การวางแผนความมั่นคงในชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับคนที่เคยเป็นพนักงานประจำและต้องการรักษาสิทธิประโยชน์ด้านประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง ประกันสังคม มาตรา 39 คือทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองแม้จะไม่ได้ทำงานในระบบแล้ว บทความนี้ JobThai จะพาไปอัปเดตสิทธิประโยชน์และเงื่อนไขสำคัญของประกันสังคม มาตรา 39 ที่คนทำงานควรรู้ไว้
ประกันสังคม มาตรา 39 คือ รูปแบบการประกันตนภาคสมัครใจสำหรับบุคคลที่เคยเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือคนที่เคยเป็นพนักงานบริษัทเอกชน และในระหว่างที่ทำงาน ได้จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน โดยลาออกจากงานมาไม่เกิน 6 เดือน และต้องการรักษาสิทธิประโยชน์ประกันสังคมต่อไป การสมัครเป็นผู้ประกันตนตามประกันสังคม มาตรา 39 ทำให้เรายังคงได้รับความคุ้มครองในหลายกรณีคล้ายกับการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือคนที่ยังคงทำงานประจำอยู่ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นพนักงานแล้วก็ตาม ซึ่งผู้ประกันตนจะต้องนำส่งเงินสมทบด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือน
ผู้ประกันตนมาตรา 39 ต้องจ่ายเงินสมทบเดือนละ 432 บาท ยอดเงินนี้มาจากการคำนวณบนฐานเงินเดือน 4,800 บาท ในอัตรา 9%
สิ่งสำคัญคือต้องจ่ายอย่างสม่ำเสมอและตรงเวลา เพื่อรักษาสถานะและสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองทั้ง 6 กรณีเอาไว้ ตั้งแต่การรักษาพยาบาลไปจนถึงเงินบำนาญชราภาพ การวางแผนชำระเงินให้ดีจึงเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้ประกันตนเองในระยะยาว

ผู้ประกันตนตามประกันสังคม มาตรา 39 คืออดีตลูกจ้างตามมาตรา 33 ที่ประสงค์จะรักษาสถานะผู้ประกันตนต่อไป โดยจะยังคงได้รับสิทธิประโยชน์พื้นฐาน 6 กรณี (ไม่รวมกรณีว่างงาน) จากกองทุนประกันสังคม การทำความเข้าใจสิทธิประโยชน์เหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนชีวิตได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น และสามารถเช็กสิทธิประกันสังคมของตนเองได้อย่างสม่ำเสมอ
1. การเจ็บป่วย/อุบัติเหตุ
ผู้ประกันตนตามประกันสังคม มาตรา 39 มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ ทั้งในสถานพยาบาลของรัฐและเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)
2. ทุพพลภาพ
ในกรณีที่ผู้ประกันตนตามประกันสังคม มาตรา 39 กลายเป็นผู้ทุพพลภาพ จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เป็นรายเดือนตลอดชีวิต รวมถึงค่าบริการทางการแพทย์เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจตามความจำเป็น ทั้งนี้ ระดับความคุ้มครองและจำนวนเงินทดแทนจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของการทุพพลภาพตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
3. กรณีเสียชีวิต
หากผู้ประกันตนตามประกันสังคม มาตรา 39 เสียชีวิต ทายาทหรือผู้จัดการศพจะได้รับค่าทำศพตามจำนวนที่กำหนด นอกจากนี้ หากผู้ประกันตนได้จ่ายเงินสมทบครบตามเงื่อนไข ทายาทผู้มีสิทธิจะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิตด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความคุ้มครองที่ช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว
4. การคลอดบุตร
สำหรับผู้ประกันตนหญิงตามประกันสังคม มาตรา 39 ที่มีการจ่ายเงินสมทบครบตามเงื่อนไข จะได้รับสิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตร ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ค่าตรวจและฝากครรภ์ ค่าคลอดบุตรทั้งแบบเหมาจ่าย และเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในช่วงตั้งครรภ์และหลังคลอด
5. สงเคราะห์บุตร
ผู้ประกันตนตามประกันสังคม มาตรา 39 จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเป็นรายเดือนต่อบุตรหนึ่งคน (ตามจำนวนบุตรที่กำหนด) ถึงเมื่อบุตรอายุ 6 ปีบริบูรณ์เท่านั้น เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร โดยต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย และผู้ประกันตนได้จ่ายเงินสมทบครบตามเงื่อนไขที่กำหนด
6. บำเหน็จชราภาพ
เมื่อผู้ประกันตนตามประกันสังคม มาตรา 39 มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ ซึ่งเป็นเงินก้อนที่สะสมจากเงินสมทบส่วนชราภาพที่ผู้ประกันตนและรัฐบาลร่วมกันจ่ายตลอดระยะเวลาที่เป็นผู้ประกันตน ซึ่งถ้าเราจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน เราก็จะได้รับเป็นบำนาญชราภาพรายเดือน
การสมัครเป็นผู้ประกันตนตามประกันสังคม มาตรา 39 มีเงื่อนไขและขั้นตอนที่ผู้สนใจควรศึกษาให้เข้าใจ เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง
คุณสมบัติของผู้สมัคร
ผู้ที่จะสมัครประกันสังคม มาตรา 39 ได้นั้น จะต้องเคยเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือก็คือเคยทำงานเป็นพนักงานมาก่อน และในระหว่างที่ทำงานนั้น เคยนำส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือนก่อนวันที่ลาออกจากงาน โดยจะต้องยื่นใบสมัครภายในระยะเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่สิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และไม่เป็นผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีทุพพลภาพจากกองทุนประกันสังคม
วิธีสมัครและช่องทางที่รองรับ
ผู้มีคุณสมบัติตามเงื่อนไข สามารถยื่นใบสมัครเป็นผู้ประกันตนตามประกันสังคม มาตรา 39 (แบบ สปส.1-20) พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ได้ที่สำนักงานประกันสังคมที่สะดวกทั่วประเทศ

ประกันสังคม มาตรา 39 แตกต่างจากมาตรา 33 ตรงที่มาตรา 33 เป็นภาคบังคับสำหรับลูกจ้างในสถานประกอบการทั่วไป โดยนายจ้างมีส่วนร่วมจ่ายเงินสมทบและครอบคลุมสิทธิประโยชน์ 7 กรณีรวมถึงกรณีว่างงานด้วย ในขณะที่ประกันสังคม มาตรา 39 เป็นภาคสมัครใจที่ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบเองทั้งหมด (ในอัตราที่กำหนด) และได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี (ไม่รวมกรณีว่างงาน หากผู้ประกันตนมาตรา 39 ต้องการความช่วยเหลือกรณีว่างงาน อาจต้องศึกษาวิธีลงทะเบียนว่างงาน สำหรับผู้ที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาก่อน) ส่วนมาตรา 40 เป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือแรงงานนอกระบบ ซึ่งมีทางเลือกในการจ่ายเงินสมทบและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป
การเป็นผู้ประกันตนตามประกันสังคม มาตรา 39 ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยสร้างความต่อเนื่องของหลักประกันในชีวิตสำหรับผู้ที่เคยเป็นลูกจ้างตามมาตรา 33 การทำความเข้าใจสิทธิประโยชน์ เงื่อนไขการสมัคร และการนำส่งเงินสมทบอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เราได้รับความคุ้มครองที่จำเป็นต่อไปในอนาคต ซึ่งการวางแผนที่ดีตั้งแต่วันนี้จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น
ที่มา:
finnomena.com
legardy.com
sso.go.th