ระหว่างงานที่ชอบมาก ๆ กับงานที่ได้เงินเยอะ ควรเลือกงานอะไร? คำถามนี้เป็นคำถามที่คนทำงานมักลังเลสงสัยอยู่เสมอ หากเลือกงานจากแพสชัน ค่าตอบแทนที่ได้อาจไม่มากพอ แต่ถ้าเลือกงานที่รายได้สูง เราอาจไม่มีความสุขในการทำงาน สำหรับคนที่ตัดสินใจไม่ได้ วันนี้ JobThai สรุปข้อดี-ข้อเสียพร้อมคำแนะนำในการเลือกงานระหว่างงานที่รักกับงานที่รวยมาฝาก

ข้อดีของการเลือกงานที่ชอบ

มีความสุขกับการตื่นมาทำงานในทุก ๆ วัน

แน่นอนว่าข้อดีที่สุดของการเลือกทำงานที่รักคือความรู้สึกแฮปปี้และเอนจอยกับการทำงาน คนเราใช้เวลา 1 ใน 3 ของวันไปกับการทำงาน เพราะฉะนั้นหากเราเลือกทำอะไรที่ชอบย่อมมีโอกาสที่จะมีความสุขกับการทำงานได้มากกว่า ยิ่งถ้าได้เจอเพื่อนร่วมงานที่ดี รักในงานที่ทำเหมือนกันย่อมส่งผลให้สุขภาพจิตดีขึ้นเท่าตัว

Productive กับการทำงานมากขึ้น

การเลือกงานที่เรามีแพสชันกับมันย่อมทำให้เรามีไฟและมีใจกับการทำงาน Productive มากขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพงานที่ทำออกมาดีตามไปด้วย

มีโอกาสก้าวหน้าในการทำงานสูง

การเลือกงานที่ชอบมีส่วนช่วยให้ให้เราเติบโตขึ้นเพราะมีแพสชันเป็นตัวผลักดัน เมื่อเรารักในสิ่งที่ทำ ทุ่มเทให้กับงานเต็มที่ และขวนขวายที่จะพัฒนาเรียนรู้อยู่เสมอ งานที่ทำย่อมเปล่งประกายจนคนอื่นสัมผัสได้ หากมีคนมองเห็นความสามารถของเรา โอกาสก้าวหน้าก็ย่อมเพิ่มขึ้น

รู้สึกชีวิตมีความหมายมากขึ้น

การได้ทำในสิ่งที่รักหรือสิ่งที่ฝันย่อมเติมเต็มจิตใจ ช่วยให้เราอิ่มเอม ไม่ว่างเปล่า และรู้สึกว่าชีวิตมีความหมายมากขึ้น

ข้อเสียของการเลือกงานที่ชอบ

ความสนุกอาจลดน้อยลง เมื่อสิ่งที่ชอบกลายมาเป็นงาน

หลายคนอาจเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “อย่าเอางานอดิเรกหรือสิ่งที่รักมาทำเป็นงาน” เพราะจะทำให้เราไม่สนุกกับมันอีกต่อไป แน่นอนว่าอาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อมันคืองาน ย่อมมีพาร์ทที่ทำให้เรารู้สึกกดดัน ต้องคิดถึงเรื่องของประสิทธิภาพ ผลตอบรับ และฟีดแบ็กจากคนอื่น ๆ ซึ่งอาจส่งผลให้เราไม่สามารถสนุกกับมันได้เต็มที่ 100%

รายได้อาจไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต

ไม่ใช่ทุกงานที่ได้รับค่าตอบแทนสูง งานที่เรารักก็เช่นกัน หากเป็นงานที่เงินเดือนไม่มากนักก็อาจทำให้เราต้องใช้เงินแบบกระเบียดกระเสียรเพื่อแลกกับการได้ทำงานที่ชอบ ในระยะสั้นอาจยังไม่กระทบมาก แต่หากมองในระยะยาวก็อาจต้องชั่งน้ำหนักดูให้ดีว่ารับได้ไหม

แพสชันเปลี่ยนได้ วันหนึ่งเราอาจอยากทำอย่างอื่นมากกว่า

แม้จะมั่นใจว่าเรารักงานที่ทำอยู่ในตอนนี้ แต่ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าในอนาคต เราจะยังมีแพสชันให้สิ่งนี้อยู่เหมือนเดิม บางทีเราอาจหมดไฟ อาจสนใจอยากทำอย่างอื่นมากกว่าก็ได้ แม้การย้ายสายงานจะทำได้แต่ก็อาจต้องใช้เวลาและการเตรียมตัวค่อนข้างมาก

ข้อดีของการเลือกงานที่ได้เงินเยอะ

รายได้สูง

ข้อดีอันดับหนึ่งของงานที่ได้เงินเยอะก็คือเงินนั่นเอง หากเรามีรายได้มากขึ้น คุณภาพชีวิตของเราก็ย่อมดีขึ้น สามารถนำเงินไปซื้อสิ่งที่ต้องการหรือซื้อความสะดวกสบายบางอย่างได้ ซึ่งก็อาจเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่ได้มีแพสชันที่เกี่ยวกับงาน แต่มีแพสชันให้กับอย่างอื่น เช่น การไปเที่ยว การชอปปิ้ง ฯลฯ

มีความมั่นคง

การเลือกงานที่รายได้สูงช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับเราได้ แม้เนื้องานอาจจะไม่ได้ทำให้เราแฮปปี้มากนัก แต่การมีเงินไว้ในมือก็ช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับความไม่แน่นอนในชีวิตได้

มีทางเลือกในชีวิตมากขึ้น

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีเงินช่วยให้เรามีลู่ทางในชีวิตมากขึ้น เช่น ในวันที่เราหมดไฟกับงาน หากมีเงินสำรองที่แบ่งเก็บไว้ก็ช่วยให้เรามีตัวเลือกสำหรับการลาออกมาหยุดพักก่อน หาอะไรผ่อนคลายทำเพื่อเติมไฟ แล้วค่อยกลับไปทำงานต่อ หรือหากอยากเปลี่ยนไปทำอะไรใหม่ ๆ อย่างอื่นก็ย่อมง่ายกว่าการไม่มีเงินแน่นอน

ช่วยให้เกษียณงานได้เร็วขึ้น

บางครั้งการเลือกงานที่ได้เงินเยอะก็ถือเป็นการอดเปรี้ยวไว้กินหวาน อดทนเร่งทำงานเก็บเงินในช่วงอายุน้อย ๆ จะได้เกษียณได้ไวขึ้น มีเวลามาทำสิ่งที่ตัวเองรักต่อโดยไม่ต้องกังวลว่าเงินจะไม่พอเพราะมีเงินเก็บเพียงพอแล้ว

ข้อเสียของการเลือกงานที่ได้เงินเยอะ

อาจต้องทำงานหนักและนานขึ้น ส่งผลให้สุขภาพกายแย่ลง

ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ และแน่นอนว่างานที่ได้รับค่าตอบแทนสูงย่อมมาพร้อมกับภาระที่หนักขึ้น เนื้องานอาจไม่สบายและต้องทำงานล่วงเวลานานกว่าคนอื่น ส่งผลให้ไม่ได้พักผ่อนจนอาจเกิดปัญหาสุขภาพตามมา

ความกดดันสูง

นอกจากภาระงานที่หนักขึ้นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มักมาพร้อมกับงานที่ได้รับค่าตอบแทนสูงคงหนีไม่พ้นเรื่องของความกดดัน เงินยิ่งเยอะ งานยิ่งเครียด ซึ่งอาจทำให้เราสุขภาพจิตย่ำแย่ หมดไฟ หรือซึมเศร้าได้

มีเวลาให้ตัวเองและคนที่รักน้อยลง

การทำงานหนักย่อมส่งผลให้เวลาชีวิตของเราลดน้อยลง ทำให้เราอาจไม่ได้พัฒนาสกิลในด้านอื่น ๆ นอกเหนือจากงานที่ทำอยู่ ไม่ได้ทำงานอดิเรกหรือใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัว

งานที่รัก VS งานที่รวย เลือกอะไรดี?

ในการเลือกงาน แต่ละคนมีเงื่อนไขและความต้องการไม่เหมือนกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจตัวเองว่าเรามีเป้าหมายยังไง แนวทางการใช้ชีวิตเป็นแบบไหน ลองตอบคำถาม 5 ข้อนี้ดู อาจช่วยให้ตัดสินใจเลือกงานง่ายขึ้น

• เราให้ความสำคัญกับอะไรในชีวิต เช่น ความสุข ความฝัน เงิน ครอบครัว ความมั่นคง เวลาว่าง การพักผ่อน

• สถานะทางการเงินของเราเป็นยังไง มีหนี้ไหม ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือเลี้ยงดูส่งเสียใครในครอบครัวหรือเปล่า ค่าใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ที่เท่าไหร่​ เงินเก็บตอนนี้มีจำนวนเท่าไหร่

• แผนในระยะยาวของเราคืออะไร มีแผนจะสร้างครอบครัว ซื้อบ้านหรือซื้อรถไหม ตั้งใจจะไปเรียนต่อเมืองนอกหรือเปล่า อยากเกษียณตอนอายุเท่าไหร่ การมีแผนและเป้าหมายในระยะยาวจะช่วยให้เรารู้ว่าในอนาคตเราจำเป็นต้องใช้เงินมากแค่ไหน

• ไลฟ์สไตล์ของเราเป็นแบบไหน ชอบเที่ยวหรือชอบชอปปิ้งไหม หรือเป็นคนไม่ค่อยซื้ออะไร รายจ่ายต่อเดือนอยู่ที่เท่าไหร่

• Range เงินเดือนของแต่ละสายงานในตลาดแรงงานอยู่ที่เท่าไหร่ งานที่ชอบได้ค่าตอบแทนโดยเฉลี่ยเท่าไหร่ งานที่ได้เงินเยอะคืองานอะไร ลองหาข้อมูลเรื่องเงินเดือนดูเยอะ ๆ เพราะบางทีเราอาจหางานที่อยู่กึ่งกลาง ตอบโจทย์ทั้งแง่แพสชันและเงินเดือนได้

เมื่อตอบคำถามครบแล้วก็ลองเอาข้อมูลทั้งหมดมาประกอบกันแล้วพิจารณาดูว่าเราควรตัดสินใจเลือกทางไหน หากเราให้ความสำคัญกับความฝัน ไม่ว่ายังไงก็อยากประสบความสำเร็จกับสิ่งที่รัก แต่สถานะการเงินไม่เป็นใจ ก็อาจต้องเลือกงานที่ได้เงินเยอะไปก่อน พอเก็บเงินได้มากพอแล้วจึงค่อยหาลู่ทางออกมาทำตามความฝันทีหลัง หรือหากสถานะทางการเงินเราอยู่ในระดับดี ไลฟ์สไตล์ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก ไม่ได้เป็นคนใช้เงินเยอะ และต้องการมีเวลาว่างในชีวิต ทำงานที่ไม่กดดัน ก็อาจเลือกทำงานที่ตัวเองเอนจอย แม้ค่าตอบแทนไม่สูงแต่ก็เพียงพอต่อการใช้ชีวิต

การเลือกงานนั้นไม่มีผิดถูกหรือคำตอบที่ตายตัว บางคนอาจเลือกงานที่ชอบตามแพสชัน บางคนอาจเลือกงานที่ได้เงินเยอะ อยู่ที่ความพึงพอใจ เงื่อนไข และเป้าหมายของแต่ละคน

สรุป

การเลือกงานจากแพสชันกับงานที่ได้เงินเดือนสูงมีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน

• งานที่ชอบ

  • ข้อดี: ทำให้เรามีความสุขและมีไฟกับการทำงาน Productive มากขึ้น ส่งผลให้มีโอกาสก้าวหน้าในการทำงานสูงจากความทุ่มเทที่เราลงแรงไป นอกจากนี้การเลือกทำงานตามแพสชันยังช่วยให้เราอิ่มเอมใจ รู้สึกว่าชีวิตมีความหมายขึ้นอีกด้วย 

  • ข้อเสีย: เงินที่ได้รับอาจไม่เพียงพอกับการใช้ชีวิตเพราะไม่ใช่ทุกงานที่ได้ค่าตอบแทนสูง นอกจากนี้แพสชันของเราเปลี่ยนแปลงได้ วันนึงเราอาจอยากเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแทนในอนาคต หรือรู้สึกสนุกน้อยลงเมื่อสิ่งที่ชอบกลายเป็นงาน

• งานที่ได้เงินเยอะ

  • ข้อดี: รายได้สูง ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นตาม มีความมั่นคงทางการเงินและมีทางเลือกในชีวิตมากขึ้น สามารถเกษียณไปใช้ชีวิตในแบบที่อยากใช้ได้เร็วขึ้น

  • ข้อเสีย: งานที่ได้ค่าตอบแทนสูงมักเป็นงานที่ภาระหนักและความกดดันสูง อาจจำให้สุขภาพกายและใจของเราแย่ลง มีเวลาให้ตัวเองและคนที่รักน้อยลง

ก่อนตัดสินใจเลือกงาน ลองพิจารณาดูว่าเราให้ความสำคัญกับอะไรในชีวิตมากที่สุด สถานะทางการเงินเป็นยังไง ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเป็นแบบไหน มีเป้าหมายอะไรในอนาคต และสายงานต่าง ๆ  ให้ค่าตอบแทนเท่าไหร่ เมื่อตอบคำถามครบแล้ว เราน่าจะมองเห็นภาพและตัวเลือกงานมากขึ้น ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น