อาจารย์ ดร.อรรถพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เรียนจบชั้นมัธยมปลายในสายศิลป์ - ฝรั่งเศส จากนั้นได้ทุนของรัฐบาลไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Stanford ในเอกที่เรียกว่า Symbolic Systems ซึ่งเป็นสหสาขาวิชาที่รวมเอาภาษาศาสตร์ ปรัชญา จิตวิทยา และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์เข้าไว้ด้วยกัน หลังจากจบแล้วอาจารย์ได้เรียนต่อปริญญาโทและเอกในด้าน การประมวลภาษาธรรมชาติ หรือ NLP (Natural Language Processing) ได้ทำงานอยู่ใน Silicon Valley 2 ปีก่อนเลือกกลับมาประเทศไทย
ปัจจุบันอาจารย์ ดร.อรรถพล ธำรงรัตนฤทธิ์ สอนอยู่ที่ภาควิชาภาษาศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมคณะอักษรศาสตร์จึงเกี่ยวข้องกับ Computer Science หรือ Computational Linguistics นั่นเป็นเพราะว่าวิชาที่อาจารย์อรรถพลสอนคือ ศาสตร์ที่นำทฤษฎีทางภาษาศาสตร์มารวมกับเทคโนโลยีต่าง ๆ เป็นการศึกษาที่ใช้การผสมผสานระหว่างทางวิทยาการคอมพิวเตอร์และทฤษฎีทางภาษาศาสตร์ได้อย่างลงตัว จะน่าสนใจเพียงใดตามไปอ่านบทสนทนาระหว่าง JobThai และ อาจารย์ ดร.อรรถพล พร้อมกันได้เลยค่ะ
- Computational Linguistics คือการใช้คอมพิวเตอร์ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางภาษาแทนคน
- Computational Linguistics เป็นศาสตร์ที่รวมเอาทั้งความรู้ทางวิทยาศาสตร์คือการใช้คอมพิวเตอร์ และทางศิลป์คือความเข้าใจในภาษาเข้ามาผสมผสานกันอย่าลงตัว
- ศาสตร์ Computational Linguistics พยายามที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาทำให้การทำงานเป็นรูปแบบอัตโนมัติมากขึ้น เพื่อทดแทนแรงงานที่กำลังจะขาดแคลนในอนาคต
- คนที่จะมาทำงานสาย Computational Linguistics ต้องมีใจรักทางด้านภาษา ชอบการวิเคราะห์ภาษา ส่วนทักษะทางคอมพิวเตอร์นั้นสามารถเรียนเพิ่มกันได้
|
|
อธิบาย Computational Linguistics ให้คนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนทราบหน่อยค่ะ
Computational Linguistics คือการใช้คอมพิวเตอร์วิเคราะห์ข้อมูลทางภาษา พูดให้เข้าใจง่ายก็คืออยากให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจภาษาและทำหน้าที่ทางด้านภาษาต่าง ๆ แทนคนได้ เช่น การตรวจเรียงความ จากที่ต้องให้ครูมานั่งอ่านและตรวจเองก็ใช้เทคโนโลยีเพื่อดูว่านักเรียนใช้คำถูกไหม มีการสะกดผิดไหม เขียนแล้วอ่านรู้เรื่องไหม มีการสลับตำแหน่งประโยคไหม เป็นการวิเคราะห์ทั้งในระดับคำและระดับประโยคเพื่อจะประเมินได้ว่างานมีคุณภาพดีมากน้อยแค่ไหน หรือการแปลหนังสือ การแปลภาพยนตร์ ที่จะสามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้เพื่อการตรวจดูความหมายของการแปล และการสนทนาพูดคุยจากเดิมที่เราต้องโทรหาใครสักคนก็อาจเปลี่ยนไปสู่การใช้ Chatbot แทนได้
สาขา Computational Linguistics เกิดขึ้นมานานหรือยัง
จริง ๆ เป็นศาสตร์ที่เกิดขึ้นมานานแล้วแต่ว่าเทคโนโลยีสมัยก่อนที่จะนำมาเสริมกับศาสตร์นี้ยังไม่ก้าวหน้ามากเท่าปัจจุบัน สมัยก่อนจะเน้นไปทางการใช้ทฤษฎีให้เกิดประโยชน์มากกว่า ยกตัวอย่างในสมัยนั้นก็คือ Chatbot หรือหุ่นยนต์นักสนทนาที่สามารถตอบคำถามเราได้ ฟังเราได้ มีมาตั้งแต่ 50 ปีที่แล้วแต่จะยังไม่เก่งเท่าในปัจจุบัน Chatbot สมัยนี้ได้รับเทคโนโลยีที่มาจาก Computer Science ที่ก้าวหน้ามาก ๆ ทำให้สามารถเข้าใจว่านี่คือคำถามชนิดใด จะไปหาคำตอบมาได้จากไหน หรือต้องการเป็นประโยคคำสั่งหรือเปล่า ตอนนี้มี Alexa Series ซึ่งเป็น Chatbot ที่รับคำสั่งจากเราได้ เขียน Text เปิดไฟ ปรับแอร์ เปิดตู้เย็น เรียกว่าเป็นความพยายามในการนำ AI มาใช้ให้มีบทบาทมากขึ้นนั่นเองครับ
![](https://blog.jobthai.com/service/image/s3_ckf_images/2370/Career focus/อ.ดร.อรรถพล/Computational Linguistics/DSC08920.png)
มีอาชีพที่ใช้ศาสตร์ Computational Linguistics เฉพาะทางเลยไหม
แล้วแต่ว่าจะเน้นหนักไปทางไหนระหว่างทาง Engineering หรือ Linguistics มากกว่ากัน เพราะคนที่จะมาทำ Computational Linguistics ต้องสามารถเขียนโมเดลที่เข้าใจภาษาแทนคนได้ ส่วนใหญ่แล้วต้องเรียนมาทาง Computational Linguistics เฉพาะเลย โดยปกติจะหาคนที่เป็น Data Scientist แล้วมาทำงานด้านนี้ ซึ่งก็จะค่อนข้างหายากเพราะมันเฉพาะทางมาก ๆ หรือถ้าไม่หนักไปทาง Computational Linguistics ก็อาจจะเป็นคนที่คอยตรวจสอบข้อมูลว่ามันเรียบร้อยจริงไหม แล้วส่งต่อให้ Data Scientist ไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่อได้ก็มี
ถ้าเป็นอาชีพ ก็จะมีอาชีพที่เราอาจไม่เคยได้ยินเลยแบบ Linguistic Data Manager ก็คือคนดูแลข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเลขเลย แต่เป็นระบบภาษาของคนที่พิมพ์เข้ามาแล้วจัดระเบียบเพื่อให้คนอื่นนำไปใช้ต่อได้ง่าย หรืออาจจะเป็น Linguistic Annotator ก็คือคนที่ทำหน้าที่จัดระเบียบข้อมูลกรณีที่ Data Scientist อยากทดสอบโมเดลเพื่อไปวิเคราะห์เช่น เขาพูดเรื่องแย่หรือดีเกี่ยวกับบริษัท นอกจากนี้ยังมีคนเขียน Guideline ว่าดีแปลว่าอะไร พูดในแง่ดีคือมีลักษณะไหนบ้าง ต้องวิเคราะห์ภาษาและลงไปอ่านจริง ๆ เลยว่ามันจะมีปัญหาอะไรบ้าง เพราะถ้าข้อมูลพวกนี้คุณภาพแย่แล้วเอาไปทำต่อจะไม่มีทางรู้ข้อเท็จจริงเลยครับ
คนที่ทำงานในสาย Computational Linguistics มีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง
แล้วแต่ว่าได้โปรเจกต์มาแบบไหนและจะเน้นไปทางไหนมากกว่า เพราะศาสตร์ Computational Linguistics เป็นศาสตร์ที่ผสมระหว่างทาง Computer Science และทาง Linguistics ถ้าเราเน้นไปทางภาษามากกว่างานของเราก็จะไปในแนว Linguistics Annotation หรือไม่ก็ Linguistics Data Manager ถ้าเบนไปทาง Computer Science ก็จะเป็นในแนวของ Data Scientist แต่เราจะมีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ข้อมูลทางภาษามากกว่า ภาษามีความยากในตัวเองเพราะมันดิ้นได้แถมเป็นสิ่งที่ไม่มีโครงสร้างเราเลยต้องให้โครงสร้างกับมันโดยการใช้ทฤษฎีทางภาษาศาสตร์ว่าอันไหนเป็น Subject อันไหนเป็น Verb และอันไหนเป็น Object เพื่อให้เราวิเคราะห์ได้
อาชีพ Computational Linguistics ช่วยพัฒนาหรือสร้างผลิตภัณฑ์ทางภาษารูปแบบใด
จริง ๆ เทคโนโลยีทางภาษามี 2 ส่วนครับ 1. คืออาจจะเป็นแค่ส่วนส่วนหนึ่งของระบบใหญ่ หรือ 2. ก็คือนำไปเป็นระบบของมันเอง เช่น Google Search จริง ๆ ก็คือภาษาศาสตร์คอมพิวเตอร์แล้ว เพราะเดี๋ยวนี้เราสามารถพิมพ์คำถามลงไปตรง ๆ แล้วได้คำตอบกลับมาเลยแทนที่จะต้องไปหาคำตอบจากเว็บไซต์อื่น ทุกคนที่ใช้ Search อยู่ทุกวันนี้ก็เรียกว่าได้ใช้ผลิตภัณฑ์จาก Computational Linguistics อยู่แล้ว หรืออาจจะเป็นในรูปแบบของเครื่องแปลอัตโนมัติก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
![](https://blog.jobthai.com/service/image/s3_ckf_images/2370/Career focus/อ.ดร.อรรถพล/Computational Linguistics/Com pu quote.png)
คิดว่า Computational Linguistics มีความสำคัญอย่างไรต่อโลกปัจจุบัน และในอนาคตจะมีทิศทางไปในทางใด
มีอยู่ 2 ปัจจัยในการกำหนดว่าอนาคตของศาสตร์นี้จะเป็นอย่างไร คือ เทรนด์ตอนนี้เราพยายามจะ Automate ทุกอย่างที่ Automate ได้เพราะตลาดแรงงานเริ่มน้อยลงทุกทีแล้ว วัยที่เข้ามาทำงานจะเริ่มกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุจึงต้องมีเทคโนโลยีมาช่วยมากขึ้น งานที่บ่งบอกถึงความเป็นมนุษย์มาก ๆ ก็คืออะไรที่เป็นหน้าที่ทางด้านภาษา เช่น พูดคุย ตอบคำถาม แปล หรือตรวจเรียงความถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องใช้มนุษย์ทั้งนั้น ถ้าเราหวังจะ Automate มันก็ต้องใช้ศาสตร์ทาง Computational Linguistics เข้ามาให้มีบทบาทมากขึ้นเพื่อเราจะได้พัฒนาก่อนที่จะขาดแคลนแรงงานในหลาย ๆ ส่วนให้ทัน
อาชีพ Computational Linguistics ก็ใหม่มากในไทยเลยใช่ไหม
ใหม่มากในไทยครับและจริง ๆ ก็ใหม่มากกับทางฝั่ง Silicon Valley ด้วยเช่นกัน เพราะคนเพิ่งมารู้ว่าข้อมูลทางภาษามีความพิเศษของมันอยู่คือมันต้องวิเคราะห์ในอีกรูปแบบหนึ่งต่างจากข้อมูลทางสถิติ และอีกแขนงหนึ่งที่เพิ่งจะมาศึกษากันก็คือเรื่องการจัดระเบียบความรู้ต่าง ๆ ปัจจุบันในไทยก็พอมีคนที่ทำด้านนี้นะครับอย่าง Wongnai ก็พอมี Pantip ก็เริ่มทำบ้างเพราะเขามีกระทู้หลายหมวดหมู่จึงต้องมีคนมาจัดระเบียบตรงนี้ เรียกว่ายังเป็นจุดเริ่มต้นมีคนทำอยู่แค่หลักร้อยต้น ๆ ถ้าให้ประเมินกันจากการ Meetup เดือนละครั้งก็ต้องถือว่าเห็นหน้ากันหมดครับ รู้เลยว่าใครเป็นใครเพราะในวงการนี้ยังเล็กมาก
![](https://blog.jobthai.com/service/image/s3_ckf_images/2370/Career focus/อ.ดร.อรรถพล/Computational Linguistics/DSC08925.png)
Computational Linguistics ดูแล้วเป็นศาสตร์ที่นำเอาทักษะที่ต่างกันมาก ๆ อย่างภาษาและคอมพิวเตอร์มารวมเข้าไว้ด้วยกัน คิดว่าอะไรคือความท้าทายของงานทางสายนี้
ความท้าทายของสายนี้คือสิ่งที่เรียกว่า Mental Blocked มันเป็นเหมือนกำแพงที่อยู่ในหัวว่า อ๋อ ฉันเป็นสายศิลป์ ฉันเป็นสายวิทย์ แต่ในความเป็นจริงงานสายนี้แก่นของมันคือเป็นการรวมทั้งวิทย์ทั้งศิลป์เข้าด้วยกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตามเราต้องมานั่งอ่าน วิเคราะห์ภาษา วิเคราะห์ความหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็นสายศิลป์ แต่ในอีกทางหนึ่งก็คือยังต้องใช้ทักษะการเขียนโปรแกรม ใช้ความรู้ทางด้านสถิติ ซึ่งเราก็รู้ว่ามันเป็นทักษะทางด้านสายวิทย์ใช่มั้ยครับ แต่บางคนจะมี Mental Blocked ตรงนี้ว่าฉันเป็นอย่างหนึ่งแล้วฉันจะไม่เป็นอีกอย่างหนึ่ง ฉันไม่สามารถทำ 2 อย่างพร้อมกันได้ มันอยู่ที่ตัวเราเองมากกว่าที่เป็นอุปสรรคในการศึกษาตรงนี้ ผมจะบอกนิสิตตลอดเลยว่าเรียนได้ทุกคนจริง ๆ เพียงแค่ต้องเปิดใจว่าเดี๋ยวนี้การทำงานจะเป็นอะไรที่กว้างขึ้น ต้องใช้ทักษะรอบด้านต้องรู้ทั้งวิทย์และศิลป์
คนที่จะมาทำงานสาย Computational Linguistics ต้องมีทักษะอะไรบ้าง
อย่างแรกเลยคือต้องมีใจรักภาษา ชอบคลุกคลีกับข้อมูลทางภาษา ชอบการอ่านและวิเคราะห์ข้อมูลทางภาษาแล้วก็ต้องมีความถนัดที่เกี่ยวกับเชิงปริมาณซึ่งก็คือการแก้ปัญหา นอกจากนี้ทักษะที่ผมบอกไปแล้วเบื้องต้นว่าจำเป็นคือการเขียนโปรแกรมซึ่งเป็นหนึ่งในทักษะการแก้ปัญหา ถ้ายังไม่รู้เรื่องอะไรไม่ต้องกังวลเพราะความรู้ทุกอย่างสามารถเรียนทันกันได้หมดอยู่แล้ว แต่ส่วนที่เป็นทักษะจริง ๆ อย่างการแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ของทางภาษา เหล่านี้ค่อนข้างจะเรียนรู้กันยาก สรุปก็คือคนที่จะมาทำงานสายนี้ได้อย่างน้อยเลยต้องรู้ภาษาศาสตร์สักส่วนหนึ่ง หรือไม่ก็มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์หรือเขียนโปรแกรมเป็น จะต้องรู้อย่างใดอย่างหนึ่งแล้วก็ไปเรียนอย่างอื่นเสริมเพื่อจะได้เอาไปใช้ต่อยอดได้
![](https://blog.jobthai.com/service/image/s3_ckf_images/2370/Career focus/อ.ดร.อรรถพล/Computational Linguistics/IMG_9187.png)
การทำงานสาย Computational Linguistics ทำให้เห็นมุมมองอะไร
จุดแข็งของงานแบบ Computational Linguistics คือมันเป็นศาสตร์ผสม ถ้าเราเรียนมาทางภาษาศาสตร์ก็จะมีเครื่องมืออยู่อย่างเดียวคือทฤษฎีที่เราเรียนมาซึ่งทำให้เรารู้วิธีวิเคราะห์คำและประโยค พอเราได้เครื่องมือใหม่ที่เป็นเครื่องมือทางด้านภาษาศาสตร์คอมพิวเตอร์จากฝั่ง Computer Science มาใช้ ทำให้เราสามารถนำทฤษฎีใหม่ ๆ มาวิเคราะห์ข้อมูลชุดเดิมเพื่อที่จะทำให้เป็นอัตโนมัติมากขึ้น มันจะทำให้เกิดคำถามว่าสิ่งที่เราทำจำเจทุกวันนั้นสามารถ Automate มันได้ไหม อันนี้เรียกว่าเป็นมุมมองใหม่เลย จากที่เราเคยทำอะไรด้วยมือตลอด คิดเองตลอด ลองใช้เครื่องมาทำดูได้ไหม อันนี้คือจุดแข็งของศาสตร์แบบสหสาขาวิชาคือการมองหนึ่งอย่างแต่ลองใช้ทฤษฎีและเครื่องมือหลายประเภทดู เหมือนเป็นการเปลี่ยนเลนส์เพื่อมองสิ่งเดียวกันให้มันแตกต่างออกไปครับ
อยากฝากอะไรถึงคนที่อ่านแล้วสนใจ อยากทำงานด้าน Computational Linguistics บ้าง
อย่างแรกเลยคืออยากให้ศึกษาเพิ่มว่ามันเอาไปทำงานด้านอะไรได้อีกบ้าง แล้วศึกษาดูว่าเราขาดทักษะไหน ถ้าเราอยากใช้เทคโนโลยีตรงนี้มาจับคู่กับอาชีพที่เรามีอยู่แล้วเราจะต้องรู้อะไรบ้าง ไม่ว่าจะขาดทักษะทางด้านเขียนโปรแกรม ทักษะทางด้านเขียนโมเดลต่าง ๆ ทางด้านสถิติ หรือการวิเคราะห์ข้อมูลทางภาษา พอเรารู้แล้วว่าขาดอะไรก็สามารถหาหนังสือมาอ่าน เดี๋ยวนี้ความรู้สามารถหาได้บนออนไลน์และอยู่บนมือถือของทุกคนแล้ว คลาสออนไลน์เยอะมากเราสามารถเลือกได้ตามที่ชอบเลย อยู่กับตัวเราแล้วว่าจะมีแรงขวนขวายแค่ไหน
ในโลกการทำงานสมัยใหม่ความรู้และข้อมูลเปลี่ยนแปลงรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา นั่นหมายความว่าหากเรายังไม่ทะลายกำแพงความเชื่อที่ว่าคนจบสายศิลป์ก็ต้องทำงานด้านสายศิลป์ คนจบสายวิทย์ต้องทำงานด้านวิทย์เท่านั้นก็อาจทำให้เราตกขบวนรถของการพัฒนานี้ไป อย่างที่อาจารย์ ดร.อรรถพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าแม้จบสายศิลป์ก็สามารถหันมาทำงานด้านที่ต้องใช้ทักษะทางวิทยาศาสตร์ได้ เพราะการเปิดใจ มีความมุ่งมั่น และขวนขวายเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดเป็นส่วนช่วยให้ประสบความสำเร็จในอาชีพได้นั่นเอง
หากอ่านแล้วพบว่ามีเรื่องน่าสนใจที่ยังอยากค้นหาคำตอบ อยากรู้ Career Path ที่ละเอียดในสายงาน Computational Linguistics สามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมจาก อาจารย์ ดร. อรรถพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ได้ที่ CareerVisa Thailand ค่ะ
สามารถอ่านเรื่องราวของอีกหนึ่งอาชีพน่าสนใจ ที่อาจารย์ ดร. อรรถพล จะมาบอกเล่าเรื่องราวของศาสตร์แห่งอนาคตที่กำลังมาถึงได้ในบทความ อาจารย์ ดร.อรรถพล ธำรงรัตนฤทธิ์: Data Scientist อาชีพมาแรงของโลกสมัยใหม่ เมื่อข้อมูลมีค่าดั่งทอง ค่ะ
JobThai มี Line
แล้วนะคะ
ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่
![เพิ่มเพื่อน](https://scdn.line-apps.com/n/line_add_friends/btn/en.png)