สำหรับคนทำงานหรือคนที่ต้องเสียภาษีหลาย ๆ คนค่อนข้างคุ้นชินกับคำว่า LTF เป็นอย่างดี เพราะมักจะได้ยินมาว่า "LTF ลดหย่อนภาษีได้" พอได้ยินเพียงเท่านี้ หลายคนจึงมักจะรู้สึกว่าจะต้องซื้อ เจ้า LTF มาครอบครองให้ได้ บางคนก็รีบเข้าไปซื้อให้เต็มโควตาไปเลยเพื่อนำไปลดหย่อนภาษี แม้จะยังไม่เข้าใจดีว่าสิ่งนี้คืออะไรจริง ๆ แต่ก็ซื้อเอาไว้ก่อน เผื่อเอาไปใช้ ลดหย่อนภาษี ส่วนบางคนก็เลือกที่จะศึกษาให้มากขึ้นก่อนจะตัดสินใจซื้อ แต่เมื่อยิ่งศึกษาก็ได้รู้ว่า LTF เป็นกองทุนรวมอย่างหนึ่ง ซึ่งก็แปลว่าต้องมีความเสี่ยง และยังลงทุนในหุ้นเป็นส่วนใหญ่อีกด้วย ก็เลยมักจะเริ่มรู้สึกลังเล ไม่รู้ว่าจะซื้อดีหรือไม่
ด้วยเหตุนี้ JobThai จึงอยากจะแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนใน LTF อย่างง่ายที่สุด เพื่อเป็นความรู้ให้คนทำงานได้เข้าใจว่า LTF คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร แล้วต้องซื้ออย่างไรถึงจะนำไปลดหย่อนภาษีได้ และที่สำคัญก็เพื่อให้รู้ว่ากองทุน LTF เป็นกองทุนที่เหมาะกับเราหรือไม่
- กองทุน LTF มีนโยบายเอาเงินไปไว้ในตลาดหุ้นไทยเป็นส่วนใหญ่ คือจะไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่ากองทุน กองทุนนี้จึงช่วยเพิ่มสัดส่วนของผู้ลงทุนระยะยาวในตลาดหลักทรัพย์ไทย
- ต้องถือไว้นานถึง 7 ปีปฏิทิน
- สามารถลดภาษีได้ไม่เกิน 15% ของรายได้พึงประเมิน แต่ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- เงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดคือห้ามซื้อเกินโควตาและห้ามขายก่อนกำหนด
|
|
มีตั้งหลายกองทุน ทำไมต้อง LTF
ในบรรดากองทุนที่มีอยู่มากมายนั้น Long Term Equity Fund (LTF) หรือ "กองทุนรวมระยะยาว" ถือเป็นดาวเด่นยอดฮิต เป็นคุณค่าที่คู่ควรสำหรับพนักงานเงินเดือนเลยทีเดียว เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เอาข้อดีของกองทุนรวมที่มีผู้รู้จริงมาดูแลเงินให้เหมาะกับคนทำงานที่ยังเป็น beginner ในเรื่องการลงทุน เหมาะกับคนที่มีเงินเย็น มีเวลาในการถือครองยาว ๆ ไม่ต้องคอยติดตามมาก อยากทำให้เงินโตเร็วกว่าฝากธนาคารไว้เฉย ๆ และประเมินตนเองแล้วว่าไม่ได้มีความจำเป็นรีบร้อนที่จะต้องใช้เงินในเร็ววันนี้ เพราะว่าเมื่อซื้อ LTF แล้วจะต้องใช้เวลาในการถือครองไว้โดยไม่ขายคืนไม่น้อยกว่า 7 ปีปฏิทิน ซึ่งถ้าถือจบครบกำหนดขายคืนแล้ว กำไรที่ได้จากการลงทุนก็ได้รับการยกเว้นภาษีอีกด้วย
ปีปฏิทินคืออะไร
สมมติว่าวันเกิดปีนี้คุณจะอายุครบ 25 ปี และคุณเกิดเดือน พฤศจิกายน ถ้าสมัครงานแล้วต้องกรอกอายุก็จะถือว่าคุณอายุ 25 ปีตั้งแต่เดือน มกราคมแล้วแม้จะยังไม่ถึงวันครบรอบวันเกิดก็ตาม เพราะเราใช้วิธีนับตามปีปฏิทิน LTF นั้นก็ใช้วิธีนับตามปีปฏิทินเช่นเดียวกัน โดยถึงจะซื้อเดือนไหนก็จะครบกำหนดขายคืนในเดือน มกราคมของอีก 7 ปีข้างหน้า ไม่ว่าจะซื้อในเดือน มีนาคมหรือซื้อเดือน ธันวาคม 2560 ก็ต้องถือไว้จนถึงเดือน มกราคม 2566 เหมือนกัน จึงจะได้รับสิทธิพิเศษนั่นก็คือการลดหย่อนภาษี
นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนเลือกซื้อกองทุนรวม LTF ในช่วงปลายปีเพราะจะได้ลดระยะเวลาในการถือกองทุนนี้ไว้กับตัว แต่ความจริงแล้วนี่เป็นเรื่องของความรู้สึกที่ว่าจะได้ไม่ต้องถือครองนาน ๆ มากกว่า เพราะว่ากองทุนรวม LTF นั้นมีขายตลอดทั้งปี และช่วงเวลาที่ดีสำหรับการซื้อกองทุนรวมก็ไม่จำเป็นต้องเป็นปลายปีเสมอไป
เป้าหมายของ LTF คืออะไร เหตุใดถึงใช้ลดภาษีได้
กองทุน LTF มีนโยบายเอาเงินไปไว้ในตลาดหุ้นไทยเป็นส่วนใหญ่ คือจะไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่ากองทุน กองทุนนี้เลยช่วยเพิ่มสัดส่วนของผู้ลงทุนระยะยาวในตลาดหลักทรัพย์ไทย ผลก็คือว่าตลาดหลักทรัพย์จะมีความมั่นคงขึ้นทั้งทางด้านเสถียรภาพและเพิ่มสภาพคล่องด้วย ซึ่งถ้าตลาดทุนของไทยดี ก็น่าเชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีตามไปด้วย ก็เลยต้องมีแรงจูงใจให้คนที่มีทุนไม่มากแต่อยากทำเงินให้งอกเงยเอาเงินมารวมกันเป็นกองทุน แรงจูงใจนั้นก็คือ “การลดหย่อนภาษี” นั่นเอง
แต่สิ่งที่มากกว่านั่นก็คือการที่เรารู้จักการออมเงินในรูปแบบอื่น ๆ บ้าง เป็นการฝึกความอดทน ฝึกวินัยในการออม แล้วก็ยังจะช่วยทำให้มีเงินก้อนไว้ใช้ในยามที่จำเป็นไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่น
กองทุน LTF มีแต่เรื่องดี ๆ เอาเงินไปซื้อหมดเลยดีไหม
แม้ว่ากองทุน LTF จะลดภาษีได้ แต่ทั้งนี้ต้องทำตามเงื่อนไขที่ว่า จะ "ต้องถือไว้ 7 ปี" เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับบางคนแล้วระยะเวลา 7 ปีเป็นเวลาที่ยาวนานพอสมควรและหากไม่มีเงินสำรองเพียงพอหรือกลัวว่าในระยะอันใกล้นี้จะมีเหตุให้ต้องใช้เงิน ก็อาจจะต้องเลือกกองทุนที่ระยะเวลาไม่ยาวนานมากเท่า LTF ดังนั้นควรพิจารณาก่อนที่จะซื้อจนหมดตัว
กองทุน LTF แบบต่าง ๆ
ถึงจะบอกว่าลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% แต่ว่า LTF ที่ประกาศขายออกมาแต่ละแบบก็ไม่ได้มีนโยบายเหมือนกันนะ เพราะว่าหุ้นเองก็มีหลายประเภท
การลงทุนในหุ้น
บางกองทุนก็ลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแรงอย่าง SET 50 ในขณะที่อีกกองทุนหนึ่งเลือกลงทุนในรายธุรกิจเป็นแบบเฉพาะอุตสาหกรรมไปเลย เช่น หุ้นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อาหาร ก่อสร้างหรืออาจจะผสมกัน เพื่อกระจายความเสี่ยง เป็นต้น เราควรจะต้องดูด้วยว่าในส่วนเงินที่เหลือนั้นเอาไปลงทุนกับอะไร ความเสี่ยงมากน้อยขนาดไหน เช่น ลงทุนในตราสารหนี้ความเสี่ยงต่ำหรือลงทุนในทองคำความเสี่ยงสูง
ประเภทปันผล
ปันผลของแต่ละกองทุนก็ให้ไม่เหมือนกันอีกเช่นเดียวกัน บางกองทุนก็ไม่ได้มีนโยบายจ่ายปันผล ในขณะที่บางกองทุนมีนโยบายจ่ายปันผล ซึ่งในกรณีจ่ายปันผลก็สามารถเลือกได้ว่า
- จะเสียภาษี 10% ของเงินปันผลตั้งแต่ตอนรับเงินเลยหรือเปล่า
- หรือจะเอาไปรวมเป็นรายได้ทั้งปีแล้วเสียภาษีพร้อมกันทั้งหมด
แล้วลดภาษีนั้น ลดได้เท่าไหร่
สามารถลดได้ไม่เกิน 15% ของรายได้สุทธิตลอดทั้งปี แต่ต้องไม่เกิน 500,000 บาท (คิดจากฐานภาษี) ซื้อปีไหนก็ลดปีนั้นได้เลย ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องติดกันทุกปีอีกด้วย และก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเต็มสิทธิเพื่อลดหย่อนภาษีก็ได้ เพราะบางคนนั้นยังสามารถลดภาษีได้จากทางอื่น ๆ อยู่แล้ว เช่น ลดหย่อนได้จากการซื้อประกัน ลดหย่อนได้จากการมีบุตร ดอกเบี้ยกู้ยืม และอื่น ๆ อีก ดังนั้นหากคำนวณดูแล้วเราลดหย่อนได้เต็มฐานภาษีแล้ว เราก็อาจจะซื้อกองทุนรวม LTF ไว้เพื่อการออมแทนการลดหย่อนภาษี ดังก่อนการซื้อ LTF ควรคำนวณภาษีให้เรียบร้อยเสียก่อน
เงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ถึงจะบอกว่าลดภาษีได้ก็จริงแต่เราก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัดด้วย ประการที่ 1 เลยคือ “ห้ามขายก่อนครบกำหนด" เพราะไม่เช่นนั้นก็จะโดนปรับ คือต้องไปทำเรื่องเอาเงินภาษีที่เคยได้รับการลดหย่อนแล้ว นำกลับไปจ่ายคืน ไม่เพียงเท่านั้นยังต้องจ่ายในอัตราคูณ 1.5% ต่อเดือนอีกด้วย และอีกประการคือถ้าเกิดได้กำไรขึ้นมา กำไรนั้นจะกลายเป็นรายรับที่ต้องเอาไปคิดภาษีในปีนั้นอีก และยังไม่จบยังมีค่าธรรมเนียมการขายคืน LTF อีกต่างหาก นับว่าซื้อแล้วก็ต้องมั่นใจว่าทำตามเงื่อนไขได้จริง ๆ นะ
ตอนแรกเหมือนจะไม่ซับซ้อน ทำไมอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกต้องดูหลายอย่าง
ก็เพราะจุดประสงค์หลักของกองทุนระยะยาว LTF ก็คือเรื่องของการชักชวนคนเอาเงินมาลงทุนเป็นจุดประสงค์หลักเลย ซึ่งการลงทุนมีเรื่องของผลประโยชน์และความเสี่ยงด้วยจึงต้องดูหลายอย่าง ส่วนการลดหย่อนภาษีนั้นเป็นเรื่องผลพลอยได้เสียมากกว่า ดังนั้นถ้าเราเลือกกองทุน LTF ดี ๆ ก็เหมือนเป็นการได้ ประโยชน์ 2 ทาง คือทั้งมีเงินเก็บที่เติบโตเร็วและจ่ายภาษีถูกลงอีกด้วย
คำแนะนำ: การลงทุนก็เหมือนการปลูกดอกไม้ ซึ่งดอกไม้จะบานหรือไม่นั้นเราต้องทำความเข้าใจสายพันธุ์และการเลี้ยงดูที่ถูกวิธี
ความรู้ทางการเงินสำหรับคนทำงานที่เข้าใจง่าย อ่านฟรี อ่านเถอะ อ่านได้ที่ JobThai
JobThai มี Line
แล้วนะคะ
ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่

อ่านเพิ่มเติม :
เว็ปไซต์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย