วิธีเตรียมตัวสัมภาษณ์งานในตำแหน่งหัวหน้าทีม พร้อมตัวอย่างคำถาม-คำตอบที่พบบ่อย

 

 

คุณกำลังมองหาวิธีเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์งานในตำแหน่งหัวหน้าทีมอยู่หรือเปล่า การสัมภาษณ์งานระดับหัวหน้างานนั้นต่างกับการสัมภาษณ์งานปกติขนาดไหน คำถามไหนที่ต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษเพื่อให้โอกาสได้งานมีสูงขึ้น วันนี้  JobThai มีคำตอบ

 

JobThai Mobile Application สมัครงานง่าย ได้งานเร็ว

iOS

Android

Huawei AppGallery

 

วิธีเตรียมตัวสัมภาษณ์งานสำหรับคนที่สมัครตำแหน่งหัวหน้าทีม

หัวหน้าทีมคือ บุคคลที่รับผิดชอบในการนำพาสมาชิกในทีมไปสู่ความสำเร็จในการทำงาน ซึ่งนอกจากทักษะและความเชี่ยวชาญตามสายงานของตัวเองแล้ว ผู้นำทีมยังต้องอาศัยคุณสมบัติที่หลากหลายในการบริหารทีม ไม่ว่าจะเป็นทักษะความเป็นผู้นำ การแก้ไขปัญหา การจัดการความขัดแย้ง การมอบหมายงานอย่างมีประสิทธิภาพ ความฉลาดทางอารมณ์ การเปิดรับการเปลี่ยนแปลงและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ทักษะเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่บ่งบอกถึงศักยภาพในการทำงานในตำแหน่งหัวหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องสื่อสารออกมาให้บริษัทใหม่ที่อยากทำงานด้วยเห็นภาพให้ได้มากที่สุดหากคุณต้องการสร้างความได้เปรียบในการสัมภาษณ์งาน

 

เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทุกคำถามในห้องสัมภาษณ์งาน ลองไปดูกันว่าคุณสามารถรับมือกับการตอบคำถามสัมภาษณ์งานได้อย่างไรบ้าง

  • ทบทวนบทบาทหน้าที่และทักษะการทำงานที่ผ่านมา
    เริ่มต้นด้วยการลิสต์ความสามารถที่คุณมีทั้งหมด แล้วดูว่าทักษะไหนที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ และตรงกับสิ่งที่บริษัทใหม่อยากได้ แม้จะไม่มีทางรู้ทั้งหมดว่าคำถามจะเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง แต่การรู้จักตัวเองจะทำให้คุณตอบคำถามได้อย่างมั่นใจและเป็นธรรมชาติ ทำให้คุณดูเป็นคนที่เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี

  • เตรียมตัวอย่างความสำเร็จที่จับต้องได้
    การบอกเล่าเรื่องราวที่เคยทำมาจะทำให้บริษัทเห็นศักยภาพของคุณได้ชัดเจนมากขึ้น สำหรับคนที่เป็นหัวหน้าอยู่แล้วคงไม่ใช่เรื่องยาก คุณสามารถใช้วิธีการที่เรียกว่า STAR เพื่อเป็นกรอบในการเล่าเรื่องได้ ซึ่ง STAR นั้นย่อมาจาก

 

  • Situation (สถานการณ์): อธิบายเหตุการณ์หรือความท้าทายที่เฉพาะเจาะจง เช่น ต้องเปลี่ยนซัพพลายเออร์หลักกะทันหัน ทำให้มีความเสี่ยงที่โครงการจะล่าช้า

  • Task (งาน): อธิบายบทบาทหรือความรับผิดชอบของคุณ เช่น คุณเป็นผู้จัดการโครงการที่รับผิดชอบในการทำให้โครงการสำเร็จทันตามกำหนด

  • Action (การกระทำ): อธิบายรายละเอียดขั้นตอนที่คุณทำเพื่อแก้ไขปัญหา เช่น คุณรีบค้นหาซัพพลายเออร์รายใหม่ (จากรายชื่อสำรองที่คุณเคยทำข้อมูลไว้) เร่งเจรจาเงื่อนไข และเซ็นสัญญาใหม่

  • Result (ผลลัพธ์): เล่าผลลัพธ์ที่ได้ เช่น โครงการเสร็จตรงเวลาพอดี แม้จะเกิดปัญหาขึ้นก่อนหน้านี้ หรือ มีการใช้งบประมาณต่ำกว่าที่ตั้งไว้ (ช่วยประหยัดเงินที่บริษัทต้องจ่าย

 

ลองเลือกความสำเร็จในการทำงานในฐานะหัวหน้าที่คุณคิดว่าบริษัทใหม่จะเข้าใจได้ง่าย และน่าสนใจ เล่าให้เห็นถึงสถานการณ์ที่คุณต้องเจอเมื่อได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้างาน จากนั้นอธิบาย การกระทำ หรือวิธีการเฉพาะที่ใช้เพื่อแก้ไขปัญหานั้น เสร็จแล้วเล่าผลลัพธ์ว่าตัวอย่างที่ยกมานั้นเกิดความสำเร็จอะไรบ้าง จำไว้ว่าประวัติของคุณไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ คนทำงานและหัวหน้างานทุกคนย่อมเคยประสบอุปสรรค การเล่าเรื่องในลักษณะนี้จะทำให้องค์กรเห็นถึงไหวพริบ ทักษะ วิธีการคิดและความมุ่งมั่นในฐานะหัวหน้างานได้เป็นอย่างดี

 

สำหรับคนที่ยังไม่เคยเป็นหัวหน้างานและกำลังสมัครตำแหน่งหัวหน้าก็ไม่ต้องกังวลใจไป ให้ลองยกตัวอย่างทักษะการทำงานที่ใกล้เคียง เช่น คุณอาจจะยังไม่ได้เป็นหัวหน้า แต่เคยแสดงบทบาทในการริเริ่มงานบางอย่างด้วยตัวเอง พร้อมสนับสนุนการทำงานของสมาชิกในทีมคนอื่น ๆ และทำให้ทีมประสบความสำเร็จได้เช่นกัน เพื่อให้บริษัทเห็นภาพว่าเมื่อต้องทำงานกับที่ทำงานใหม่ คุณมีแววที่จะทำงานนั้น ๆ ในฐานะหัวหน้าได้อย่างไร ยิ่งถ้าคุณมีอายุงานที่มากเพียงพอและมีคุณสมบัติที่เหมาะสมอยู่แล้ว แม้จะยังไม่เคยได้รับตำแหน่งหัวหน้ามาก่อน องค์กรอาจพิจารณารับคุณเข้าทำงานเพื่อสร้างทีมงานรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเติบโตไปด้วยกัน

 

  • ทำความรู้จักบริษัทใหม่ให้ลึกซึ้ง
    นอกจากการเตรียมตัวตอบคำถามเกี่ยวกับตัวเองแล้ว การทำการบ้านเกี่ยวกับข้อมูลสำคัญของบริษัทที่กำลังสมัครก็เป็นสิ่งที่สามารถสร้างความได้เปรียบให้กับการสัมภาษณ์งานในตำแหน่งหัวหน้าได้เช่นกัน ลองหาข้อมูลของบริษัทจากเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย เพื่อดูว่าที่มาที่ไปของบริษัทนี้เป็นอย่างไร ความเชี่ยวชาญเฉพาะ ค่านิยม วัฒนธรรมองค์กร หรือสิ่งที่บริษัทกำลังทำอยู่ มีจุดเด่นอะไรที่กำลังเป็นที่พูดถึงในอุตสาหกรรมเดียวกันบ้าง ยิ่งถ้าคุณสามารถเชื่อมโยงได้ว่าเป้าหมายส่วนตัวกับเป้าหมายขององค์กรนั้นมีความสอดคล้องกันอย่างไร ทักษะของคุณด้านไหนที่น่าจะเป็นประโยชน์กับองค์กรได้บ้าง จะแสดงให้เห็นว่าคุณมีความสนใจในการร่วมงานกับพวกเขา และคุณก็จะมีความโดดเด่นมากขึ้นเทียบกับผู้สมัครที่เล่าถึงเรื่องตัวเองอย่างเดียว

 

  • ฝึกพูดเพื่อตอบคำถามให้คล่องแคล่ว
    จริงอยู่ที่การตอบคำถามสัมภาษณ์งานเป็นเพียงแค่หนึ่งในกระบวนการคัดกรองบุคคลผู้มีคุณสมบัติในระดับหนึ่งเท่านั้น บางบริษัทอาจมีแบบทดสอบให้ลองทำ หรือมีการวัดผลในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อทำให้บริษัทมั่นใจว่าได้คนตรงกับที่กำลังตามหาอยู่ แต่การฝึกตอบคำถามสัมภาษณ์งานในหัวข้อต่าง ๆ จนเกิดความคุ้นเคย จะทำให้คุณสามารถตอบทุกคำถามด้วยความมั่นใจ และมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด นอกจากนี้ยังสะท้อนความสามารถในการเตรียมความพร้อมและการรับมือกับทุกปัญหาได้เป็นอย่างดี

 

อยากเลื่อนตำแหน่งเป็น Manager ต้องมีทักษะสำคัญอะไรบ้าง

 

ตัวอย่างคำถามสัมภาษณ์งานตำแหน่งหัวหน้าทีม   

การฝึกตอบคำถามสัมภาษณ์งานให้คุ้นเคย จะทำให้คุณมีภูมิคุ้มกันการสัมภาษณ์งานได้เป็นอย่างดี ยิ่งเตรียมตัวมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะทำได้ดีในการสัมภาษณ์จริงก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น ลองไปดูกันว่ามีคำถามประเภทไหนบ้างที่คนที่กำลังสมัครงานในตำแหน่งหัวหน้าต้องเจอ และควรตอบคำถามนั้นอย่างไร

 

คำถามเกี่ยวกับทักษะหรือประสบการณ์การทำงานของคุณ

 

แนะนำตัวและอธิบายว่าทำไมคุณถึงสนใจสมัครงานในตำแหน่งนี้?

จุดประสงค์ของคำถาม:

นี่คือคำถามแรกที่มักจะถูกถามในการสัมภาษณ์งาน เพื่อทำความรู้จักผู้สมัครงานให้มากขึ้น และเป็นการประเมินความสามารถในฐานะหัวหน้าในเบื้องต้นด้วยเช่นกัน

 

แนวทางการตอบ:

แนะนำตัวเองแบบกระชับ ด้วยข้อมูลที่จำเป็น เช่น ชื่อตำแหน่ง ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและอายุงานรวมของการทำงานในสายงานที่สมัคร และตอบคำถามที่สองด้วยเหตุผลที่ทำให้คุณสนใจในตำแหน่งหัวหน้าทีม โดยอาจเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เป้าหมายและความก้าวหน้าทางอาชีพ รวมถึงทักษะที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นผู้นำของคุณที่จะสามารถเป็นประโยชน์กับการทำงานในตำแหน่งหัวหน้าของบริษัทใหม่ได้ ยิ่งตอบคำถามนี้ได้น่าสนใจเท่าไหร่ ผู้สัมภาษณ์จะใช้คำตอบจากคำถามนี้เพื่อถามคำถามที่เจาะลึกตัวคุณต่อไป ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีให้คุณได้เล่าถึงคุณสมบัติเด่นที่เกี่ยวข้องได้มากขึ้น

 

อธิบายคุณสมบัติและประสบการณ์ความเป็นผู้นำของคุณให้ฟังหน่อย

จุดประสงค์ของคำถาม:

ผู้สัมภาษณ์จะมองหาทักษะทางสังคม (Soft Skills) ที่จำเป็นสำหรับหัวหน้าทีม ว่านอกจากความสามารถที่เกี่ยวกับเนื้องานโดยตรงแล้ว คุณบริหารจัดการทีมอย่างไร มีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกคนอื่น ๆ ในทีมอย่างไรบ้าง

 

แนวทางการตอบ:

อธิบายบทบาทหน้าที่ในการทำงานในฐานะหัวหน้าทีมจากประสบการณ์ที่ผ่านมาที่คุณคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์หรือเกี่ยวข้องกับตำแหน่งใหม่มากที่สุด โดยอาจยกเคสตัวอย่างจากการทำงานในบริษัทปัจจุบัน หรือจากบริษัทก่อนหน้าที่คุณคิดว่าคุณได้แสดงความเป็นผู้นำได้อย่างโดดเด่นก็ได้ จากนั้นคุณสามารถเล่าประสบการณ์จริงว่าคุณช่วยให้ทีมของคุณบรรลุเป้าหมาย เอาชนะอุปสรรค หรือทำเกินความคาดหมายในฐานะหัวหน้าได้อย่างไร และแทนที่จะเล่าความเก่งของคุณเพียงอย่างเดียว อย่าลืมนำเสนอทักษะหรือวิธีการบริหารทีมด้วย เช่น การมอบหมายงานให้เหมาะสมตามศักยภาพของแต่ละคน การให้คำปรึกษาเมื่อทีมมีปัญหา หรือการดูแลเรื่องการพัฒนาทักษะของสมาชิกในทีม เพื่อเน้นย้ำให้บริษัทเห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับผู้อื่นมากขนาดไหน

 

คำถามเกี่ยวกับการบริหารจัดการทีม

 

คุณเป็นผู้นำสไตล์ไหน?

จุดประสงค์ของคำถาม:

คำถามนี้จะประเมินว่าคุณมีแนวทางการนำทีมอย่างไร  ใช้หลักการอะไรในการตัดสินใจ และคุณปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้อย่างไรบ้าง 

 

แนวทางการตอบ:

ควรบรรยายสไตล์การนำทีมของคุณ เช่น แบบรวมศูนย์ ชอบให้งานผ่านการเห็นชอบของคุณคนเดียวเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีข้อผิดพลาด แบบฟังเสียงของสมาชิกในทีมทุกคน หรือ แบบผสมผสานปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ และยกตัวอย่างว่าคุณได้นำสไตล์การบริหารนี้ไปใช้ในการทำงานจริงอย่างไรบ้าง โดยเล่าว่าเมื่อเกิดความขัดแย้งหรือความท้าทายขึ้นกับการทำงาน คุณตัดสินใจในแต่ละขั้นตอนสำคัญอย่างไรเพื่อคลี่คลายสถานการณ์เหล่านั้น ไปจนถึงวิธีการที่คุณช่วยเหลือสมาชิกในทีมให้ผ่านพ้นปัญหาไปพร้อมกัน เพื่อให้บริษัทเห็นทั้งมุมมองของคุณเองและการปฏิบัติตนต่อผู้อื่นภายในทีม

 

6 สไตล์ของผู้นำ สำหรับการบริหารทีมให้ตอบโจทย์ในแต่ละสถานการณ์

 

คุณสร้างแรงจูงใจให้ทีมของคุณอย่างไร?

จุดประสงค์ของคำถาม:

ผู้ถามอยากทราบว่าคุณมีวิธีการอย่างไรในการผลักดันให้ทีมของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อบรรลุเป้าหมายขององค์กร หรือสร้างกำลังใจให้สมาชิกในทีมอย่างไรเมื่อต้องเจออุปสรรคในการทำงาน

 

แนวทางการตอบ:

ให้เล่าถึงวิธีการที่คุณส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือ ความคิดสร้างสรรค์ และการเรียนรู้ในหมู่สมาชิกในทีมของคุณนอกเหนือจากการทำงานตามแผน ตลอดจนเมื่อสมาชิกในทีมมีขวัญกำลังใจที่ตกต่ำหรือผลงานที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย คุณทำอย่างไรเพื่อแก้ปัญหานั้น นอกจากนี้เมื่องานสำเร็จแล้วคุณมีวิธีให้รางวัลแก่ความสำเร็จหรือแสดงการยอมรับในความสามารถของสมาชิกในทีมอย่างไรบ้าง

 

คุณมอบหมายงานให้กับทีมของคุณอย่างไร?

จุดประสงค์ของคำถาม:

คำถามนี้มีเพื่อวัดว่าคุณวางแผน จัดระเบียบ และกระจายงานให้กับสมาชิกในทีมของคุณอย่างไร และคุณมั่นใจในคุณภาพและความรับผิดชอบของสมาชิกแต่ละคนได้อย่างไร

 

แนวทางการตอบ:

ควรบรรยายว่าคุณประเมินทักษะ จุดแข็ง และความพร้อมของสมาชิกในทีมของคุณอย่างไร ใช้เกณฑ์อะไรบ้างในการมอบหมายงาน เช่น ตามความเหมาะสมของทักษะและความสนใจของพวกเขา และคุณติดตามความคืบหน้าและให้ข้อเสนอแนะอย่างไรบ้าง คุณควรกล่าวถึงวิธีการที่คุณมอบอำนาจให้สมาชิกในทีมของคุณมีอิสระในทำงานภายใต้ทิศทางที่กำหนด และวิธีการที่คุณจัดการกับการเปลี่ยนแปลงหรือความล่าช้า เพื่อให้บริษัทเห็นว่าคุณเป็นคนที่ใส่ใจรายละเอียดของสมาชิกในทีม อีกทั้งผู้นำที่เปิดกว้าง พร้อมให้โอกาสสมาชิกในทีมได้เติบโต

 

คุณสื่อสารกับทีมของคุณอย่างไร?

จุดประสงค์ของคำถาม:

ผู้สัมภาษณ์ต้องการทดสอบว่าคุณมีประสิทธิภาพในการสื่อสารกับสมาชิกในทีมของคุณมากแค่ไหน และคุณใช้เครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ อย่างไรในการแบ่งปันข้อมูลและแนวคิดในการทำงาน

 

แนวทางการตอบ:

อธิบายว่าเมื่อได้รับงานมา คุณสามารถสื่อสารวิสัยทัศน์และจุดประสงค์ของงานนั้นให้กับสมาชิกในทีมได้ดีแค่ไหน คุณสื่อสารเป้าหมาย บทบาท และความรับผิดชอบของโครงการที่ได้รับมอบหมายได้อย่างไร คุณรับฟังและขอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอย่างไร โดยอาจยกตัวอย่างการวิธีการที่คุณสื่อสารกับผู้ฟังที่แตกต่างกัน เช่น ลูกทีมบางคนต้องการให้พูดอธิบายยกตัวอย่างงานให้ฟัง ในขณะที่บางคนชอบที่จะอ่านเอกสารเพื่อทำความเข้าใจรายละเอียดของงาน นอกจากนี้เมื่อเกิดปัญหาขึ้น คุณมีช่องทางไหนให้สมาชิกในทีมได้สื่อสารกับคุณอย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ เช่น มีประชุมเพื่ออัปเดตงานทุกสัปดาห์ แต่ถ้ามีเรื่องด่วนก็สามารถทักแชทหรือเดินเข้ามาปรึกษาแบบตัวต่อตัวได้โดยตรงได้เลย

 

คุณพัฒนาสมาชิกในทีมของคุณอย่างไร?

จุดประสงค์ของคำถาม:

คำถามนี้จะแสดงให้เห็นว่าคุณส่งเสริมการเติบโตและพัฒนาของสมาชิกในทีมของคุณอย่างไร รวมถึงคุณระบุและจัดการกับความต้องการและศักยภาพของพวกเขาอย่างไร

 

แนวทางการตอบ:

ควรบรรยายถึงวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานและทักษะของสมาชิกในทีมของคุณ วิธีที่คุณฝึกสอนงาน รวมถึงการสนับสนุนให้สมาชิกในทีมได้รับการฝึกอบรมและมีโอกาสในการเรียนรู้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง ยิ่งถ้าคุณได้มีส่วนช่วยให้ทีมบรรลุเป้าหมายในการทำงานและการเติบโตในสายอาชีพด้วยแล้ว เช่น สมาชิกในทีมที่เคยรับคำปรึกษาของคุณ วันนี้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งและก้าวหน้าในอาชีพอย่างมั่นคง ประเด็นเหล่านี้ยิ่งดูมีน้ำหนักในสายตาของบริษัทที่กำลังมองหาหัวหน้างานที่ใส่ใจการพัฒนาศักยภาพของคนในองค์กร

 

เมื่อเกิดความขัดแย้งในการทำงาน คุณจัดการกับสมาชิกในทีมที่มีปัญหาอย่างไร?

จุดประสงค์ของคำถาม:

การตอบคำถามนี้จะแสดงให้เห็นว่าคุณจัดการกับความขัดแย้ง หรือความประพฤติที่ไม่เหมาะสมภายในทีมของคุณอย่างไร และคุณแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูความสามัคคีได้อย่างไร

 

แนวทางการตอบ:

ลองบรรยายสถานการณ์เฉพาะที่คุณเผชิญหน้ากับสมาชิกในทีมที่มีปัญหา เช่น คนที่ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่เคารพ หรือทำงานต่ำกว่ามาตรฐาน และอธิบายว่าคุณเข้าหาปัญหาอย่างไร คุณดำเนินการอย่างไร และคุณบรรลุผลลัพธ์อะไรบ้าง ให้ยกตัวอย่างวิธีการที่คุณป้องกันหรือคลี่คลายความตึงเครียดของสถานการณ์ดังกล่าว และวิธีการที่คุณส่งเสริมสภาพแวดล้อมของทีมที่เป็นบวกและให้ความเคารพซึ่งกันและกัน

 

สรุป

การสัมภาษณ์งานในตำแหน่งหัวหน้างานจะพิเศษกว่าตำแหน่งทั่วไปตรงที่นอกจากจะต้องเตรียมตอบคำถามเรื่องทักษะและความเชี่ยวชาญในการทำงานเฉพาะแล้ว คุณยังต้องตอบคำถามเกี่ยวกับการบริหารทีมด้วย เมื่อรู้ว่าผู้นำที่ดีต้องมีคุณสมบัติอย่างไร และตัวคุณเคยมีประสบการในการนำทีมมาแล้วยังไงบ้าง การลิสต์ตัวอย่างและบทเรียนที่คุณได้จากการเป็นหัวหน้าจากการทำงานที่ผ่านมาจึงจะทำให้การตอบคำถามเป็นไปอย่างราบรื่น   เพิ่มความมั่นใจในการสัมภาษณ์งานและบริษัทได้เห็นตัวตนของคุณในฐานะหัวหน้าทีมอย่างแท้จริง

 

หางานใหม่ที่ใช่ ได้เป็นตัวของคุณเอง ที่ JobThai สมัครสมาชิกและฝากประวัติที่นี่เลย

 

ที่มา:

breezy.hr, claremontlincoln.edu, testgorilla.com, coursera.org, practiceaptitudetests.com, shiksha.com, sparkhire.com, linkedin.com, knowledgehut.com, kapable.club, getlighthouse.com

tags : jobthai, งาน, หางาน, สมัครงาน, สัมภาษณ์งาน, career & tips, เคล็ดลับการสัมภาษณ์งาน, เคล็ดลับการทำงาน, ความเป็นผู้นำ, leadership, หัวหน้างาน, ทำงาน, ทักษะการทำงาน, คนทำงาน, ทักษะ, การทำงาน, ประวัติการทำงาน, team lead, senior, หัวหน้า



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม