เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันและการทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะ เครื่องมือ AI ต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ ทำให้ชาวออฟฟิศทำงานได้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม การรู้จักและเลือกใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสมจึงเป็นทักษะที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน บทความนี้ JobThai ได้รวบรวมเครื่องมือที่น่าสนใจมาให้คุณแล้ว
เครื่องมือ AI คือ ซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันที่นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้เพื่อทำงานเฉพาะด้านหรือช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานต่าง ๆ ตั้งแต่งานเอกสาร การวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างสรรค์เนื้อหา ไปจนถึงการสื่อสารและจัดการประชุม ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างต้องการความรวดเร็วและแม่นยำ เครื่องมือ AI จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชาวออฟฟิศ เพราะช่วยลดเวลาทำงานซ้ำซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพ และเปิดโอกาสให้เราได้มุ่งเน้นไปที่งานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์มากขึ้น ซึ่งการปรับตัวและเรียนรู้การใช้งานเครื่องมือเหล่านี้ถือเป็นทักษะสำคัญควบคู่ไปกับอีกหลายทักษะที่คนทำงานต้องมีเมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคของ AI เต็มรูปแบบ
เครื่องมือ AI มีประโยชน์ดังนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน
- ลดระยะเวลาในการทำงานประจำ (Routine) ที่ซ้ำซากและน่าเบื่อ
- ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากและตัดสินใจได้ดีขึ้น
- เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และช่วยในการผลิตเนื้อหาใหม่ ๆ
- ทำงานอัตโนมัติ (Automation) ในหลาย ๆ ส่วน ช่วยลดข้อผิดพลาด
- ช่วยให้การทำงานร่วมกันในทีมสะดวกและราบรื่นขึ้น
- เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทั้งในระดับบุคคลและองค์กร

เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกใช้ บทความนี้ได้แบ่งเครื่องมือ AI ออกเป็นหมวดหมู่ตามประเภทการใช้งานหลัก ๆ ที่ชาวออฟฟิศต้องเจอ มาดูกันว่ามีเครื่องมืออะไรบ้างที่จะช่วยให้ชีวิตการทำงานของคุณง่ายขึ้น
AI ผู้ช่วยทั่วไปและแชทบอทอัจฉริยะ
เครื่องมือกลุ่มนี้เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถตอบคำถาม ให้ข้อมูล สรุปเนื้อหา หรือแม้แต่ช่วยระดมความคิดได้
1. Claude
Claude เป็นแชทบอท AI ที่เน้นการสนทนาที่เป็นธรรมชาติ สามารถช่วยสรุปเนื้อหา ตอบคำถาม เขียนบทความ หรือแม้แต่ช่วยในการเขียนโค้ดเบื้องต้นได้ มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากและให้คำตอบที่ค่อนข้างละเอียดและปลอดภัย
2. ChatGPT
เครื่องมือ AI ยอดนิยมที่พัฒนาโดย OpenAI มีความสามารถหลากหลายตั้งแต่การตอบคำถามทั่วไป เขียนเนื้อหาประเภทต่าง ๆ ช่วยคิดไอเดีย สรุปบทความ ไปจนถึงการเขียนโค้ด ChatGPT เรียนรู้จากข้อมูลมหาศาล ทำให้สามารถโต้ตอบได้อย่างชาญฉลาด
3. Gemini
เดิมชื่อ Bard เป็นแชทบอท AI จาก Google ที่เชื่อมโยงกับข้อมูลล่าสุดจากอินเทอร์เน็ตได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการค้นหาข้อมูลที่ทันสมัย ช่วยสรุปเนื้อหาจากหน้าเว็บ ตอบคำถาม และสร้างสรรค์ข้อความในรูปแบบต่าง ๆ
4. YouChat
เป็นส่วนหนึ่งของ You.com ซึ่งเป็น Search Engine ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดย YouChat สามารถให้คำตอบพร้อมแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจน ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ง่าย เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความน่าเชื่อถือ
5. Perplexity AI
เครื่องมือ AI ที่โดดเด่นด้านการค้นหาข้อมูลและให้คำตอบที่แม่นยำพร้อมแหล่งอ้างอิง คล้ายกับ YouChat แต่เน้นการให้ข้อมูลเชิงลึกและการสนทนาต่อเนื่องเพื่อทำความเข้าใจคำถามได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับงานวิจัยหรืองานที่ต้องการข้อมูลละเอียด
AI สำหรับการเขียน สร้างสรรค์คอนเทนต์ และการตลาด
สำหรับงานเขียน การสร้างคอนเทนต์ หรือการตลาด เครื่องมือ AI เหล่านี้จะช่วยให้คุณทำงานได้เร็วขึ้นและมีไอเดียที่หลากหลาย
6. Jasper
Jasper (เดิมชื่อ Jarvis) เป็นเครื่องมือ AI ที่เชี่ยวชาญด้านการเขียนคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ เช่น บทความบล็อก โพสต์โซเชียลมีเดีย คำโฆษณา อีเมลการตลาด มีเทมเพลตให้เลือกใช้มากมาย ช่วยให้สร้างสรรค์งานเขียนได้รวดเร็วและมีคุณภาพ
7. Copy.AI
เป็นอีกหนึ่ง เครื่องมือ AI ที่ช่วยในการสร้างสรรค์ข้อความและคอนเทนต์ทางการตลาดได้อย่างรวดเร็ว สามารถเขียนได้ทั้งหัวข้อโฆษณา รายละเอียดสินค้า เนื้อหาเว็บไซต์ และอีเมลต่าง ๆ โดยมีจุดเด่นที่ใช้งานง่ายและมีเครื่องมือช่วยปรับโทนภาษาให้เหมาะสมตามการใช้งาน
8. Anyword
Anyword เน้นการใช้ AI เพื่อสร้างข้อความทางการตลาดที่เน้นผลลัพธ์ โดยสามารถวิเคราะห์และคาดการณ์ประสิทธิภาพของข้อความได้ ช่วยให้ผู้ใช้งานเลือกใช้คำที่โน้มน้าวใจกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับนักการตลาดที่ต้องการเพิ่ม Conversion
9. Notion AI
Notion AI คือแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้จัดการงานเอกสารและสร้างสรรค์เนื้อหาได้ในที่เดียว โดยมีฟีเจอร์ AI ที่สามารถสรุปข้อความ เขียนบทความ ช่วยคิดไอเดีย หรือแม้แต่แปลภาษาได้โดยตรงจากหน้า Notion ที่ใช้งานอยู่
10. Surfer
Surfer SEO เป็น เครื่องมือ AI ที่เน้นการวิเคราะห์และปรับปรุงคอนเทนต์เพื่อให้ติดอันดับ SEO (Search Engine Optimization) ได้ดีขึ้น โดยจะช่วยวิเคราะห์คีย์เวิร์ด โครงสร้างบทความ และให้คำแนะนำในการปรับแต่งเนื้อหาให้เป็นมิตรกับ Search Engine มากขึ้น
AI สำหรับการประชุม สรุปผล และถอดเทป
ลดเวลาการทำงานที่เกี่ยวกับการประชุมด้วย AI ที่ช่วยทั้งการถอดเทป สรุปประเด็นสำคัญ และจัดการนัดหมาย
11. Otter.ai
เครื่องมือ AI ยอดนิยมสำหรับการถอดเสียงการประชุมหรือการสัมภาษณ์เป็นข้อความแบบเรียลไทม์ สามารถระบุผู้พูดและสร้างสรุปการประชุมเบื้องต้นได้ ช่วยประหยัดเวลาในการจดบันทึกและทบทวนเนื้อหา
12. Fireflies.ai
Fireflies.ai เป็นผู้ช่วย AI สำหรับการประชุม สามารถเข้าร่วมการประชุมออนไลน์ ถอดเสียง สรุปประเด็นสำคัญ และวิเคราะห์การสนทนาได้อัตโนมัติ รองรับแพลตฟอร์มประชุมหลากหลาย เช่น Zoom, Google Meet หรือ Microsoft Teams
13. Krisp
Krisp เป็น เครื่องมือ AI ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างระหว่างการประชุมออนไลน์หรือการโทรศัพท์ ทำให้เสียงพูดชัดเจนยิ่งขึ้นทั้งฝั่งผู้พูดและผู้ฟัง ช่วยให้การสื่อสารราบรื่นและเป็นมืออาชีพ
14. Genei
Genei ใช้ AI ในการช่วยสรุปเนื้อหาจากเอกสารงานวิจัย บทความ หรือหน้าเว็บจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องอ่านและทำความเข้าใจข้อมูลจำนวนมากเพื่อนำมาใช้ในการประชุมหรือทำงานต่อ
15. Sembly AI
Sembly AI เป็นอีกหนึ่งผู้ช่วย AI อัจฉริยะสำหรับการประชุม สามารถเข้าร่วม ถอดเทป สรุป และวิเคราะห์การประชุมได้โดยอัตโนมัติ พร้อมสร้างรายงานการประชุม (Minutes of Meeting) ที่มีรายละเอียดครบถ้วน ช่วยให้ทีมไม่พลาดทุกประเด็นสำคัญ
AI สำหรับการนำเสนอและ Presentation
สร้างสไลด์นำเสนอที่สวยงามและน่าสนใจได้ง่าย ๆ ด้วยความช่วยเหลือจากเครื่องมือ AI เหล่านี้
16. Beautiful.ai
เครื่องมือ AI ที่ช่วยออกแบบสไลด์นำเสนอให้สวยงามและเป็นมืออาชีพได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพียงแค่ใส่เนื้อหา AI จะช่วยจัดวางองค์ประกอบและดีไซน์ให้โดยอัตโนมัติ ทำให้สไลด์ดูดีมีสไตล์โดยไม่ต้องเสียเวลาออกแบบเอง
17. Tome
Tome เป็น เครื่องมือ AI สำหรับสร้าง Presentation ที่เน้นการเล่าเรื่อง (Storytelling) สามารถสร้างสไลด์พร้อมเนื้อหาและรูปภาพประกอบจากหัวข้อที่เรากำหนด ช่วยให้การนำเสนอน่าสนใจและเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
18. Gamma.app
Gamma.app ใช้ AI ช่วยสร้างเอกสาร สไลด์นำเสนอ หรือแม้แต่หน้าเว็บไซต์อย่างรวดเร็วจากข้อความที่เราป้อนเข้าไป ผู้ใช้สามารถปรับแต่งแก้ไขได้ง่าย ทำให้การสร้างสรรค์ผลงานนำเสนอสะดวกและมีประสิทธิภาพ
AI สำหรับตรวจสอบและปรับปรุงคุณภาพงานเขียน
มั่นใจในทุกงานเขียนด้วย AI ที่ช่วยตรวจไวยากรณ์ ปรับสไตล์ และป้องกันการคัดลอกผลงาน
19. Grammarly
เครื่องมือ AI ที่จำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องเขียนภาษาอังกฤษ ช่วยตรวจสอบไวยากรณ์ การสะกดคำ เครื่องหมายวรรคตอน และให้คำแนะนำในการปรับปรุงสไตล์การเขียนให้ชัดเจนและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น มีทั้งแบบใช้งานฟรีและแบบเสียเงิน
20. Copyleaks
Copyleaks เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยตรวจสอบการคัดลอกผลงาน (Plagiarism) จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ต มีประโยชน์สำหรับงานเขียนที่ต้องการความเป็นต้นฉบับสูง เช่น งานวิชาการ บทความ หรือคอนเทนต์ออนไลน์
21. QuillBot
QuillBot เป็น เครื่องมือ AI ที่ช่วยในการถอดความ (Paraphrasing) ปรับเปลี่ยนรูปประโยคหรือคำในงานเขียนให้มีความหลากหลายและเป็นธรรมชาติมากขึ้นโดยยังคงความหมายเดิมไว้ รวมถึงช่วยสรุปเนื้อหาและตรวจสอบไวยากรณ์ได้ด้วย

เครื่องมือ AI ได้เข้ามาเป็นผู้ช่วยสำคัญที่ช่วยให้ชาวออฟฟิศทำงานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น การเลือกใช้ AI ที่เหมาะสมกับประเภทงานและความต้องการ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน และเปิดโอกาสให้เราได้ใช้เวลาไปกับงานที่สร้างสรรค์และมีคุณค่ามากขึ้น ลองศึกษาและนำเครื่องมือเหล่านี้ไปปรับใช้ เพื่อยกระดับการทำงานของคุณในยุคดิจิทัลที่ AI มีบทบาทมากขึ้นทุกวัน
ที่มา:
techsauce.co, marketingoops.com, yeswebdesignstudio.com