AI ในโลกการทำงาน กับ 3 อาชีพที่หุ่นยนต์จะช่วยสนับสนุนคนทำงาน

AI ในโลกการทำงาน กับ 3 อาชีพที่หุ่นยนต์จะช่วยสนับสนุนคนทำงาน
06/07/18   |   14.6k   |  

“หลังจากนี้หุ่นยนต์จะเข้ามาแย่งงานของคนซึ่งจะทำให้มีการตกงานเกิดขึ้นมากมายในอนาคต” เสียงวิทยากรในงานสัมมนาเกี่ยวกับเรื่อง AI ในโลกการทำงาน ที่เน้นย้ำเกี่ยวกับโอกาสที่หลายอาชีพจะถูกหุ่นยนต์เข้ามาแย่งงานทำ แต่สำหรับกันต์แล้วเขากลับไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายขนาดนั้น เขาคิดว่าจริง ๆ แล้ว AI จะเข้ามาช่วยเหลือมนุษย์ให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจหลายอย่าง ทำให้หลายองค์กรเริ่มมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการทำงาน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือระบบอัตโนมัติหรือปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ที่มีบทบาทมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในหลากหลายอาชีพ จนคนทำงานหลาย ๆ คนเกิดความกังวลว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้หุ่นยนต์จะเข้ามาทำงานแทนมนุษย์ได้ทั้งหมด แต่หากเราลองวิเคราะห์ข้อมูลลึก ๆ แล้ว งานที่หุ่นยนต์จะเข้ามาทดแทนนั้นมักจะเป็นงานที่มีรูปแบบการทำงานแบบเดิมซ้ำ ๆ หรือเป็นงานที่เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์มีความสามารถในการคำนวณข้อมูลที่ซับซ้อนได้รวดเร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์

นั่นหมายความว่า AI หรือหุ่นยนต์ก็ยังไม่สามารถทำงานทดแทนมนุษย์ได้ทุกอย่าง แต่ถ้าเรารู้จักนำจุดแข็งของหุ่นยนต์มาใช้อย่างเหมาะสม ก็จะเป็นการช่วยส่งเสริมการทำงานของเราและทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ และถึงแม้งานบางอย่างจะถูกหุ่นยนต์ทดแทนแต่ก็จะเกิดงานในรูปแบบใหม่ ๆ ที่หุ่นยนต์ยังไม่สามารถทำแทนได้ เช่น งานที่ใช้ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ หรืองานที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่งจากการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลก็พบว่ามี สายงานสำคัญที่หุ่นยนต์จะมาช่วยสนับสนุนการทำงานของมนุษย์เราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นมีอยู่ 3 สายงานหลัก ๆ คือ อาชีพด้านบริการ อาชีพเฉพาะทาง และอาชีพให้คำปรึกษา

 

 

  • แม้ว่า AI จะเข้ามีบทบาทมากเพียงไหนแต่ในหลายกรณี AI ก็ยังไม่สามารถทดแทนมนุษย์ได้ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่ต้องใข้ทักษะความคิดสร้างสรรค์ ทักษะทางอารมณ์ ทักษะการเข้าสังคม

  • อาชีพเฉพาะทางที่ต้องอาศัยประสบการณ์ความรู้ของมนุษย์ เช่นแพทย์ ก็เร่ิมมีการนำหุ่นยนตเข้ามาช่วยด้านการผ่าตัด โดยมีจุดเด่นที่ความแม่นยำ และเสถียรมากกว่ามือมนุษย์ แต่ในการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การผ่าตัดทรวงอก หรือสมอง ก็ยังต้องการการตัดสินใจจากมนุษย์อยู่

  • ผู้บริโภคแม้จะได้ประโยชน์จากความสามารถของ AI ที่ช่วยประมวลผลหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังอยากคุยกับมนุษย์อยู่ดี เนื่องจากการสื่อสารที่ไม่มีกรอบจำกัด พูดคุยได้หลากรูปแบบทั้งต่อหน้า ทางโทรศัพท์ หรือช่องทางออนไลน์

     

 

อาชีพด้านบริการ

ทุกวันนี้แนวโน้มการใช้งานหุ่นยนต์ในภาคบริการมีโอกาสแซงหน้าหุ่นยนต์ภาคการผลิต มีองค์กรจากหลากหลายธุรกิจนำหุ่นยนต์ไปใช้ในการให้บริการ ซึ่งการนำหุ่นยนต์มาใช้นั้นเป็นการเข้ามาช่วยเหลือมนุษย์จากการทำงานที่หนักและน่าเบื่อ เช่น พนักงานยกกระเป๋าในโรงแรมที่สามารถให้บริการเช็กอิน เช็กเอาท์ และยกกระเป๋าลูกค้าไปส่งที่ห้องพัก งานส่วนนี้หุ่นยนต์สามารถทำงานแทนพนักงานบริการได้หมด และสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องเปลี่ยนกะด้วย ซึ่งถือเป็นการทุ่นแรงงานมนุษย์ ทำให้พนักงานมีเวลาทำงานที่สร้างคุณค่าให้กับองค์กรมากขึ้น

อย่างไรก็ตามแม้หุ่นยนต์จะสามารถเข้ามาช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นทั้งฝั่งผู้ให้บริการและลูกค้าที่มาใช้บริการ แต่หากมีคำถามที่ซับซ้อนและเป็นคำถามที่ไม่ตายตัวนอกเหนือจากที่สั่งการให้หุ่นยนต์จัดการ มนุษย์ก็ยังต้องเป็นผู้ตอบคำถามและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแก่ลูกค้า เพราะถึงแม้คอมพิวเตอร์จะสามารถประมวลผลข้อมูลมหาศาลได้รวดเร็วแค่ไหน ก็ยังไม่สามารถมาทำหน้าที่แทนมนุษย์ในเรื่องของการตัดสินใจ และการแสดงความรู้สึกนึกคิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้

 

อาชีพเฉพาะทาง

ปัจจุบันอาชีพเฉพาะทางเริ่มนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในการทำงานมากขึ้น ที่เห็นได้ชัดคือการใช้หุ่นยนต์ผ่าตัดในแวดวงการแพทย์ โดยหุ่นยนต์นั้นสามารถทำงานร่วมกับทีมศัลยแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นรอยแผลที่เกิดจากการผ่าตัดโดยหุ่นยนต์มีขนาดเล็กทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น หรือทีมศัลยแพทย์สามารถมองเห็นบริเวณที่ผ่าตัดได้อย่างชัดเจนในตำแหน่งที่แม่นยำกว่า ในขณะที่การผ่าตัดโดยมือมนุษย์อาจจะมีอาการสั่นเกร็งเนื่องจากความล้าหากการผ่าตัดใช้เวลานาน

แต่ถึงอย่างไรการใช้หุ่นยนต์ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างเช่นกัน อาทิ การผ่าตัดที่ซับซ้อนในอวัยวะสำคัญอย่างทรวงอกหรือเส้นเลือดสมอง ที่ต้องอาศัยความรู้ความชำนาญของทีมศัลยแพทย์ รวมถึงต้องอาศัยทักษะการตัดสินใจในเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่มีในมนุษย์เท่านั้น

 

อาชีพให้คำปรึกษา

สำหรับสายงานด้านการให้คำปรึกษานั้น ทุกวันนี้มีการพัฒนาหุ่นยนต์ที่จะช่วยให้คำปรึกษาด้านการลงทุนผ่านซอฟต์แวร์การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง เพื่อแนะนำให้นักลงทุนจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งข้อมูลที่ได้ก็มีความแม่นยำสูง นอกจากนี้หุ่นยนต์ที่ปรึกษาทางการเงินยังถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อลบข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ด้วย เพราะที่ปรึกษาที่เป็นมนุษย์อาจจะมีความลำเอียงในบางสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจ หรือมีแรงจูงใจทางด้านค่าตอบแทนจนทำให้ไม่ได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่นักลงทุน อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่เช่นกัน นั่นก็คือให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้เท่านั้น ยังไม่สามารถให้คำแนะนำในเรื่องการวางแผนการเงินด้านอื่น ๆ ได้ เช่น ประกัน หรือการวางแผนมรดก

นอกจากนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังระบุว่าถึงแม้พวกเขาจะเปิดรับฟังคำแนะนำจากหุ่นยนต์แต่พวกเขาก็ยังต้องการการบริการจากมนุษย์ควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากสามารถติดต่อสื่อสารได้แบบไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อแบบตัวต่อตัว ทางโทรศัพท์ หรือช่องทางออนไลน์ และยังสามารถจัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนแต่ละคน และเหมาะกับสถานการณ์การลงทุนในแต่ละช่วงอีกด้วย ถือเป็นการให้คำปรึกษาที่เหมาะสมแก่บุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งมีความซับซ้อนเกินกว่าที่เทคโนโลยีหรือหุ่นยนต์จะเข้าใจและตอบสนองได้อย่างตรงจุด

 

3 ทักษะสำคัญ ที่ทำให้มนุษย์ยังเหนือกว่าหุ่นยนต์ในเรื่องการทำงาน

อย่างไรก็ตามแม้ว่าปัจจุบันหุ่นยนต์จะเข้ามามีบทบาทในโลกการทำงานมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าหุ่นยนต์จะสามารถทำงานแทนมนุษย์เราได้ทั้งหมด เพราะมีทักษะอีกหลายอย่างที่เทคโนโลยีและ AI ยังไม่สามารถทำได้ดีในระดับเทียบเท่า แม้การพัฒนาของเทคโนโลยีหรือ AI จะมีความก้าวหน้ามากขึ้นก็ตาม ซึ่ง 3 ทักษะสำคัญที่ทำให้มนุษย์ยังเหนือกว่าหุ่นยนต์ในโลกของการทำงานก็คือ

· ทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) - เพราะสมองของมนุษย์มีความซับซ้อนและมีความสามารถในการคิดได้หลากหลายรูปแบบจนนำไปสู่การคิดค้นและสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ซึ่งเทคโนโลยีและ AI บนโลกใบนี้ต่างเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์นั่นเอง

· ทักษะทางสังคม (Social Skills) – โลกใบนี้ประกอบไปด้วยผู้คนมากมาย และแต่ละคนก็มีความแตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะมีปฏิสัมพันธ์และพึ่งพาอาศัยกัน ผ่านการสื่อสารทั้งการพูด การฟัง การแสดงออก เพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางบวกให้เกิดขึ้น

· ทักษะทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) – เนื่องจากมนุษย์มีความสามารถในการตระหนักรู้ถึงความรู้สึกทั้งของตนเองและของผู้อื่น ซึ่งทักษะทางอารมณ์นี้นำมาใช้ในการสร้างความสัมพันธ์เพื่อให้เกิดประโยชน์ได้

ทักษะเหล่านี้ล้วนเป็นทักษะที่เกิดจากการเรียนรู้โดยธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของมนุษย์อย่างเรา ดังนั้นเราจึงต้องเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่กล่าวมา รวมถึงทักษะเฉพาะด้าน และองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้โลกการทำงานในอนาคตของทั้งมนุษย์และหุ่นยนต์สามารถทำงานและอยู่ร่วมกันได้นั่นเอง

 

JobThai มี Line แล้วนะคะ

ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่

เพิ่มเพื่อน

 

 

tags : career and tips, ai ในโลกการทำงาน, อาชีพที่หุ่นยนต์จะช่วยคน, หางาน, งาน, สมัครงาน, jobthai



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม