พ่อแม่ทุกคนย่อมต้องการให้ลูกมีอนาคตที่ดี ในโอกาสวันเด็กแห่งชาตินี้ JobThai ขอเสนอแนวทางในการปลูกฝังนิสัยที่ดี และกระบวนความคิดที่เป็นประโยชน์สำหรับการดำเนินชีวิต ให้กับเด็กๆ เพื่อทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในวันข้างหน้า
1. สอนให้ตั้งเป้าหมาย
การให้พวกเขาได้ลองตั้งเป้าหมายอาจจะฟังดูจริงจังเกินไป ซึ่งในความเป็นจริงเป้าหมายอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆใกล้ตัวและไม่จำเป็นต้องยากเกินไป ในขั้นตอนนี้จะทำให้พวกเขาได้รู้ว่าสิ่งที่ต้องการคืออะไร และคิดต่อยอดว่าจะทำอย่างไรเพื่อบรรลุเป้าหมาย
Tip: ให้เด็กเขียนเป้าหมายที่ต้องการทำลงในกระดาษทั้งหมด 10 ข้อ หลังจากนั้นเราช่วยเลือกข้อที่คิดว่าน่าจะส่งผลดีต่อพวกเขามากที่สุด และช่วยชี้แนะให้ได้คิดต่อยอดว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้ โดยให้เขียนเป็นขั้นตอน เราทำหน้าที่เป็นเพียงที่ปรึกษาและคอยให้กำลังใจจนพวกเขาประสบความสำเร็จ
2. สอนให้เข้าใจปัญหาและหาวิธีแก้ไข
ปัญหา หรืออุปสรรคเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ บุคคลที่ประสบความสำเร็จทุกคนล้วนมีทักษะการแก้ปัญหาที่เป็นเลิศ และทุกครั้งที่เกิดปัญหาก็มักจะเป็นโอกาสดีๆให้พวกเขาได้แสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องสอนให้เด็กเรียนรู้ปัญหาที่เจอโดยเน้นที่วิธีการคิดแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์
Tip: เมื่อเด็กเจอปัญหาหรือความยากลำบาก พยายามชี้แนะให้เข้าใจถึงปัญหาว่าสาเหตุคืออะไร และพยายามให้พวกเขาคิดหาแนวทางแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ อย่าลืมที่จะทำตัวเป็นผู้ช่วยที่ดี และคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ
3. สอนให้เรียนรู้การจัดการกับเงิน
การสอนให้รู้จักจัดการเงินสำหรับเด็กแล้วอาจจะดูเป็นเรื่องไกลตัว ซึ่งความจริงแล้วหัวข้อนี้ถือว่าเป็นรากฐานสำคัญที่ควรจะต้องปลูกฝังให้กับเด็กเพื่อที่อนาคตข้างหน้าพวกเขาจะได้มีความพร้อมในการจัดการเงินทั้งรายรับรายจ่ายได้อย่างเป็นระบบ และใช้เงินได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
Tip: แนะนำให้เด็กรู้จักการออมและจัดการเงิน โดยใช้การสอนง่ายๆ เช่น เมื่อพวกเขาต้องการของเล่น ให้พวกเขาคำนวนว่าจะต้องเก็บเงินค่าขนมวันละเท่าไหร่ และต้องเก็บนานแค่ไหนถึงจะได้เงินครบ ในขั้นตอนนี้เราอาจช่วยหากระปุกให้ และสอนพวกเขาจดบัญชีทุกครั้งที่ออมเงิน
4. สอนให้รู้ว่าความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ
ความล้มเหลวอาจจะเป็นคำที่ฟังดูแย่ แต่บุคคลที่ประสบความสำเร็จล้วนผ่านมันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน การปล่อยให้เด็กได้พบกับความล้มเหลวจะเป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดและหาหนทางหลีกเลี่ยงหรือไม่ทำมันอีก แนวคิดนี้จะทำให้พวกเขาไม่กลัวที่จะล้มเหลว และกล้าที่ทำตามฝันอย่างไม่ลดละ
Tip: เมื่อพวกเขาทำสิ่งใดผิดพลาด อย่าเพิ่งรีบลงโทษหรือตำหนิ ให้เริ่มจากการพุดให้นึกหาสาเหตุของปัญหา หลังจากนั้นช่วยกันระดมความคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ที่สำคัญเราต้องพยายามให้กำลังใจ และสอนให้พวกเขามีกระบวนความคิดที่จะไม่ยอมหมดหวังหรือล้มเลิกกลางคัน
5. สอนให้รู้จักการสื่อสารและการเข้าสังคม
เด็กสมัยนี้เติบโตมาในยุค Digital ที่มีรูปแบบการสื่อสารเกิดขึ้นมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมแชทต่างๆ ในบางครั้งพวกเขาอาจประสบปัญหาการสื่อสารในโลกของความจริง การสอนให้เข้าสังคมจึงมีส่วนสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานร่วมกับผู้อื่น หรือการเข้าสังคม
Tip: เริ่มจากการสอนให้พวกเขาเป็นคนสุภาพและรู้จักการให้เกียรติผู้อื่น หลังจากนั้นแนะนำเทคนิคการสื่อสาร เช่น การมองตาขณะพูด การใช้น้ำเสียงในการสนทนา รวมถึงมารยาทการเข้าสังคม และบางครั้งเราอาจจะหาโอกาสให้พวกเขาได้พูดต่อหน้าคนจำนวนมาก เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และความมั่นใจ
6. สอนให้เป็นผู้นำที่ดี
เวลาที่เด็กไปโรงเรียน มักจะถูกสอนตามหลักสูตรและต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบอย่างเคร่งคัด ซึ่งในบางครั้งอาจทำให้เด็กรู้สึกเหมือนถูกจำกัดขอบเขตจนทำให้กลายเป็นคนที่ขาดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และความมั่นใจที่จะคิดและทำบางอย่างด้วยตนเอง จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องคอยแนะนำแนวคิดที่จะช่วยส่งเสริมให้พวกเขาเป็นผู้นำที่ดีในอนาคต
Tip: สร้างสถานการณ์บางอย่างให้เด็กได้รู้จักการเป็นผู้นำเช่น ให้พวกเขาชวนเพื่อนๆไปทำกิจกรรม โดยที่ให้เขาเป็นคนคิดว่าจะพาเพื่อนๆไปทำอะไรที่ไหนบ้าง หรือ เวลาไปดูหนังกันทั้งครอบครัว ให้เขาเป็นคนตัดสินใจเลือกที่นั่งที่คิดว่าดีที่สุดให้กับทุกคน
7. สอนให้รู้จักช่วยเหลือและแบ่งปันให้กับสังคม
เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว ต้องรู้จักการเป็นผู้ให้ ไม่ว่าจะเป็นการให้โอกาส การบริจาคทรัพย์สินให้คนยากไร้ หรือแม้กระทั่งการเป็นอาสาสมัครเพื่อสังคม แนวคิดนี้เป็นสิ่งสำคัญที่พวกเขาควรจะต้องได้รับการปลูกฝังเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่ดีในอนาคตต่อไป
Tip: หมั่นชวนพวกเขาไปทำกิจกรรมที่สร้างประโยชน์ต่อสังคม เพื่อให้เห็นภาพว่าการเป็นผู้ให้ก่อให้เกิดผลดีอย่างไร และอาจจะยกตัวอย่างบุคคลที่ประสบความสำเร็จที่ชอบช่วยเหลือสังคมให้เห็นเป็นแบบอย่างที่ควรปฏิบัติตาม
การเลี้ยงลูกไม่ได้มีสูตรสำเร็จใดๆ แนวคิดเหล่านี้เพียงถูกสร้างขึ้นมาเป็นแนวทางเพื่อให้แต่ละครอบครัวนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับครอบครัวของตนเองและบริบทของสังคม
JobThai มี Line
แล้วนะคะ
ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่


ที่มา:
inc.com