JobThai ได้รวบรวมประเด็นน่าสนใจจากงาน Thailand Marketing Day On Tour 2025 ที่จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 26-27 กันยายน 2568 โดยผู้เข้าฟังในงานมีทั้งอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด นักศีกษา และบุคคลทั่วไป จะมีหัวข้อไหนน่าสนใจและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการทำการธุรกิจได้บ้าง เราไปดูพร้อมกันเลย

DECODE GEN Z & FUTURE OF EDTECH เข้าใจเด็กยุคใหม่ ตอบโจทย์การศึกษา

โดย ดร.เอกก์ ภทรธนกุล อุปนายกฝ่ายกิจกรรมการสื่อสารและการตลาดยั่งยืน สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย และหัวหน้าภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ดร. ภากร กัทชลี อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และที่ปรึกษานายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย, รศ.ดร.บัณฑิต สวรรยาวิสุทธิ์ ประธานวิชาเอกการตลาด คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ผศ.ดร.ธีรศักดิ์ จินดาบถ ประธานวิชาเอกการตลาดและการสื่อสารสาขาวิชาบริหารธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

GEN Z มีความแตกต่างจากวัยอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดช่องว่างระหว่างวัยของผู้เรียนและผู้สอน ในฐานะอาจารย์ผู้สอนจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการสอนให้เข้ากับคนรุ่นใหม่ เช่น เรื่องเรียนพวกเขาอาจจะค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง เรื่องวิธีการทำงาน นักศึกษา Gen Z ได้รับมอบหมายให้ทำงานกลุ่มในห้อง พวกเขาจะใช้วิธีการคุยกันผ่านแชทและการแชร์หน้าจอทำงานมากกว่าการปรึกษาด้วยพูดคุยแบบตัวต่อตัว แต่ผลลัพธ์ของงานออกมาดีไม่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นผู้สอนก็ควรปรับเปลี่ยนตามสมัยนิยมหรือเทคโนโลยีที่เอื้ออำนวย การเช็กชื่อด้วยการขานชื่ออาจจะดูตกยุคไปแล้ว ใช้การ Scan Barcode หรือใช้ Google Form แทนในการเช็กชื่อเข้าเรียนหรือตรวจสอบรายชื่อการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมกลุ่มก็จะได้ใจเด็ก ๆ มากกว่า

การปรับตัวเปิดรับภาษาของเด็กก็มีส่วนสำคัญที่จะทลายความแตกต่างระหว่างวัยได้ ไม่ใช่เฉพาะกับเด็ก Gen Z แต่ยังรวมไปถึงเด็ก Gen Alpha หรือเด็กรุ่นใหม่ ๆ ในอนาคต เพราะฉะนั้นการเปิดใจยอมรับภาษาใหม่ ๆ ของเด็ก ๆ และการเปิดโอกาสให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมในการกำหนดกติกาการเรียนการสอนร่วมกันก็จะทำให้เด็กรุ่นใหม่ยอมรับและปรับตัวเข้าหาอาจารย์ผู้สอนได้มากขึ้น

นักศึกษาอาจจะมีคำถามมากมาย อาจารย์ต้องเปิดโอกาสให้เด็กได้ถามภายใต้สภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อเขา นอกจากนี้ผู้สอนยังต้องเสริมความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในโลกการทำงานจริง หมั่นอัปเดตความรู้ที่หาไม่ได้จากตำราหรือห้องเรียน ตลอดจนมีการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง AI ด้วยการชี้แนะอย่างถูกต้อง เช่น ใช้ AI ในการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น แต่เมื่อจะต้องวิเคราะห์ข้อมูล ก็เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ร่วมกันตั้งคำถามว่าทำไม AI ถึงตอบออกมาแบบนั้น และช่วยกันคิดหาคำตอบด้วยตัวเอง และพูดคุยแลกเปลี่ยนระหว่างผู้เรียนและผู้สอน

DATA-DRIVEN MARKETING FOR EDUCATORS ปั้นห้องเรียนให้พร้อมสู่โลกการตลาดจริง

โดย คุณกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท WISESIGHT (ประเทศไทย) จำกัด

พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ตอนนี้คนนิยมใช้ AI อย่าง ChatGPT เพื่อค้นหาคำตอบมากกว่า Google แล้ว ทำให้นักการตลาดทำงานยากขึ้น ทำ SEO ไปคนก็ไม่เห็นเพราะได้คำตอบที่ต้องการจบในเครื่องมือ Chat AI หมดแล้ว เป็นหน้าที่ของนักการตลาดที่ต้องไปตามดูว่าธุรกิจของเราถูกพูดถึงอย่างในบนเครื่องมือเหล่านั้น

WISESIGHT มีข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย 4 ประเภท ได้แก่ ข้อมูลผู้บริโภค องค์กร KOL (Key Opinion Leader) และข้อมูล E-Commerce ซึ่งการมีข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจมีความแม่นยำมากขึ้น เพราะอ้างอิงจากข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง เช่นเดียวกัน อาจารย์ผู้สอนก็สามารถนำเครื่องมือ Social Listening ไปใช้เพื่อการสอนให้เด็กรุ่นใหม่เรียนรู้และคุ้นเคยก่อนได้

อาจารย์สามารถปรับเปลี่ยนจากการให้คำตอบหรือสอนเรื่องการตลาดให้นักศึกษา มาเป็นการตั้งคำถามให้นักศึกษาใช้ข้อมูลไปวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือที่คอยฟังเสียงของผู้บริโภคในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น สินค้าหนึ่งชิ้น ได้รับกระแสตอบรับน้อยใน Facebook แต่อาจจะเป็นที่นิยมมากกว่าใน TikTok ก็ได้ เพราะฉะนั้น การให้เด็กได้ทดลองใช้เครื่องมือวิเคราะห์โซเชียลมีเดียให้เป็นตั้งแต่ตอนเรียน มีองค์ความรู้ในการเข้าใจการทำงานของ Engagement ไม่ว่าจะเป็น Reaction, Comment หรือ Share สามารถเปรียบเทียบข้อมูลเพื่อนำมาต่อยอดทางการตลาดได้ จะทำให้นักศึกษามีทักษะติดตัวไปใช้ในการเริ่มต้นหางานและสร้างความได้เปรียบในโลกการทำงาน

SOCIAL COMMERCE TRENDS 2025 สำหรับคนรุ่นใหม่ “ใช้ให้เป็น เห็นโอกาส”

โดย คุณธัญญ์นิธิ อภิชัยโชติรัตน์ CO-FOUNDER บริษัท สมอลเวิล์ดฟอร์คิดส์ จำกัด 

ในการทำธุรกิจหรือการขายของ ต้องเลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะสมตามกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มคนอายุ 35 ปีขึ้นไป Facebook เป็นสิ่งทิ้งไม่ได้เพราะคนกลุ่มนั้นอยู่ที่นั่น ถ้าอยากทำการตลาดแบบ Real Time หรือ Content อิงกระแส ต้องเล่น X ด้วย ส่วน TikTok ต้องเล่าเรื่องให้สนุก เข้าใจง่าย ไม่น่าเบื่อจนคนเลื่อนฟีดหนี ต้องรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของธุรกิจเราเขาเล่นแพลตฟอร์มไหน ก่อนตัดสินใจทำ Content

รูปแบบ Content วิดีโอแนวตั้งกำลังได้รับความนิยมเพราะคนสมัยนี้ชอบเล่นมือถือมือเดียว ข้อมูลจาก TikTok และ Meta ยืนยันมาแล้วว่าเวลาทำโฆษณาหรือ Content เป็นแนวนอนคนไม่ดูต่อ เพราะฉะนั้นแนะนำว่าหากต้องการเริ่มทำ Content สามารถทำเป็นคลิปสั้น ๆ ในแนวตั้ง แล้วลองลงในทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นTikTok, Line Voom, Facebook/Ig Reels, หรือ YouTube Shorts

หากต้องการสร้าง Content ให้ลอง ใช้ 4 เทคนิคการทำ Content ให้ประสบความสำเร็จ ดังนี้

1. Real จริงใจ: ถ่ายคลิปแบบธรรมชาติ ไม่เป็นทางการ สื่อสารด้วยความจริงใจ เข้าถึงได้ง่าย ใช้ภาษาเหมือนที่เล่าให้เพื่อนฟัง หรือถ่ายจากสินค้าจริง
2. Authentic ไม่เหมือนใคร: สร้างตัวตนของแบรนด์ที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด คนเห็นแบรนด์ของเราซ้ำ ๆ ทุกช่องทางแล้วจำได้ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย ชื่อแบรนด์ หรือแม้แต่เสียงและมุมกล้องที่โดดเด่นกว่าคนอื่น
3. Dynamic ฉับไว: พูดเข้าประเด็นภายใน 3-5 วินาทีแรก ใช้น้ำเสียงหลายระดับ และเปลี่ยนฉากบ่อย ๆ ทุก ๆ 6 วินาที เพื่อไม่ให้คนดูเบื่อ
4. 60 วินาที: ถ้าอยากทำงานน้อยแต่ได้ผลลัพธ์เยอะ ทำครั้งเดียวไม่เกิน 1นาที เพราะเป็นความยาวขั้นต่ำ สามารถลงได้ทุกแพลตฟอร์มไม่ต้องตัดต่อเพิ่ม 

YOUNG FARMERS BIG DREAMS สวนผักคนรุ่นใหม่สร้างแบรนด์ด้วยหัวใจและความเชื่อ

โดย คุณชลากร เอกชัยพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน)

บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด เริ่มต้นมาจากร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ที่เน้นเมนูสลัดผักออแกนิคที่ปลูกเอง โดยมีกลุ่มเป้าหมายเพื่อคนรักสุขภาพ เมื่อเราเติบโตมากขึ้น เป้าหมายเราก็จะใหญ่ขึ้นและเปลี่ยนแปลงไป การจะเติบโตได้อย่างมั่นคงมีหลายปัจจัย เช่น มีความเป็นมืออาชีพในการประกอบธุรกิจ มีข้อมูลที่เพียงพอเพื่อประกอบการตัดสินใจสำคัญ และการมีพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีสามารถเป็นพี่เลี้ยงคอยแนะแนวทางให้เราได้

สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจของคุณชลากร ไม่ว่าจะคิดแบรนด์ หรือ มีสินค้าใหม่ ๆ ออกมา คือ 1. Quality (คุณภาพ) 2. Tasty (รสชาติ) 3. Healthy (สุขภาพดี) และ 4. Variety (ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์) นอกจากนี้ในเชิงกลยุทธ์การตัดสินใจขยายตลาด ก็มีอีก 4 ข้อ ได้แก่ 1. แบรนด์ใหม่ต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์หลักได้ 2. ตลาดต้องใหญ่พอที่เราจะลงไป 3. เราต้องสามารถสร้างความแตกต่างได้ 4. ต้องสามารถใช้ทรัพยากรเดิมที่มีอยู่ในการทำธุรกิจเดิมด้วยกันได้ โดยแบรนด์ใหม่ อย่าง Oh! Juice ร้านน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพ หรือ Joe Wings ร้านไก่ทอดที่ปลอดสารเร่งโตและใช้น้ำมันคาโนล่าในการทอด ก็เกิดขึ้นมาจากหลักการทั้งหมดที่พูดถึงนี้

ด้วยความเชื่อที่ว่าการปลูกผักแบบไร้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลงคือวิธีการทำการเกษตรที่ดีที่สุด นอกจากการเอาใจใส่ลูกค้าด้วยวัตถุดิบปลอดสารพิษด้วยการปลูกผักเองแล้ว บริษัทยังส่งเสริมให้เกษตรกรกว่า 150 ครอบครัว ให้ปลูกผักแบบอินทรีย์มากขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยมีพื้นที่เกษตรกรรมที่ปลอดสารพิษเพิ่มมากขึ้นและช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้ไปพร้อมกัน

SHORT CUT NEW SUCCESS สูตร(ไม่)ลับ สู่ความสำเร็จที่แตกต่าง

โดย คุณวสุพล ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ กรรมการบริหาร และผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายในประเทศ บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด

ความสำเร็จของ บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น นอกจากคุณภาพและชื่อเสียงที่อยู่คู่คนไทยมานานแล้ว ในปัจจุบันยังมีการสร้างนวัตกรรมให้กับสินค้า เช่น ลูกอมซีอิ๊ว การคิดค้นซีอิ๊วเม็ดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความสะดวกในการใช้งานปรุงอาหารมื้อเล็ก ๆ การร่วมมือกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง การคิดเมนูเบเกอรี่ร่วมกับ Lotus’s และ Makro ซึ่งใช้ซอสหยั่น หว่อ หยุ่น เป็นส่วนประกอบ มีการต่อยอดและขยายตลาดด้วยการออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชัน รวมไปถึงสร้างโอกาสทางการตลาดในต่างประเทศด้วยการร่วมมือกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง McDonald’s จนทำองค์กรสามารถเติบโตได้มากขึ้นและขยายตลาดไปมากกว่าผลิตภัณฑ์ประเภทเดิม

หลักในการประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจและการทำงาน เรียกสั้น ๆ ว่า TOP 

• Teamwork การทำงานเป็นทีม
• Ownership ความรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรหรืองานที่ทำ
• Professionalism ความเป็นมืออาชีพในการบริหารงาน

ข้อคิดสุดท้ายสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเป็นคนทำงานหรือสร้างธุรกิจ คือ หลายคนอาจกลัวการเป็นผู้นำ แต่คุณวสุพลมองว่าการเป็นผู้ตามนั้นมีข้อเสียมากกว่า เพราะหากเราเป็นผู้ตามอย่างเดียว ชีวิตนี้เราต้องปรับตัวหลายครั้งเมื่อมีผู้นำคนใหม่ขึ้นมาแทน เพราะฉะนั้นคนรุ่นใหม่ควรเรียนรู้ที่เป็นผู้นำตั้งแต่วันนี้