การปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ได้กลายมาเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้แก่เราในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องชีวิตประจำวันและเรื่องงาน โดยเฉพาะ AI ประเภทGenerative AI ที่ช่วยเราสรุปเนื้อหาจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย พิมพ์งาน สร้างรูปภาพ หรือทำคลิปวิดิโอต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ หลายคนคงมีข้อสงสัยว่าถ้าเราให้ AI ช่วยเขียน Resumeสำหรับการสมัครงานของเรา จะเวิร์กไหม หรือถ้าตัดสินใจแล้วว่าอยากให้ AI เขียนให้ มีข้อควรระวังอะไรบ้าง บริษัทจะห้ามหรือปฎิเสธใบสมัครหรือเปล่า วันนี้ JobThai จะพาไปหาคำตอบกัน
การส่ง Resume ที่เขียนด้วย AI ไม่ใช่เรื่องผิด ตราบใดที่ข้อมูลที่ถูกใช้ทำ Resume นั้นเป็นความจริงที่อธิบายประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาของเรา อย่างไรก็ตาม การใช้ AI สำหรับการทำงานบางเรื่องอาจไม่ได้เป็นข้อดีเสมอไป หลาย ๆ องค์กรอาจมีทัศนคติที่ไม่ดีกับResume ที่ใช้ AI เขียน บางครั้งแค่กวาดตาอ่านก็รู้แล้วว่าสำนวนการเขียนนั้นไม่ใช่มนุษย์เขียนแน่นอน ซ้ำร้ายผู้สมัครบางคนอาจใช้ AI เขียน Resume ให้ทั้งหมด แล้วก๊อปวาง โดยไม่ได้ตรวจสอบ นั่นทำให้ Resume ที่ทำด้วย AI เกิดความเสี่ยงที่จะถูกบริษัทไม่พิจารณาResume เพราะมองว่าไม่มีความตั้งใจในเขียนสมัครงานด้วยตัวเอง
สรุปคือการใช้ AI ช่วยเขียน Resume นั้นไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด แต่การใช้ AI โดยไม่ได้ตรวจทานให้ดีก่อนต่างหากที่เป็นพฤติกรรมที่องค์กรและนายจ้างยอมรับไม่ได้และเลือกที่จะปฏิเสธการพิจารณาใบสมัครเหล่านั้น
ข้อดี
การให้ AI ช่วยเขียน Resume มีประโยชน์ ดังนี้
- ประหยัดเวลา: เพียงแค่พิมพ์ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของเรา AI ก็สามารถสร้าง Resume ให้ได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที
- ตรวจไวยากรณ์ ปรับสำนวนและการสะกดคำ: กรณีที่เราต้องการส่ง Resume เป็นภาษาอังกฤษ AI สามารถขึ้นโครงร่าง Resume จากการ Prompt ข้อมูลของเรา อีกทั้งยังแก้ไขการสะกดคำ ตรวจสอบความถูกต้องหรือปรับสำนวนการเขียนใหม่ให้ดีกว่าเดิมได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเขียนเองทั้งหมด ในกรณีที่ถ้าเราต้องส่ง Resume เป็นภาษาไทย AI ก็สามารถแปลภาษาได้อย่างรวดเร็ว ตรวจสอบคำผิดภาษาไทยได้ หรือ AI บางตัวที่รองรับภาษาไทยก็สามารถเขียน Resume เป็นภาษาไทยได้เลย แต่สำหรับการปรับสำนวนการเขียนภาษาไทยเราเองอาจจะต้องตรวจทานเนื้อหาจาก AI ให้ละเอียดด้วยตัวเองเพื่อให้การใช้ภาษาไทยเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- สร้างลิสต์คำสำคัญและหัวข้อที่หลากหลาย: ถ้าคิดคำศัพท์ไม่ออก หรืออธิบายเป็นคำพูดไม่เก่ง AI สามารถสร้างกลุ่มคำที่น่าสนใจให้เราเลือกใช้ได้ในการตั้งต้นเขียน Resume ในแต่ละส่วน
- เรียบเรียงข้อมูลเนื้อหาให้น่าสนใจมากขึ้น: AI จะวิเคราะห์ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เช่น ประวัติการทำงาน ทักษะ และความสำเร็จตามที่เราบอก ผสมผสานกับการดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแล้วนำเสนอเนื้อหาเพิ่มเติมให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น อาจมีการยกตัวอย่างการเขียนเนื้อหาให้น่าสนใจกว่าที่เราเขียนเอง เช่น เราบอก AI สั้น ๆ ว่าต้องการสมัครตำแหน่งงานผู้จัดการในสายงานการตลาด AI ก็จะสร้าง List ตัวอย่างงานออกมาว่าตำแหน่งนี้ทำหน้าที่อะไรบ้าง มีหน้าที่ หรือผลงานสำคัญตอนทำตำแหน่งนี้ยังไงบ้าง อาจมีการเชื่อมโยงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ซึ่งเรานึกไม่ถึงหรือลืมคิดมุมนี้ไปก็ได้
- แนะนำโครงสร้างการเขียนหรือ Template ที่เป็นประโยชน์: AI สามารถสร้างรูปแบบResume ได้หลากหลาย ช่วยให้เราวางแผนออกแบบ Resume จัดวางและจัดลำดับเนื้อหาได้ตามความต้องการ
โดยรวมแล้ว AI สามารถช่วยด้านการเขียนของเราได้มาก เช่น ปรับประโยคของเราให้กระชับ ปรับสำนวนการเขียนให้มีความเป็นมืออาชีพ ตลอดจนแนะนำคำศัพท์ที่น่าสนใจหรือเหมาะสมมากขึ้น เรียกได้ว่าอยากปรับตรงจุดไหน AI ก็ AI ให้ได้หมด ภายในระยะเวลาไม่นาน
ข้อเสีย
สำหรับข้อเสียของการใช้ AI เขียน Resume มี ดังนี้
- ใช้คำอธิบายกว้าง ๆ ไม่เจาะลึก: AI มักจะสร้างประโยคที่คลุมเครือและเป็นคำอธิบายกว้างไว้ก่อนแต่ขาดข้อมูลเชิงลึกหากเราเขียนคำสั่งไม่ละเอียดพอ
- ขาดความเป็นมนุษย์: บางครั้ง AI จะผลิตประโยคที่ดูทื่อ ๆ และไม่เป็นธรรมชาติ เหมือนจับเอาคำหรือประโยคมาเรียงกันโดยไม่มีความเชื่อมโยง หากเรา Prompt ข้อมูลไปแล้วเอาข้อมูลที่ได้มาใช้ทันทีโดยไม่ตรวจสอบให้ดี คนอ่าน Resume ที่มีประสบการณ์เยอะจะแยกได้ว่าอันไหนคนหรือ AI เขียน
- มีข้อผิดพลาดแทรกอยู่ในเนื้อหา: บางครั้ง โมเดล AI อาจใช้คำฟุ่มเฟือยเกินไป มีคำผิดหรือมีอธิบายที่ไม่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ถ้าเราให้ข้อมูลน้อยเกินไป AI อาจดึงข้อมูลมาจากหลายแหล่งข้อมูล ซึ่งถ้าเราไม่ตรวจสอบให้ดีจะกลายเป็นว่าเราใส่ข้อมูลใน Resume ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และอาจเกิดปัญหาหากมีการถามถึงในขั้นตอนการสัมภาษณ์งาน
สิ่งที่ผู้สมัครหลายคนมักทำพลาดก็คือการสั่งให้ AI สร้างเนื้อหา Resume ขึ้นมาแล้วใช้สมัครงานโดยไม่ได้ตรวจสอบหรือปรับเปลี่ยนอะไรเลย จริงอยู่ที่ AI สามารถผลิตเนื้อหาออกมาได้ดี แต่เมื่อเป็นเรื่องสำคัญอย่างการใช้ Resume สมัครงาน ผู้สมัครงานอย่างเราต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่เริ่มต้นป้อนข้อมูลเรื่องการทำงานของเราให้ AI นำไปประมวลผล ตรวจสอบเนื้อหาที่ AI ผลิตออกมาว่ามีความถูกต้องครบถ้วนไหม ไปจนถึงปรับเนื้อหาให้ภาษาที่ใช้มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ก่อนส่งให้กับองค์กร อย่าลืมว่า Resume คือเอกสารชิ้นสำคัญชิ้นแรกที่เป็นโอกาสในการสื่อสารระหว่างผู้สมัครงานและองค์กร เราจึงต้องโฟกัสว่าการสื่อสารกันครั้งแรก เราอยากให้องค์กรประทับใจเรามาแค่ไหน เราอยากให้คนอ่าน Resume อ่านแล้วเข้าใจตัวตนหรือบุคลิกภาพของเรา เห็นถึงความตั้งใจในการเขียนสมัครงาน หรือ อยากให้เขาเห็นชุดข้อมูลที่เรียงกันเป็นพรืดและไม่น่าสนใจกันแน่
เพราะฉะนั้น การจะเขียน Resume ด้วย AI ให้ดี ควรเป็นการผสมผสานระหว่างข้อดีของมนุษย์เราและ AI เข้าไว้ด้วยกัน นั่นคือ ให้ AI เป็นตัวตั้งต้นของร่าง Resume ให้ AI ระดมหาไอเดียในการเขียนตัวอย่างทักษะหรือหัวข้อที่น่าสนใจให้แล้วเราก็เลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดไปปรับใช้ในการเขียน สุดท้ายเราก็เขียนเชี่อมโยง ให้เหตุผลถึงแรงบันดาลใจหรือจุดมุ่งหมายในการทำงานที่มาจากประสบการณ์เฉพาะตัวของเรา เพิ่มความเป็นมนุษย์ให้กับสารที่เราอยากส่งไปให้บริษัท และตรวจสอบข้อมูลให้เรียบร้อยตรงกับความเป็นจริง เพียงเท่านี้ เราก็จะได้ใช้ประโยชน์จาก AI อย่างเต็มที่ และได้ผลลัพธ์ออกมาเป็น Resume ที่สมบูรณ์และน่าสนใจ
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT, Gemini หรือ Generative AI ตัวไหน ๆ ถ้าเรา Prompt หรือพิมพ์คำสั่งให้ช่วยเขียน Resume ให้หน่อย ทุกค่ายก็คงทำออกมาได้หมดภายในเวลาไม่นาน แต่ AIต้องการข้อมูลที่เพียงพอในการใช้ร่าง หากเราใส่ข้อมูลของตัวเองน้อยเกินไป AI ก็อาจเพิ่มเติมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ แบบกว้าง ๆ แต่ไม่ได้เป็นข้อมูลเชิงลึกของเรา เพราะฉะนั้นเราควรป้อนข้อมูลที่เราอยากเน้นให้บริษัทเห็นหรือคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับการสมัครงานเพื่อให้AI ลองสร้างโครงร่าง Resume และแนะนำการเขียนของเราได้อย่างหลากหลายมากขึ้น โดยเราสามารถใส่ข้อมูลในประเด็นต่าง ๆ ตามนี้
- ชื่อตำแหน่งงานที่เราต้องการสมัคร
- ประสบการณ์และทักษะการทำงานที่โดดเด่น
- ประวัติการศึกษา
- เป้าหมายในการทำงาน
- ความสำเร็จในการทำงานที่ผ่านมา
- การฝึกอบรมและประกาศนียบัตรต่าง ๆ
(หากมีความกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล เราอาจจะไม่ต้องใส่ข้อมูลจริงลงไปใน AI ก็ได้แต่อาจใช้ชื่อสมมติแล้วมาปรับเป็นข้อมูลจริงในขั้นตอนสุดท้ายก่อนส่ง Resume ก็ได้)
เมื่อได้หัวข้อคร่าว ๆ แล้ว ให้ระบุโทนหรือสไตล์การเขียนที่ต้องการ เช่น ให้ดูเป็นทางการและเป็นมืออาชีพ หรือใช้สำหรับสมัครงานในธนาคาร เมื่อได้ผลลัพธ์จากการ Prompt แล้ว สองสิ่งสุดท้ายที่เราต้องให้ความสำคัญคือ หนึ่ง ปรับเนื้อหารายละเอียดการทำงานให้มีความเป็นตัวเรามากขึ้น เช่น การเน้นทักษะพิเศษเพื่อให้คนอ่านสนใจ เป้าหมายในการทำงาน หรือแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากร่วมงานกับบริษัทที่สมัคร และสองคือการตรวจสอบข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง แบบที่ AI ผลิตเกินมาและไม่ตรงกับทักษะหรือความสามารถที่เรามี เพื่อให้Resume ของเราครบถ้วนและถูกต้อง
แม้การใช้ AI ช่วยเขียน Resume จะทำให้เราได้ไอเดียตั้งต้นหรือแนวทางในการนำเสนอที่หลากหลาย และได้ Resume ร่างแรกออกมาได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วินาที แต่สิ่งที่คนทำงานอย่างเราต้องให้ความสำคัญคือการตรวจสอบทั้งข้อมูลส่วนตัวและประวัติที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของเราให้มีความถูกต้อง อย่าเพิ่งเชื่อว่าทุกสิ่งที่ AI ทำนั้นถูกต้องทั้งหมด รวมถึงการใส่ความเป็นมนุษย์ลงไปในเนื้อหา Resume เมื่อตัวแทนองค์กรไม่ว่าจะเป็น HR หรือ หัวหน้างานที่กำลังมองหาคนได้อ่านก็จะรับรู้ได้ว่า Resume นี้ถูกเขียนด้วยความตั้งใจ เปิดโอกาสสู่การเรียกสัมภาษณ์และการรับเข้าทำงานในอนาคต
ที่มา:
linkedin.com, testgorilla.com, flexjobs.com, michaelpage.com.au, alis.alberta.ca, foundation.mozilla.org, atsinc.com, finalroundai.com, resumeble.com