หลายคนมีความฝันที่จะประสบความสำเร็จ คิดหาไอเดียสุดเจ๋งมากมาย แต่กลับล้มเลิกที่จะตามความฝันของตัวเองเพียงเพราะเจอกับอุปสรรคและความล้มเหลว และก็พยายามหาข้ออ้างให้กับตัวเองว่า เราไม่มีเงินทุน เราไม่มีความรู้ เราคงทำได้แค่นี้ แล้วหันหลังให้กับความฝันที่เคยคิดไว้จนมันค่อย ๆ เลือนหายไปในที่สุด ซึ่งความเป็นจริงแล้วคนที่ประสบความสำเร็จเขาอาจจะไม่ได้เก่งกว่าคนทั่วไป แต่เขาแค่อดทนมากกว่า ยึดมั่นในความฝันมากกว่า และเขาแค่ไม่เคยยอมแพ้ต่อความล้มเหลวเท่านั้นเอง
ซึ่งวันนี้ JobThai มีตัวอย่างนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งตัวเขาเองนั้นไม่เคยเอ่ยถึงเลยว่าเขาสำเร็จได้เพราะความเก่ง แต่เขากลับบอกว่า ความสำเร็จของเขาเกิดจากความถึกทน บ้าพอที่จะคิดต่าง และกล้าพอที่จะล้มเหลว โดยที่ใช้การล้มเหลวแต่ละครั้งเป็นบทเรียนสำคัญในการพัฒนาตนเอง และนี่คือ 9 แนวคิดของ เอม อมฤต นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ผู้ก่อตั้ง HUBBA Thailand Co-working Space แห่งแรกของประเทศไทยที่ Startup รุ่นใหม่ต้องรู้
-
ในวงการ Startup ทุกคนต่างรู้กันดีว่าเปอร์เซนต์การล้มเหลวมีมากกว่าความสำเร็จ เพราะฉะนั้นคนเป็น Startup จะต้องมีความมุ่งมั่นสูงและทำงานด้วย Passion อีกทั้งยังต้องเตรียมพบกับความลัมเหลวนับไม่ถ้วน ซึ่งความล้มเหลวจะเป็นบทเรียนชั้นดีถ้าเรารู้จักเรียนรู้จากมัน
-
คนเป็น Startup ต้องมีนิสัยช่างสังเกต และช่างสงสัย เพราะโอกาสมักจะแฝงตัวอยู่ในปัญหาที่พบเจอในชีวิตประจำวัน และเมื่อพบโอกาสก็ควรตัดสินใจทำให้เร็วที่สุด แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเราควรคำนวณความเสี่ยงไว้ด้วย ทั้งในเรื่อง Product ว่ามีความแตกต่างหรือไม่ มีกลุ่มลูกค้ามากพอไหม หลังจากนั้นพิจารณาตัวเองว่าเราขาดทักษะในด้านไหนเพื่อที่จะได้ศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
|
|
เรียนรู้จากล้มเหลว
“Story ของทั้งชีวิตผมมันอยู่กับความล้มเหลว สำเร็จ ล้มเหลว แต่ต้องเรียนรู้และพัฒนาตัวเองจากความล้มเหลวนั้นให้ได้” เขาเคยเป็นคนที่ไม่รู้ตัวเอง ตัดสินใจผิดพลาดมาตลอดทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงาน ซึ่งทำให้เขารู้สึกผิดหวังกับตัวเองอยู่เสมอ จนวันหนึ่งเขาเปลี่ยนความคิดใหม่ ความล้มเหลวไม่ใช่เรื่องแย่สำหรับเขาอีกต่อไป การไม่เรียนรู้จากความล้มเหลวต่างหากที่ถือว่าเป็นความล้มเหลวที่แท้จริง
Passion ถ้าไม่มีต้องหาให้เจอ
“เก่งแค่ไหนแต่ถ้าไม่มี Passion ก็ไม่สามารถชนะคนที่มี Passion ได้ เพราะคนพวกนั้นคิด หมกมุ่น อยู่ตลอดเวลา คนอื่นทำ 100 แต่พวกเขาทำ 110 ซึ่ง 10 % ที่มากกว่านี่แหละที่เป็นตัวตัดสิน” เขาเชื่อว่าคนเราจะประสบความสำเร็จ จะต้องมี Passion ในสิ่งที่ทำด้วย แต่ด้วยความที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร เขาจึงต้องลองทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อค้นหา Passion ของชีวิตโดยที่คิดว่าต่อให้ล้มก็ไม่เป็นอะไร จนกลายเป็นคนที่ชอบแสวงหาความรู้ และในช่วงเวลานี้นี่เองที่เขาได้ทดลองทำสิ่งใหม่มากมาย ซึ่งกว่าที่จะมาเจอกับแนวคิด Co-working Space เขาต้องผ่านการลองผิดมาไม่ใช่น้อยเลย
ชอบสังเกต และช่างสงสัย
เขาเป็นคนที่ชอบสังเกต และตั้งข้อสงสัยในสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องธุรกิจที่เขาค่อนข้างสนใจเป็นพิเศษ เมื่อครั้งที่เขาต้องหนีน้ำท่วม และต้องไปทำงานในร้านกาแฟ เขาสังเกตเห็นว่ามีคนจำนวนมากเข้ามานั่งทำงาน และต้องพบกับความไม่สะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสียงรบกวน ปลั๊กไฟ ความเร็วของอินเทอร์เน็ต ทำให้เขาได้ไอเดียที่จะทำสถานที่ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับคนที่ต้องการหาที่ทำงาน
ธุรกิจไม่ใช่การพนัน เสี่ยงได้แต่ต้องศึกษาก่อน
แม้ว่าตัวเขาเองจะเหมือนคนที่ชอบใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยง ลองทำทุกอย่างที่ขวางหน้าและไม่กลัวที่จะล้มเหลว แต่ความเป็นจริงแล้ว ก่อนที่เขาจะทำอะไรเขาจะต้องศึกษาให้ดีก่อน หลังจากนั้นค่อยมาดูว่าเดิมพันมากพอไหมที่จะเสี่ยง ซึ่งหลังจากที่เขาได้ไอเดียจากร้านกาแฟแล้ว เขาก็ได้นำแนวคิดนั้นไปศึกษาต่อ “เราเห็น Search Trend ต่างชาติ จำนวนมาก ค้นหา คำว่า Co-working Space ใน Google บางคนก็ไปถามในสื่อออนไลน์ ว่ามี Co-working Space ในเมืองไทยบ้างไหม” ทำให้เขามั่นใจว่ามีคนจำนวนมากที่ต้องการใช้บริการ Co-working Space และทำให้เขาตัดสินใจเปิด Co-working Space แห่งแรกในเมืองไทยในที่สุด
ทำสิ่งที่แตกต่างอย่างโดดเด่น
First Unique กับ Top of Mind เป็นแนวคิดในการทำธุรกิจของเขา เขาต้องการจะเป็นคนแรกที่นำเสนอแนวคิดแปลกใหม่ให้กับสังคม และเรื่องนั้นต้องสร้างการจดจำให้คนได้ด้วย ด้วยแนวคิดนี้นี่เองที่ทำให้ Hubba เป็นมากกว่าแค่สถานที่ทำงานที่มีแค่โต๊ะทำงานและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แต่กลายเป็นศูนย์กลางที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่ม Startup ที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วย
รู้ว่ามีอะไรที่ไม่รู้
ก่อนที่เขาจะเริ่มทำ Hubba เขาแทบไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับ Co-working Space เลย แต่สิ่งที่เขาคิดอยู่เสมอ คือ “ต้องรู้ว่าอะไรที่ไม่รู้” เพื่อที่เขาจะได้ไปศึกษาเพิ่มเติม และนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับธุรกิจที่จะทำ
โอกาสต้องทำเดี๋ยวนี้ การทำธุรกิจไม่มีเวลาที่ดีที่สุด
“วิธีการของผมคือกระโดดออกไปก่อน แล้วค่อยออกไปประกอบร่าง และต้องทำให้ได้ก่อนตกถึงพื้น” เขาคิดว่าทุกไอเดียมีอายุของมัน ถ้าคิดว่าเจอไอเดียดี ๆ แล้วแต่กลับปล่อยให้ผ่านไป หรือมัวแต่นั่งคิดว่ามันจะดีไหม เราพร้อมไหม อีกไม่นานก็ต้องถูกคนอื่นทำตัดหน้า โดยเฉพาะในยุคนี้ที่ทุกคนสามารถหาไอเดียได้อย่างง่ายดายในโลกอินเทอร์เน็ต
เครือข่ายที่แข็งแรง
ตัวเขาเองรู้จักคนมากมาย เป็นเพราะในชีวิตได้ทำงานที่หลากหลาย และเขามักจะผูกมิตรไว้กับทุกคนเสมอ ซึ่งตอนนั้นเขาก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดประโยชน์อะไร จนวันหนึ่งที่ Hubba กำลังจะแย่ เนื่องจากในช่วงแรกยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก เงินสดขาดมือ เขาได้เจอกับรุ่นพี่คนหนึ่งที่เคยมาฝึกงานในองค์กรที่เขาเคยทำงาน ซึ่งช่วงเวลานั้นเขาได้คอยแนะนำ คอยสนับสนุน ด้วยอัธยาศัยไมตรีที่ดี และเป็นรุ่นพี่คนนี้นี่เองที่ให้ยืมเงินทุน เพื่อต่อลมหายใจให้กับ Hubba จนอยู่รอดและสำเร็จมาได้ถึงวันนี้ และแนวคิดนี้นี่เองที่ทำให้เขารู้สึกว่า Connection สำคัญมากสำหรับการทำธุรกิจ โดยเฉพาะ Startup ที่มีข้อจำกัดในหลายปัจจัย ทั้งเงินทุน ความรู้ หรือ คำแนะนำ
เป็นผู้นำต้องบ้าพลัง และไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
“ธุรกิจเริ่มต้นใหม่คือ Energy ถ้าผู้ก่อตั้งไม่สามารถสร้างพลังงานนี้ได้ มันก็จะไม่มีอะไรมายึดเหนี่ยว มากระตุ้นเพื่อนร่วมทีมได้เลย” ตัวเขาเองในฐานะผู้ก่อตั้งเขาต้องทำงานอย่างหนัก ยิ่งช่วงเวลาที่ธุรกิจอยู่ในช่วงเริ่มต้น เขาต้องแสดงให้ลูกน้องเห็นว่าทุกอย่างกำลังไปได้สวย ถึงแม้ว่าภายในจิตใจจะเครียดมากก็ตาม เขายังพูดอีกว่า “คนมันจะเจ๊ง หรือจะล้มเหลว มันอยู่ที่ว่าหยุดเมื่อไหร่ ถ้าหยุดคิด หยุดแก้ปัญหา หยุดพยายาม ก็จบ”
JobThai มี Line แล้วนะคะ
ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่