-
ก่อนที่จะปฏิเสธข้อเสนอเลื่อนตำแหน่ง เราต้องหยิบเอาปัจจัยต่าง ๆ มาพิจารณาก่อน ทั้งความคาดหวังของงานใหม่ ความพร้อมของเราเอง เงินเดือนที่จะได้ คนที่ต้องร่วมงานด้วยในอนาคต ฯลฯ
-
เมื่อแน่ใจแล้วว่าตำแหน่งนี้ไม่เหมาะกับเราก็นัดพูดคุยกับคนที่เสนอตำแหน่งให้ โดยบอกเหตุผลอย่างตรงไปตรงมาและใจเย็น
-
เราสามารถแชร์ทิศทาง Career Path และเป้าหมายที่เราตั้งใจจะไปในอนาคต เพื่อให้เขารู้ว่าเรายังอยากจะก้าวหน้าต่อไปในสายที่ตัวเองสนใจ และไม่เป็นการตัดโอกาสตัวเองในอนาคต
|
|
ใครว่าข้อเสนอเลื่อนตำแหน่งงานจะทำให้เรารู้สึกดีใจเสมอไป ข้อเสนอบางอย่างอาจถึงขั้นสร้างความวิตกกังวลให้กับคนทำงานในแบบที่ว่าให้ทำงานในตำแหน่งเดิมยังจะสบายใจกว่า ซึ่งอาการที่ว่านี้ก็เป็นอาการที่มีอยู่จริง และไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร วันนี้ JobThai เลยจะขอพาคนทำงานไปดูว่าเราควรพิจารณาเรื่องอะไรบ้างเมื่อเจอข้อเสนอเลื่อนตำแหน่งที่ไม่ค่อยตรงใจ และถ้ามั่นใจแล้วว่าตำแหน่งใหม่นี้มันไม่เหมาะกับเราจริง ๆ เราควรปฏิเสธข้อเสนอนั้นยังไง
สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงก่อนจะปฏิเสธข้อเสนอ
คนทำงานแต่ละคนต่างมีเงื่อนไขและอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นก่อนที่จะตกปากรับคำหรือปฏิเสธออกไป เราจำเป็นต้องมาคุยกับตัวเองในหลาย ๆ ด้านก่อน
เราจะทำงานใหม่ได้ตามความคาดหวังรึเปล่า
เมื่อมีโอกาสได้คุยกับคนที่เสนองานตำแหน่งใหม่ เราต้องถามเขาให้ชัดเจนว่าขอบเขตหน้าที่ของตำแหน่งนี้คืออะไร เขาคาดหวังอะไรจากเราบ้าง มีตัวชี้วัดอะไรบ้างที่จะบ่งบอกว่าเราทำหน้าที่นี้ได้ดี และเมื่อเข้าใจเกี่ยวกับตำแหน่งนี้แล้วก็ลองดูว่าเราสามารถทำได้ตามความคาดหวังไหม มีเรื่องอะไรที่เราต้องเรียนรู้เพิ่มบ้าง แล้วเราเรียนรู้เนื้อหาใหม่ ๆ เหล่านั้นไหวรึเปล่า มันตรงกับความชอบของเรารึเปล่า
เราอยากทำงานนี้ไหม
เมื่อขยับขึ้นไปทำงานในตำแหน่งที่สูงขึ้น ก็อาจจะเริ่มมีเนื้องานที่หนักไปทางด้านการบริหาร และถึงแม้เราจะเป็นคนทำงานที่มีความสามารถมาก แต่บางทีการขึ้นมาบริหารงานของคนอื่น ๆ ในทีมอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราฝันไว้เลย และมันอาจทำให้เราต้องทำงานอย่างไม่มีความสุขไปเลยก็ได้
มองทิศทางของตัวเองในอนาคตเป็นยังไง
หลังจากที่ทำงานแบบโฟกัสกับตำแหน่งเดิมและสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามาตลอด ก็ถึงเวลามาลองจินตนาการภาพในอนาคตได้แล้วว่าเรามองเห็นตัวเองเป็นยังไง ท้ายที่สุดตำแหน่งใหม่นี้จะพาเราไปยังเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ไหม ถ้ามันเป็นไปได้ก็อย่าเพิ่งด่วนบอกปัดข้อเสนอไป ในทางตรงกันข้ามถ้ามองยังไงก็ไม่เห็นความสอดคล้องระหว่างตำแหน่งงานใหม่กับเป้าหมายของเราจริง ๆ มันก็ไม่เมคเซนส์ที่เราจะเลื่อนตำแหน่งไปสายที่เราไม่ต้องการ
จังหวะชีวิตตอนนี้ เหมาะจะเลื่อนตำแหน่งรึยัง
เมื่อเราต้องเลื่อนตำแหน่งก็แปลว่าเราจำเป็นต้องลงแรงและเวลาไปกับการปรับตัวเข้ากับบทบาทใหม่ ดังนั้นอย่าลืมถามตัวเองว่าในช่วงนี้หรือในอนาคตอันใกล้ เราอยู่ในจุดที่พร้อมจะเลื่อนตำแหน่งหรือยัง เรามีเงื่อนไขหรือกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้อกับการรับบทบาทใหม่รึเปล่า ยกตัวอย่างเช่น เราอาจจะต้องการเซฟพลังเอาไว้เพื่อไปเรียนคลาสปริญญาโทหลังเลิกงาน หรืออาจจะต้องการแบ่งเวลาให้คนในครอบครัวด้วย
เราจะได้ทำงานกับใคร
เราต้องรู้ว่าตำแหน่งงานใหม่นี้อยู่ตรงส่วนไหนของโครงสร้างองค์กร อีกหน่อยเราจะต้องขึ้นมาคุมคนในทีมตัวเองหรือว่าไปดูแลคนในแผนกอื่น แล้วใช้เวลาระหว่างที่ตัดสินใจในการหาข้อมูลว่าคนที่เราต้องร่วมงานในอนาคตเขาเป็นยังไงบ้าง ถ้าเป็นการเลื่อนตำแหน่งเพื่อขึ้นมาคุมคนในทีมตัวเอง ลองสังเกตดูว่าในแง่การทำงานแต่ละคนเป็นยังไง หรือถ้าถูกย้ายไปอยู่ทีมใหม่ ในทีมนั้นมีคนทำงานกี่คน แล้วตอนนี้สภาพแวดล้อมในทีมนั้นดูเป็นยังไงบ้าง มีคนในทีมที่รับมือยากไหม มีเรื่องที่ต้องปรับจูนมากน้อยแค่ไหนเพื่อให้ร่วมงานกันอย่างราบรื่น
เลื่อนตำแหน่งแล้วเงินเดือนขยับไหม
บางทีการเลื่อนตำแหน่งก็ไม่ได้แปลว่าเงินเดือนจะขยับ แต่อาจเป็นการที่บริษัทแสดงให้เห็นว่าเขามองเห็นความทุ่มเทในการทำงานอย่างหนักของเรา เลยเสนอตำแหน่งที่สูงขึ้นที่อาจมาพร้อมสวัสดิการที่ดีกว่าเดิม เช่น ค่าน้ำมันรถ รถประจำตำแหน่ง หรือมาพร้อมกับโอกาสใหม่ ๆ ที่เราอาจจะได้เจอแทน แต่อย่าลืมว่ามันก็ต้องแลกมาด้วยการทำงานที่หนักขึ้น ดังนั้นลองพิจารณาดูว่าถ้าเงินเดือนไม่ได้ขยับขึ้น แต่ได้สิ่งต่าง ๆ อย่างที่ได้ยกตัวอย่างมาแทน เราโอเคไหม
ตำแหน่งใหม่มันคุ้มกับเงินรึเปล่า
ส่วนใหญ่แล้วตำแหน่งงานใหม่ที่สูงขึ้นมักจะมาพร้อมกับเงินเดือนที่สูงขึ้น แต่สิ่งที่เรายังต้องคิดต่อคือตัวเลขที่เขาเสนอมามันคุ้มเหนื่อยรึเปล่า ถ้าดูเทียบกับขอบเขตความรับผิดชอบแล้วรู้สึกว่ามันไม่คุ้ม ก็ลองถามตัวเองดูว่าเราจะอยากทำตำแหน่งนี้ไหมหากเงินสูงกว่าข้อเสนอสักหน่อย ถ้ารู้สึกว่าตัวเองทำได้ถ้าเงินเดือนสูงขึ้นก็อาจจะต้องนัดต่อรองตัวเลขกับคนที่เสนองานให้อีกที ซึ่งก็ต้องไม่ลืมที่จะหาข้อมูลฐานเงินเดือนว่าตำแหน่งประมาณนี้ควรได้เงินเดือนเท่าไหร่ เพื่อที่จะไม่ตั้งราคาที่สูงเกินจริง และเตรียมเหตุผลต่าง ๆ ให้พร้อมว่าทำไมเราถึงควรได้เงินเดือนมากกว่าที่เขาเสนอมา
เทคนิคปฏิเสธการเลื่อนตำแหน่ง
พอพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ จนมั่นใจแล้วว่ายังไงตำแหน่งนี้คงจะไม่ตอบโจทย์เราจริง ๆ ส่วนที่ลำบากใจที่สุดก็คงจะเป็นการพูดคุยเพื่อปฏิเสธข้อเสนอ โดยรูปแบบการพูดคุยนี้ควรจะเป็นการพูดคุยที่นัดกันเอาไว้ล่วงหน้า ไม่แนะนำให้เดินไปเคาะประตูที่ห้องของเขาและขอคุยทันทีโดยที่เขายังไม่ทันตั้งตัว และในระหว่างที่กำลังรอให้เวลานั้นมาถึง ลองมาดูกันว่าพอจะมีเทคนิคอะไรบ้างที่จะช่วยให้การพูดคุยครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี
แสดงให้เห็นว่าเราเห็นความสำคัญของข้อเสนอนี้
เราสามารถเริ่มบทสนทนาด้วยการกล่าวขอบคุณที่เขาเสนอตำแหน่งนี้ให้กับเรา เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเรารับรู้ถึงความสำคัญของตำแหน่งนี้ และการที่เขาเสนอตำแหน่งที่สูงขึ้นให้เรามันมีความหมายมาก ๆ ขอบคุณที่เขามองเห็นศักยภาพในตัวเรา จากนั้นอย่าลืมพูดให้เขารับรู้ว่าเราได้เอาข้อเสนอนี้ไปพิจารณาอย่างจริงจังมาแล้ว อาจใช้ประโยคประมาณว่า “พอได้ลองเอาไปคิดดูแล้ว…” ก็ได้
อธิบายเหตุผลอย่างตรงไปตรงมา
พาร์ทนี้เราต้องอาศัยความใจเย็นมาก ๆ เพราะเงื่อนไขและเหตุผลของเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราควรอธิบายว่าเราได้เอาข้อเสนอต่าง ๆ มาพิจารณาในแง่ไหนบ้าง และเล่าให้เขาฟังว่าเพราะอะไรบ้างที่ทำให้เราคิดว่าขอผ่านข้อเสนอนี้ไปก่อนดีกว่า ทำไมการเลื่อนตำแหน่งครั้งนี้ยังไม่เหมาะกับเราในตอนนี้ อาจต้องให้เวลาอีกฝ่ายได้ทำความเข้าใจสักหน่อย แต่ยังไงถ้าเหตุผลของเราแข็งแรงมากพอ สิ่งที่อีกฝ่ายทำได้ก็มีแต่จะต้องเปิดใจและเคารพการตัดสินใจของเราอยู่ดี
แชร์ทิศทางที่เราอยากไปอนาคต
การที่เรายังไม่อยากเลื่อนตำแหน่งตอนนี้มันไม่ได้แปลว่าเราอยากหยุดอยู่กับที่ เราสามารถใช้การพูดคุยปฏิเสธงานครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสใหม่ให้กับตัวเองในอนาคตได้ด้วยการแชร์ให้เขาฟังได้ว่าเรามองเห็นภาพตัวเองในอนาคตไปในทิศทางไหน ในอีกหลาย ๆ ปีข้างหน้าเราอยากจะเติบโตไปในเส้นทางไหน ในอนาคตหากมีโอกาสที่เขาคิดว่ามันเหมาะกับเราและเป้าหมายที่เราตั้งไว้ เขาจะได้มองเราเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่จะให้ข้อเสนอ
การปฏิเสธข้อเสนอเลื่อนตำแหน่งไม่ใช่เรื่องผิด อย่างที่เห็นว่าการตัดสินใจครั้งนี้มันมีปัจจัยมากมายที่ต้องคำนึงถึง ยังไงก็ตามถ้าเรามีจุดยืนที่ชัดเจนและตอบตัวเองได้ว่าทำไมเราถึงยังอยากจะทำงานในตำแหน่งเดิมต่อไป ก็ถือว่าเราได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองแล้ว
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
ที่มา:
forbes.com
theupcoming.co.uk
youtube.com