8 เป้าหมายปีใหม่ที่ควรทำ ถ้าอยากทำงานดีขึ้น

8 เป้าหมายปีใหม่ที่ควรทำ ถ้าอยากทำงานดีขึ้น
13/12/21   |   31.4k   |  

 

  • ลองทำงานที่ไม่เคยทำ หรืออ่านหนังสือให้มากขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะใหม่ ๆ และเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้
  • หากเป็นหัวหน้า อาจลองมอบหมายงานให้คนในทีมทำมากขึ้น เป็นการเปิดโอกาสให้คนในทีมได้พัฒนาความสามารถด้วย
  • เปิดใจรับฟังคำวิจารณ์ของคนอื่น เพื่อนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็เก็บคำชื่นชมที่ได้รับมาเป็นกำลังใจ
  • ลดความเครียดในการทำงาน เลิกนิสัยชอบบ่น และหาเวลาออกไปเที่ยวบ้าง เพราะการทำงานหนักจะส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพและการทำงานได้
  • พยายามสร้างสมาธิให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
     

JobThai Mobile Application หางานใหม่ ง่ายกว่าที่คิด

iOS

Android

Huawei AppGallery

 

เริ่มต้นปีใหม่ก็ต้องตั้งเป้าหมายใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลง ซึ่งแต่ละคนก็มีเป้าหมายที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายเรื่องสุขภาพ เรื่องเงิน เรื่องการลงทุน หรือการเปลี่ยนแปลงนิสัยตัวเอง แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะตั้งเป้าหมายอะไรให้กับตัวเอง JobThai มี  8 เป้าหมายซึ่งช่วยในการทำงาน ที่อยากจะให้ทุกคนได้ลองทำกัน

 

1. เลิกดึงงานไว้ที่ตัวเอง แล้วจ่ายงานให้มากขึ้น

ถ้าคุณทำงานอยู่ในตำแหน่งที่สูงพอที่จะมอบหมายงานให้กับคนในทีมได้ แต่ยังคงดึงงานไว้ที่ตัวเอง ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เพราะจะทำให้คุณไม่สามารถทุ่มเทให้กับงานอื่น ๆ ที่สำคัญกว่าได้อย่างเต็มที่ คุณควรจะแจกจ่ายงานให้กับคนอื่นบ้าง นอกจากจะเป็นการแบ่งเบาภาระของตัวเองแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้กับคนในทีมได้พัฒนาและแสดงความสามารถอีกด้วย

 

8 ขั้นตอนการมอบหมายงานที่หัวหน้าทีมควรรู้

 

2. เลิกคิดว่าตัวเองถูกเสมอ รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง

การแสดงออกว่าทุกอย่างที่คุณทำถูกต้องเสมอ ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ มันจะทำให้เพื่อนร่วมงานไม่กล้าให้คำแนะนำดี ๆ กับคุณ ซึ่งจะทำให้คุณไม่ได้เรียนรู้มุมมองใหม่ ๆ และเสียโอกาสดี ๆ ในเรื่องงานไปได้ เมื่อคุณได้รับคำวิจารณ์ หรือคำตำหนิต่าง ๆ ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับคำวิจารณ์ ที่ได้รับมา แต่ถ้าเปิดใจและลองมองในมุมอื่น ๆ คุณจะพบว่า คำวิจารณ์เหล่านั้นทำให้คุณเห็นว่าคนอื่นมีความคิดเห็นเกี่ยวกับงานของคุณยังไง และจะได้หาวิธีแก้ปัญหาเพื่อตอบโต้คำวิจารณ์พวกนั้นได้ แต่การตอบโต้นั้น ก็ควรจะต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงาน ไม่ใช่โจมตีในเรื่องส่วนตัวอื่น ๆ

 

3. เก็บคำขอบคุณและคำชมที่ได้รับจากคนรอบข้าง

สร้างโฟล์เดอร์หรือหาแฟ้มไว้เก็บข้อความดี ๆ ที่คุณได้รับมาตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น อีเมลจากหัวหน้าที่ส่งมาชมคุณเมื่อคุณทำงานใหญ่ได้สำเร็จ คำขอบคุณจากลูกค้า หรือโน้ตขอบคุณจากเพื่อนร่วมงานที่คุณเคยช่วยเขาทำงาน เมื่อคุณเจอกับวันที่มีปัญหา หรือไม่สบายใจ การหยิบเอาคำขอบคุณและคำชื่นชมเหล่านั้นขึ้นมาอ่าน จะทำให้มีกำลังใจมากขึ้น และเมื่อถึงเวลาประเมินการทำงานในช่วงปลายปี สิ่งนี้ก็จะช่วยทำให้คุณจำสิ่งต่าง ๆ ที่คุณเคยทำสำเร็จได้อีกด้วย

 

4. หาเวลาไปเที่ยวพักผ่อนให้มากขึ้น

การทำงานตลอดทั้งปีโดยไม่หยุดพักผ่อนจะส่งผลเสียต่อสุขภาพและลดประสิทธิภาพในการทำงานได้ ดังนั้นในหนึ่งปีลองหาเวลาไปเที่ยวพักผ่อนยาว ๆ ดูบ้าง หรือถ้าคุณไม่มีเวลามากขนาดนั้น ก็หาอะไรที่ช่วยให้ผ่อนคลายทำที่บ้าน และออกให้ห่างจากงานและอีเมลต่าง ๆ วันลาพักร้อนเป็นสิทธิ์ที่คุณควรจะได้รับอยู่แล้ว ดังนั้นคุณไม่ต้องรู้สึกผิดที่จะใช้วันลาหรอก

5. ลดการบ่นหรือสบถที่มาจากอารมณ์ด้วยขวดโหลเก็บเงิน

นักจิตวิทยาชื่อ Gerry Hussey เคยบอกว่าทุกคำของเราที่บ่นหรือสบถล้วนมาจากอารมณ์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการบ่นว่างานยุ่ง บ่นที่โดนหัวหน้าดุ หรือบ่นเพราะเครียดเรื่องประชุมต่าง ๆ นานา นอกจากจะทำให้คนรอบข้างรู้สึกไม่ดีแล้ว ยังทำให้คุณเกิดความเครียดด้วย เพราะฉะนั้นเราลองลดสิ่งเหล่านี้ด้วยขวดโหลเก็บเงินดูสิ วิธีคือเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณบ่นเรื่องงาน เมื่อนั้นคุณจะต้องใส่เงินลงไปในขวดโหลใบนั้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากลดความเครียดในการทำงาน และที่สำคัญเงินในขวดก็เหมือนเป็นการออมเงินไว้ใช้ไปในตัว

 

6. ออกจาก Comfort Zone ลองทำอะไรใหม่ ๆ

เลิกทำงานแต่ในจุดที่คุณรู้สึกสบายใจ และงานที่รู้ว่าคุณจะทำมันสำเร็จแน่นอน แล้วลองเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ หรือทำสิ่งใหม่ ๆ นอกเหนือจากสิ่งที่มั่นใจว่าตัวเองทำได้ดีดูบ้าง การทำงานที่มั่นใจจะทำให้งานออกมาดี แต่มันอาจปิดกั้นโอกาสในการเจริญก้าวหน้าของคุณได้เช่นกัน

 

กลัวผิดพลาดจนไม่กล้าทำอะไร ออกจาก Comfort Zone ยังไงดี?

 

7. มีสติและสมาธิมากขึ้น

ยุคที่ทุกอย่างรวดเร็วไปหมด หลายคนทำงานแบบ Multi-tasking จนเคยชิน ทำให้การขาดสมาธิในการทำงานกลายเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในหมู่คนทำงาน เป้าหมายอีกอย่างนึงที่จะช่วยในการทำงานได้ก็คือ การทำให้ตัวเองมีสมาธิมากขึ้น โดยการฝึกสติง่าย ๆ อย่างการนั่งสมาธิ ซึ่งนอกจากทำให้มีสมาธิมากขึ้นแล้วยังช่วยควบคุมอารมณ์ และลดความเครียดได้ด้วย อาจจะเริ่มจากใช้เวลา 5- 10 นาทีก่อนนอนและต่อมาค่อยเพิ่มเวลาให้มากขึ้น เมื่อคุณฝึกจนเป็นนิสัยได้แล้วรับรองว่าปีหน้าจะเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ดีแน่นอน

 

วิธีการสร้างสมาธิในการทำงานที่ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือบริษัทก็ทำได้

 

8. อ่านหนังสือเป็นประจำ

การอ่านหนังสือมากขึ้นคือลิสต์ที่ควรเก็บมาเป็นเป้าหมายในปีใหม่ทุก ๆ ปี  ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่ให้บันเทิงหรือหนังสือที่มีประโยชน์ หรือถ้าต้องการเสริมสร้างทักษะเกี่ยวกับอาชีพโดยเฉพาะ ก็มีหนังสือที่ช่วยส่งเสริมอาชีพมากมายที่จะช่วยให้คุณพัฒนาสกิลในการทำงาน หรือสร้างสมดุลชีวิตการทำงานได้ดีมากขึ้น รู้อย่างนี้แล้วก็หาหนังสือมาอ่านเลย

 

5 ประโยชน์จากการอ่านหนังสือที่คุณไม่เคยรู้

 

เมื่อมีเป้าหมายที่อยากจะทำให้สำเร็จในปีนี้แล้ว ก็ให้โฟกัสที่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้และลงมือทำมันอย่างเต็มที่ แต่ถ้าเป้าหมายของคุณเป็นเรื่องที่ใหญ่และสำคัญมาก คุณอาจเลือกทำแค่หนึ่งหรือสองอย่างก่อน เพราะการตั้งเป้าหมายที่ยากและมากเกินไป สุดท้ายแล้วอาจทำให้คุณต้องมานั่งเสียดายทีหลัง เพราะไม่มีอะไรสำเร็จสักอย่างเลยก็ได้

 

ฝากประวัติเพื่อหางานที่ใช่ได้ ที่นี่

 

JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน

 

 

 

ที่มา:
usnews.com

tags : การทำงาน, คนทำงาน, พัฒนาตนเอง, เคล็ดลับการทำงาน, career & tips, เคล็ดลับสำหรับคนทำงาน, เทคนิคสำหรับคนทำงาน, ทำงานอย่างมีความสุข, ความสุขในการทำงาน, เคล็ดลับความสำเร็จ, เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ, ทำงานให้มีความสุข, แนวคิดในการทำงาน, งาน, หางาน



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม