่อยากได้คนที่อายุมากกว่าตัวเองมาเป็นลูกน้อง เพราะคิดว่าอาจคุยได้ยากกว่าคนทำงานวัยใกล้เคียงกับตัวเอง ซึ่งปัญหาในข้อนี้ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการนำเสนอตัวเองเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเขียนใน Cover Letter หรือพรีเซนต์ในห้องสัมภาษณ์ว่าเราเป็นคนทำงานแบบไหน มีทัศนคติกับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าที่มีอายุน้อยกว่ายังไง หรือบอกว่าตัวเองเป็นคนที่เปิดรับทุกความคิดเห็น และไม่ใช้อารมณ์หรืออายุมาใช้ในการตัดสินถูกผิด 

 

ทำตัวอย่างไรดีเมื่อต้องร่วมงานกับหัวหน้าที่เด็กกว่า

 

ไม่มีใครแก่เกินเรียน และไม่มีใครแก่เกินกว่าที่จะทำงาน เพียงแค่เราจำเป็นต้องหาที่ที่เหมาะสมกับตัวเองเท่านั้น และสุดท้ายหากเราได้เข้าไปทำงานใหม่ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งอะไร หรือระดับไหน สิ่งสำคัญที่ควรทำเป็นอย่างแรกเลยก็คือการ ‘เคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน’ นอกจากจะเป็นการสร้างความประทับใจแรกแล้ว เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ก็เป็นมารยาทที่ดีในการทำงานร่วมกันอีกด้วย

 

สมัครสมาชิกกับ JobThai เพิ่มโอกาสง่าย ๆ ในการได้งานที่ใช่

 
JobThai Official Group
Public group · 300,000 members
Join Group
 

 

บทความเดิมได้ถูกเผยแพร่ในวันที่ 18 มีนาคม 2022 และได้รับการอัปเดตโดยทีมงาน JobThai

 

Source:

longtunman.com

tkvariety.com

thepractical.co

tags : jobthai, งาน, หางาน, สมัครงาน, งานไม่จำกัดอายุ, เคล็ดลับการสมัครงาน, งานสำหรับคนอายุ 35 ปีขึ้นไป, คนหางาน, เคล็ดลับหางาน, หางานอายุเยอะ



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม