ไม่ว่าคุณจะเป็นคนทำงานที่มีประสบการณ์มานานหลายปีหรือจะเป็นนักศึกษาจบใหม่ไฟแรง สิ่งที่ยังคงเป็นความท้าทายของทุก ๆ คนอยู่เสมอก็คือ “การหางานและสมัครงาน” เพราะมันเป็นเหมือนกับการที่เราต้องลงสนามแข่งที่มีผู้เข้าแข่งขันมากมายแต่กลับมีรางวัลจำกัด คำถามคือ “แล้วเราจะเป็นคนที่ไปถึงเส้นชัยได้ยังไงกัน?” “เราควรสมัครงานยังไงถึงจะเข้าตา HR?” วันนี้ JobThai ได้รวบรวมตอนพอดแคสต์จากรายการ Career Talk ที่จะช่วยเตรียมความพร้อมในการสมัครงานให้กับคุณตั้งแต่ขั้นตอนการทำเรซูเม่ไปจนถึงตอนตัดสินใจเลือกบริษัทที่จะร่วมงานด้วย
เด็กจบใหม่ที่เพิ่งลงสนามการแข่งขันหางานเป็นครั้งแรกมักเกิดความรู้สึกท้อและถอดใจด้วยหลาย ๆ สาเหตุ บางคนสมัครงานไปเป็นสิบ ๆ ที่แต่ก็ไม่โดนเรียกเลย บางคนไปสัมภาษณ์ตั้งหลายที่แต่ก็ยังไม่ได้งาน พอดแคสต์ตอนนี้เลยจะชวนเด็กจบใหม่มาหาคำตอบดูว่ามีสาเหตุอะไรที่อาจทำเราไม่ได้งาน และมีวิธีแก้ไขยังไงบ้าง
ความท้าทายของการหางานในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งก็มีผลมาจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อย่างการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้บางบริษัทหยุดรับพนักงานชั่วคราว หรือบางบริษัทก็ลดจำนวนพนักงานด้วยซ้ำ แล้วเราพอจะทำอะไรได้บ้างในฐานะเด็กจบใหม่ไฟแรงที่ต้องหางานในช่วงที่ธุรกิจได้รับผลกระทบจากโรคระบาด พอดแคสต์ตอนนี้มีคำตอบ
เมื่อเทคโนโลยีได้เข้ามาช่วยให้เราสมัครงานได้อย่างสะดวกรวดเร็วและเพิ่มช่องทางการหางานให้มีมากกว่าเมื่อก่อน สิ่งที่น่าสงสัยคือ ในเมื่อทุกอย่างมันดูเหมือนจะพัฒนาขึ้น แล้วทำไมเรายังหางานที่ใช่ไม่ได้สักที? เราเผลอมองข้ามรายละเอียดบางอย่างไปรึเปล่า? มาหาคำตอบพร้อมฟังเทคนิคที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหางานไปด้วยกันที่นี่
สิ่งที่คนหางานไม่รู้ไม่ได้เด็ดขาดคือ “เรซูเม่” กับ “จดหมายสมัครงาน” นั้น ไม่เหมือนกัน ทั้งในแง่ของรูปแบบและวัตถุประสงค์ ซึ่งรายการ Career Talk ตอนนี้ก็ได้อธิบายความแตกต่างระหว่างเอกสารสำคัญทั้งสองอย่างนี้เอาไว้อย่างเข้าใจง่ายแล้ว
เมื่อรู้แล้วว่าเรซูเม่มีหน้าที่สำคัญในการช่วยพรีเซนต์ผู้สมัครผ่านตัวอักษรให้ทางบริษัทได้รู้จักเรา คราวนี้ถ้าเราอยากจะเขียนเรซูเม่ขึ้นมา เราก็ต้องพอมีไอเดียก่อนว่าเราควรนำเสนอข้อมูลส่วนตัวออกมายังไงให้เหมาะสมกับตัวเองและตำแหน่งที่สมัครมากที่สุดในพื้นที่แค่ 1-2 หน้ากระดาษ ซึ่งพอดแคสต์ตอนนี้ก็ได้เอารูปแบบการเขียนที่น่าสนใจ มาฝากถึง 3 แบบ
นอกจากรูปแบบการเขียนเรซูเม่ที่เหมาะกับตัวเองแล้ว เราต้องดูด้วยว่ามีข้อมูลอะไรบ้างที่ควรใส่ลงไป เพราะการที่เราเคยมีประสบการณ์การทำงาน ทักษะความสามารถ หรือสิ่งที่อยากเล่ามากมาย ไม่ได้แปลว่าเราต้องยัดทุกอย่างลงไปในเรซูเม่ แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะใส่ส่วนไหนลงไปในเรซูเม่เพื่อให้ HR สนใจเมื่อได้อ่าน
ในแต่ละวัน คนเป็น HR จะได้รับเรซูเม่จากผู้สมัครเข้ามาแบบนับไม่ถ้วน ดังนั้น HR จึงมีเวลาค้นหาสิ่งที่น่าสนใจจากเรซูเม่ที่ค่อนข้างจำกัดและต้องอ่านอย่างรวดเร็วเพื่อให้ดูครบทุกเรซูเม่ที่ได้รับ เพราะฉะนั้นคนหางานเองก็จำเป็นต้องมีวิธีเขียนแนะนำตัวให้สามารถดึงดูดความสนใจของทาง HR ได้ภายในไม่กี่วินาที ซึ่งพอดแคสต์ตอนนี้ก็มีเคล็ดลับง่าย ๆ ให้ได้ลองเอาไปทำตามกัน
การคิดว่าควรเขียนอะไรในเรซูเม่เป็นอะไรที่ชวนปวดหัวมาก ๆ พอต้องลงมือทำจริงก็ต้องปวดหัวกว่าเดิมเพราะไม่รู้ว่าจะดีไซน์ออกมาเป็นแบบไหน ไม่พอ… บางคนก็ยังไม่มีโปรแกรมหรือทักษะในการทำงานดีไซน์เพื่อออกแบบเรซูเม่อีก รายการ Career Talk ตอนนี้เลยได้รวบรวม 5 เว็บไซต์ช่วยชีวิตสำหรับทำเรซูเม่ฟรี ๆ ผ่านทางออนไลน์มาฝากคนหางานทุกคน
หลังจากที่ต่อสู้มาอย่างเหน็ดเหนื่อยจนมีบริษัทที่โทรมาเสนอรับเราเข้าทำงาน คนหางานบางคนอาจมีตัวเลือกเข้ามามากกว่าหนึ่งบริษัทด้วยซ้ำ แต่แทนที่จะสบายใจ เรากลับคิดไม่ตกว่าสุดท้ายแล้วเราควรตอบรับเข้าทำงานในบริษัทไหนดี ระหว่างบริษัทที่ให้เงินเดือนสูงกับบริษัทที่มีสวัสดิการที่ดีมากให้กับพนักงาน พอดแคสต์ตอนนี้จะมาเปรียบเทียบข้อดีระหว่างทั้งสองอย่างให้ได้เห็นแบบชัด ๆ เพื่อให้ผู้สมัครนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้
ติดตาม Career Talk Podcast ได้ที่
|
|
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน
