9 List ที่จะทำให้ชีวิตคนทำงานประสบความสำเร็จ

9 List ที่จะทำให้ชีวิตคนทำงานประสบความสำเร็จ
05/06/17   |   25.6k   |  

“เสร็จไปอีกหนึ่งเรื่อง”  จริยายิ้มพอใจกับงานตรงหน้า ก่อนค่อย ๆ บรรจงขีดเส้นทับลงไปในลิสต์งานที่เธอต้องทำในสัปดาห์นี้

 

การได้ขีดฆ่ารายการต่างๆ ออกไปจาก To-Do list เป็นสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขเสมอ นอกจากมันจะหมายความว่าเธอได้ทำภารกิจลุล่วงไปอีกหนึ่งอย่างแล้ว ยังหมายความถึงเป้าหมายที่เธอเดินเข้าไปใกล้มันอีก 1 สเต็ปอีกด้วย

 

คนทำงานอย่างพวกเรามีลิสต์รายการต่างๆ ที่ต้องจัดการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว สำหรับใครที่มีสมองเฉียบคมแล้ว การจัดลำดับเรื่องราวต่าง ๆ ไว้ในหัวคงมีโอกาสที่จะเป็นไปได้ แต่สำหรับหลาย ๆ คนแล้ว ถ้าเราไม่ทำลิสต์ไว้ หลายเรื่องของเราคงไม่ได้จบลงสวยงามแบบที่จริยาทำได้ไปทุกครั้ง

 

แม้คนเราจะมีสมองไว้จดจำเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย แต่บางครั้งเราก็ต้องการตัวช่วย เช่น การจดบันทึก เพื่อให้เราจัดการชีวิตได้ง่ายขึ้น การมีลิสต์ของสิ่งต่างๆ ในชีวิตนอกจากจะช่วยเตือนให้เราไม่หลงลืมเรื่องที่สำคัญแล้ว ยังช่วยให้เราสามารถรักษาเป้าหมายของชีวิต และทำให้เราประสบความสำเร็จได้อีกด้วย JobThai  ขอแนะนำสิ่งที่ควรจดบันทึกและเก็บไว้ทบทวนเพื่อประเมินความก้าวหน้าของตัวเองในทุกๆ วัน   

 

 

  • ลิสต์แผนต่าง ๆ ที่คุณต้องการทำในชีวิตไม่ว่าจะเป็นงานที่ต้องทำ เป้าหมายที่ต้องการจะไปถึงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงความฝันที่คุณต้องการจะทำสักครั้งในชีวิต ใช้รายการเหล่านี้ในการขับเคลื่อนชีวิตไปข้างหน้า
  • ลิสต์รายชื่อคนรู้จัก อัปเดตรายละเอียดสำหรับการติดต่อไว้เสมอ เพราะเราไม่รู้เลยว่าเราจะมีเรื่องฉุกเฉินเกิดขึ้นกับเราจนต้องการความช่วยเหลือจากใครๆ เมื่อไหร่
  • บันทึกการพัฒนาตนเอง คนเราไม่สามารถที่จะอยู่นิ่งๆ ได้ ความสามารถของเราก็ต้องมีความพัฒนาเพิ่มขึ้นด้วยตามกาลเวลา แต่เราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเราพัฒนาขึ้นมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่มีการจดบันทึกติดตามผล
  • ไอเดียสร้างสรรค์ หลายๆ ครั้งที่เรามีความคิดดี ๆ แต่ไม่รีบจดบันทึกไว้ พออยากจะนำมาพัฒนาต่อยอดก็กลับจำไม่ได้เสียแล้ว หากระดาษกับปากกาเก็บไว้ใกล้ตัวเสมอ ใครจะรู้ว่าไอเดียที่ปิ๊งขึ้นมาระหว่างเดินแกร่วอยู่ริมถนน อาจจะเปลี่ยนชีวิตของเราไปตลอดกาลเลยก็ได้
     


1. เป้าหมายชีวิต 

เขียนเป้าหมายในชีวิตที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายระยะสั้นหรือระยะยาว จะเป็นเรื่องเล็กอย่างแผนการไปเที่ยวในช่วงพักร้อน หรือเรื่องใหญ่ ๆ อย่างการซื้อรถหรือบ้านก็ได้

 

เริ่มต้นด้วยสถานะช่วงชีวิตจากปัจจุบันของคุณ ตามด้วยการเขียนถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ขึ้นที่เราอยากไปให้ถึงในอนาคต เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว การวางแผนในขั้นต่อมาเพื่อทำให้เป้าหมายนั้นสำเร็จก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นกว่าการที่เราตั้งเป้าหมายไว้ในใจ และหลงลืมเป้าหมายชีวิตที่สำคัญระหว่างการใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบในชีวิตประจำวัน


2. ลิสต์ค่าใช้จ่าย  

การทำบัญชีรายรับรายจ่ายดูจะเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำกัน แต่ในกรณีนี้เราแนะนำให้แบ่งลิสต์ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ รายจ่ายที่จำเป็น เช่น ค่ารถ ค่าน้ำ ค่าไฟ และรายจ่ายในสิ่งของอื่น ๆ ที่คุณอยากได้ เช่น เครื่องประดับ เสื้อผ้า กระเป๋า ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะปกติแล้วเราจะไม่ได้แยกว่าอะไรเป็นสิ่งที่จำเป็นและอะไรคือสิ่งฟุ่มเฟือยอย่างชัดเจน

 

เวลาเราทำลิสต์รายจ่ายเราจะต้องจัดลำดับความสำคัญของรายจ่ายประจำไว้เป็นลำดับแรก ๆ เพื่อการคำนวณรายจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะถ้าเราไม่มีลิสต์นี้เราจะคิดไปเองว่าเรามีอิสระในการจับจ่ายใช้สอยมากกว่าที่คิด และลงเอยด้วยการใช้เงินเกินตัว แต่ถ้าเราเห็นอย่างชัดเจนว่าแต่ละเดือนมีสิ่งที่เราจำเป็นจะต้องจ่ายเท่าไหร่บ้าง เราจะยับยั้งความคิดที่อยากจะใช้เงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นไปโดยปริยาย


3. ลิสต์รายชื่อคนรู้จัก 

หมั่นอัพเดทเบอร์โทรศัพท์ของคนที่คุณรู้จักไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว ญาติ เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน หรือ บุคคลอื่น ๆ ที่ต้องทำงานด้วย เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร ลองคิดดูว่าหากมีเรื่องด่วนที่คุณต้องการความช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ลืมเอกสารงานสำคัญ  แล้วคุณโทรหาคนที่คุณต้องการให้ช่วยไม่ติด เพราะเขาเปลี่ยนเบอร์ไปแล้ว

 

คุณจะเสียโอกาสหรือเกิดผลกระทบกับชีวิตของคุณมากมายขนาดไหน  ยิ่งกว่านั้นคุณควรแบ่งกลุ่มคนที่สำคัญต่อคุณเป็นพิเศษเพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อ และอย่าลืมสำรองข้อมูลติดต่อเหล่านั้นทั้งแบบจดใส่สมุด และการฝากข้อมูลแบบออนไลน์เพื่อป้องกันการสูญหาย ไม่แน่ว่าคนที่คุณรู้จักอาจจะทำให้คุณได้รับโอกาสดี ๆ ในชีวิต หรือช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในวันข้างหน้าก็ได้


4. งานที่ต้องทำ 

งานที่ยากจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถของเรา ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานประจำ ลูกจ้างชั่วคราว หรือรับทำฟรีแลนซ์  คุณก็ต้องได้รับมอบหมายงานให้ทำเหมือนกัน จดงานที่คุณต้องทำอาจใช้รูปแบบ To-Do List โดยเรียงลำดับตามความเร่งด่วน หรือความสำคัญของงานแต่ละชิ้น

 

เมื่อทำงานเสร็จสิ้นแล้วให้ย้อนดูลิสต์ที่เราทำไว้ เราจะรู้สึกภูมิใจในงานที่ได้ทำ ส่วนงานที่ยังไม่สำเร็จ ลิสต์นั้นก็จะเป็นตัวกระตุ้นให้เรามุ่งมั่นทำงานต่อไป ทักษะการทำงานของเราจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นไปพร้อม ๆ กับประสบการณ์การทำงานแต่ละชิ้นที่เราทำสำเร็จ 


5. การพัฒนาตนเอง 

จดบันทึกทุกทักษะความสามารถที่คุณมี สิ่งที่คุณอยากฝึกฝนเพื่อพัฒนาทักษะของตนเองเพิ่มเติม รวมถึงวิธีคร่าวๆ ว่าจะลงมือเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไร แน่นอนว่าเรื่องของทักษะนั้นเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา ลิสต์ของคุณจะต้องแสดงให้เห็นผังความเชื่อมโยงของทักษะที่คุณมี ว่าคุณมีความสามารถครอบคลุมในด้านไหนบ้างและสิ่งไหนที่คุณขาด

 

พร้อมทั้งการประเมินด้วยการให้คะแนนตนเอง  เช่น ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษที่ประกอบไปด้วย การฟัง พูด อ่าน และเขียน เมื่อคุณสรุปออกมาเป็นตัวเลขคร่าว ๆ เช่น คะแนนเต็ม 10 การฟัง 5 พูด 5 อ่าน 8 และเขียน 7  ทักษะที่จะต้องพัฒนาก็คือการฟังและการพูด เพียงเท่านี้คุณจะมองภาพออกว่าทักษะไหนที่คุณดีพอแล้ว และทักษะไหนที่คุณต้องเรียนรู้เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดนั้น


6. แอปพลิเคชันที่มีประโยชน์

ทุกวันนี้มีเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยให้ชีวิตของเราสะดวกสบายขึ้น หนึ่งในนั้นคือแอปพลิเคชันบนมือถือ เราไม่จำเป็นต้องหิ้วอุปกรณ์หลายอย่างอีกต่อไป เพราะทุกวันนี้เครื่องคิดเลข สมุดบันทึก ปฏิทิน หรือนาฬิกา ก็รวมอยู่ในมือถือของเราหมดแล้ว

 

คุณควรจะมีลิสต์รายชื่อแอปพลิเคชันที่เป็นประโยชน์ในการทำงานอื่นๆ เช่น แอปฯ ที่สรุปและติดตามสถานะการทำงานของเรา ว่าเรากำลังทำงานกี่ชิ้นและแต่ละชิ้นนั้นมีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว หรือแอปพลิเคชันที่ช่วยหาตำแหน่งและบอกเส้นทางร้านอาหาร หรือโรงแรมที่พัก แอปพลิเคชันเหล่านี้จะช่วยในการจัดการชีวิตส่วนตัวและการทำงานของคุณ  ทำให้คุณมีเวลาในชีวิตเพิ่มมากขึ้น 


7. ไอเดียสร้างสรรค์  

เคยไหมที่อยู่ ๆ คุณก็นึกอะไรเจ๋ง ๆ ออกมาได้จากการทำอะไรที่แสนจะธรรมดา อย่าให้ไอเดียสร้างสรรค์เหล่านั้นหายไป จดไอเดียแปลก ๆ หรือสิ่งที่คุณคิดว่าน่าสนใจ หรือคำถามที่คุณสงสัยเอาไว้แล้วคิดวิเคราะห์และค้นคว้าหาคำตอบว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้สิ่งที่เป็นแค่ความคิดนั้นกลายเป็นจริงขึ้นมาได้

 

คุณอาจต่อยอดธุรกิจของคุณได้จากสิ่งเล็ก ๆ หรือ สามารถแก้ไขปัญหาในการทำงานได้จากการไอเดียที่เกิดจากสิ่งใกล้ตัวที่คุณไม่เคยสนใจมาก่อนเลยก็เป็นได้


8. แผนสำรองสำหรับอนาคต  

สร้างลิสต์ในการวางแผนสำหรับอนาคตไว้ทั้งเรื่องทั่ว ๆ ไปอย่างแผนการออมเงิน การสำรองเงินไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน หรือคิดเผื่อไว้ในกรณีที่อาจเกิดเหตุร้ายกับตัวคุณหรือครอบครัว เราไม่ได้ต้องการให้คุณมองโลกในแง่ร้ายแต่ให้จำไว้ว่าอนาคตเป็นเรื่องไม่แน่นอน สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่งแผนสำหรับอนาคตก็เช่นกัน

 

คุณต้องวางแผนเผื่อทางเลือกไว้หลาย ๆ ทาง เพื่อให้คุณสามารถปรับใช้ให้เหมาะสมตามสถานการณ์เมื่ออนาคตมาถึง ไม่ว่าในวันข้างหน้า ชีวิตของคุณจะเป็นไปตามแผนหรือไม่ได้เป็นไปตามแผนที่คุณวางไว้ แต่อย่างน้อย ๆ คุณก็ได้เตรียมตัวเพื่อเผชิญหน้ากับอนาคตอย่างเต็มที่แล้ว


9. สิ่งที่อยากทำสักครั้งในชีวิต

เขียนลิสต์ความฝันของคุณทั้งหมดลงไปในสมุดของคุณ แม้ว่าความฝันนั้นจะแทบเป็นไปไม่ได้เลยในโลกแห่งความเป็นจริง อย่างน้อยลิสต์นี้จะเป็นตัวจุดประกายความฝันของคุณ และผลักดันให้คุณทำในสิ่งที่ใกล้เคียงกันที่พอจะมีความเป็นไปได้

 

ดังคำกล่าวที่ว่าถ้าเราตั้งเป้าหมายที่จะไปให้ถึงดวงจันทร์ ถ้าพลาดเราก็ยังจะอยู่ท่ามกลางดวงดาว หยิบลิสต์สิ่งที่ฝันนี้ขึ้นมาดูบ่อย ๆ เพื่อย้ำเตือนตัวเองและเป็นกำลังใจให้กับตัวเองในการก้าวตามความฝัน ใครจะไปรู้ว่าอนาคตข้างหน้าเราอาจจะมีโอกาสได้ทำตามความฝันก็เป็นได้ 

 

JobThai มี Line แล้วนะคะ

ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่

เพิ่มเพื่อน

 

ที่มา:

lifehack.org

tags : งาน, ทำงาน, วิธีทำงาน, career & tips, คนทำงาน, เคล็ดลับสำหรับคนทำงาน, เทคนิคสำหรับคนทำงาน, เคล็ดลับความสำเร็จ, แนวคิดในการทำงาน



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม