รมย์ชลี เลาหสัจจาพร: Online Media Planner นักการตลาดยุคใหม่ที่ไม่หยุดนิ่งในโลกดิจิทัล

รมย์ชลี เลาหสัจจาพร: Online Media Planner นักการตลาดยุคใหม่ที่ไม่หยุดนิ่งในโลกดิจิทัล
15/12/17   |   14.9k   |  

ในโลกทุกวันนี้ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้มีช่องทางการสื่อสารใหม่เกิดขึ้นมากมายบนโลกออนไลน์กลายเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่เหล่านักการตลาดในยุคนี้ต้องเผชิญ ซึ่งหนึ่งในอาชีพที่ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็คือ อาชีพ Media Planner ที่จากเดิมต้องวางแผนสื่อโฆษณาผ่านช่องทางหลักอย่าง ทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์ แต่ในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคหันมารับสารผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น ทำให้สายอาชีพนี้ต้องปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลจนเกิดเป็นตำแหน่งงานที่มีความเฉพาะทางมากขึ้น ซึ่งนั่นก็คืออาชีพ Online Media Planner นั่นเอง


วันนี้ JobThai จะพาไปพูดคุยกับคุณเม รมย์ชลี เลาหสัจจาพร Online Media Planner ที่เริ่มต้นสายอาชีพนี้ ตั้งแต่ยุคที่ Social Media กำลังเริ่มเป็นที่รู้จักในประเทศไทยจนถึงปัจจุบันนี้ก็ครบ 7 ปีแล้วที่เธอคลุกคลีอยู่ในสายงานนี้ และวันนี้เธอจะมาพูดคุยให้เราฟังถึงบทบาทหน้าที่ของ Online Media Planner พร้อมคำแนะนำดี ๆ สำหรับคนที่อยากจะเข้ามาทำงานในอาชีพนี้ด้วย

 

 

  • หน้าที่หลักของ Online Media Planner คือ วางแผนการใช้สื่อออนไลน์ตามวัตถุประสงค์ที่ลูกค้ากำหนด และตามงบประมาณที่ตั้งไว้
  • บางองค์กรตำแหน่งนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ Online Media Planner ที่มีหน้าที่วางแผนการใช้ช่องทางสื่อสาร และ Online Media Buyer ที่ดูแลเรื่องการติดต่อซื้อโฆษณากับสื่อต่าง ๆ
  • ตำแหน่งนี้ต้องประสานกับทั้งคนในและคนนอก คนในคือรับบรีฟงานจาก AE และนำไปวางแผน และบางครั้งก็ต้องออกไปช่วย AE ขายงานให้ลูกค้าด้วยถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องเชิงเทคนิค หรือโปรเจคนั้นมีมูลค่าสูง
  • คุณสมบัติที่สำคัญของอาชีพนี้คือ ความละเอียดรอบคอบ การวิเคราะห์ ความรับผิดชอบต่อเงินทุกบาททุกสตางค์ของลูกค้า รวมถึงต้องเรียนรู้และปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
  • ความท้าทายของอาชีพนี้คือ การบริหารเงินของลูกค้าให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของเทคโนโลยี
  • คนที่สนใจอยากทำอาชีพนี้ ไม่จำเป็นต้องเรียนจบสายตรง แค่ขยันหาความรู้และฝึกใช้เครื่องมือให้เป็นก็พอ

 

 

เข้ามาทำงานในสายอาชีพนี้ได้อย่างไร

ตัวเมเองเรียนจบมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ คณะ Communication Arts สาขา Advertising ตอนที่เรียนอยู่ทางมหาวิทยาลัยก็มีเปิดวิชาใหม่พอดีคือ วิชา Online Media Planning ซึ่งตอนนั้นน่าจะเป็นที่แรกเลยนะที่มีวิชานี้ พอได้เรียนแล้วก็รู้สึกสนุก ได้คิดได้วางแผน ช่วงเวลานั้นสื่อหลัก ๆ ก็ยังเป็น ทีวี วิทยุ นิตยสารอยู่เลย ออนไลน์ยังไม่บูม Facebook น่าจะเริ่มเข้ามาช่วงที่เราเรียนปี 4 คือพูดง่าย ๆ เลยคือเราก็เติบโตมาในสายอาชีพนี้พร้อม ๆ กับช่วงเวลาที่ Facebook เติบโตในไทยเลย


ซึ่งจริง ๆ ตอนที่เพิ่งเรียนจบมาเราแทบไม่ได้สมัครงานในสายเอเจนซี่เลยนะ เพราะในความคิดของเรา เอเจนซี่ดัง ๆ ก็มีอยู่ไม่กี่ที่ แต่เราต้องแข่งขันกับคนเก่ง ๆ อีกเยอะมาก ก็เลยคิดว่ามันยากนะที่จะเข้าไปทำงานได้ เราก็เลยสมัครพวกงาน Marketing ทั่ว ๆ ไป หว่าน Resume ไปเยอะเลย สมัครงานอยู่นานมาก ตอนนั้นก็ดันเป็นช่วงเศรษฐกิจดาวน์ด้วย ก็ท้อเหมือนกันนะไม่มีใครเรียกเราเลย และตอนนั้นก็มีตำแหน่งงานหนึ่งโผล่ขึ้นมาพอดีคือ Online Media Planner ตอนนั้นเราก็เลยคิดว่าเอาไงเอากันลองสมัครดู และสุดท้ายเราก็ได้งานค่ะ มันเหมือนเป็นโชคชะตาด้วยนะที่พาเรามาจุดนี้ ก็เลยได้มาทำอาชีพนีค่ะ

 


ทำไมตอนนั้นถึงเลือกเรียนนิเทศศาสตร์รู้ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าอยากทำสายอาชีพนี้

ตอนเรียนมัธยมไม่ได้เป็นคนที่เรียนเก่งมากจบศิลป์ภาษาฝรั่งเศสมา ตอนนั้นเรารู้สึกว่าภาษาคงไม่ใช่กับเราแน่ ๆ เราชอบวาดรูป แต่ฝีมือก็ไม่ได้ดีมากพอที่จะเอาดีด้านนี้ได้ และพอดีว่าระหว่างที่เรียนอยู่มีการแนะแนวจากรุ่นพี่ที่จบไปแล้วซึ่งพอคุยกัน เค้าก็แนะนำให้เรียนนิเทศศาสตร์ เราก็สนใจเพราะ เราชอบคิด ชอบหาไอเดียใหม่ ก็เลยเลือกเรียนนิเทศ สาขา Advertising จริง ๆ ตอนที่เรียนก็ยังไม่แน่ใจนะว่าใช่หรือไม่ใช่ ตอนจบปี 1 ถึงขั้นคิดว่าจะเปลี่ยนสายเลย เพราะไม่มั่นใจว่าใช่ตัวเราหรือเปล่า ทำไมทฤษฎีมันเยอะมาก เพราะว่าช่วงนั้นวิชาส่วนใหญ่เป็นพื้นฐานด้วย จนคิดจะเปลี่ยนไปเรียนด้านบริหาร แต่ลึก ๆ เราก็ยังรู้สึกว่าสายนี้นี้ยังมีเสน่ห์ดึงดูดเราอยู่ ก็เลยลองศึกษารายวิชาที่ต้องเรียนตอนปีสองปีสามปีสี่ แล้วก็เห็นว่ามันยังมีเรื่องที่น่าสนใจอีกเยอะมันเริ่มลงลึกขึ้นและเป็นสิ่งที่เราสนใจจริง ๆ ก็เลยตัดสินใจเรียนต่อจนจบค่ะ

 

วันแรกที่มาทำงานนี้รู้สึกอย่างไร

ตอนนั้นดีใจมากที่ได้ทำงานสายนี้ แรก ๆ เราทำงานหนักมากบางวันก็ทำถึงสี่ทุ่มเลย ตอนนั้นรู้เลยว่าชีวิตจริงต้องเรียนรู้และต้องพยายามมาก ๆ ถึงแม้เราจะมีพื้นฐานจากการเรียนในมหาวิทยาลัย แต่พอมาทำงานจริงมันต่างกันสิ้นเชิงที่เรียนมาอาจจะใช้ได้แค่ 20 % เท่านั้นเอง ที่เหลือต้องไปเรียนรู้ด้วยตัวเอง

 


หน้าที่ของ Online Media Planner มีอะไรบ้าง

หน้าที่หลัก ๆ เลยก็คือวางแผนการใช้สื่อออนไลน์ตามโจทย์ที่ลูกค้าต้องการ และใช้เงินให้มีประสิทธิภาพที่สุดในงบประมาณที่ตั้งไว้ โดยที่เราก็ต้องรู้จักเครื่องมือที่จะนำมาใช้ รวมถึงเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วย ซึ่งหน้าที่ก็จะรวมไปถึงการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของการสื่อสารด้วยว่ามีประสิทธิภาพไหม บางบริษัท Online Media จะแบ่งเป็น 2 ตำแหน่งที่ต้องทำงานร่วมกันคือ Buyer ที่ดูแลเรื่องการซื้อสื่อ และ Planner ที่เน้นเรื่องการวางแผน  ตัวเมเองเคยทำมาหมดแล้ว แต่เราจะพยายามฝึกให้น้อง ๆ ในทีมเป็นทั้ง Buyer และ Planner ในคนเดียวกัน เพราะเรารู้สึกว่าถ้าจะทำงานนี้ได้ดีควรจะต้องรู้ทั้งสองบทบาทค่ะ

 

โดยที่งานของเราจะต้องติดต่อกับคนทั้งภายในและภายนอก ภายในเราก็ต้องสื่อสารกับคนในองค์กรคนในทีมของเรา ซึ่งงานก็จะมาจาก AE พอเค้ามาบรีฟงานให้กับทุกฝ่ายในห้องประชุม เราก็วางแผนงานตามโจทย์ที่ได้มา และกลับมานำเสนอที่ประชุมใหม่ถ้าทุกคนโอเคก็จะให้ AE ไปขาย ส่วนภายนอกเราต้องไปรีพอร์ทลูกค้าว่างานที่เราทำมีความคืบหน้าอย่างไร ดีหรือไม่ดี ซึ่งบางครั้งเราก็ต้องออกไปขายงานลูกค้ากับ AE ด้วย เพราะบางแคมเปญมันละเอียดซับซ้อน และมีมูลค่าค่อนข้างเยอะ เราก็ต้องไปอธิบายด้วยตัวเองค่ะ 

 

ในแต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง อาชีพนี้งานหนักมากไหม

ในแต่ละวันพอมาถึงโต๊ะปุ๊บ ก็จะมานั่งดูสถิติของแต่ละแคมเปญก่อนเลยว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง ตัวไหนไม่ดีก็ต้องแก้ จากนั้นก็จะมาดูงานลูกทีม และก็มีประชุมกับทีมอื่น ๆ บางวันมีงานเร่งด่วนเข้ามาบ้าง ส่วนงานหนักไหมเหรอ เมคิดว่าอยู่ที่เราต้องจัดการงานให้ได้ค่ะ ส่วนตัวเมจะตั้งกฎกับตัวเองว่าเราต้องทำงานไม่เกิน 10 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งจริง ๆ แล้ว Online Media ต้องติดต่อ Supplier ซึ่งเค้าก็ทำงานตามเวลาปกติ เราก็ต้องทำงานในช่วงเวลานี้แหละ

 

คุณสมบัติสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในสายอาชีพนี้

ความละเอียดรอบคอบคือสิ่งสำคัญ ด้วยความที่เราอยู่กับตัวเลขเยอะ แต่ตัวเลขที่เราเห็นมันไม่ใช่แค่สถิตินะ มันคือเงินของลูกค้า พลาดนิดเดียวเงินลูกค้าก็หายไปแล้ว อีกเรื่องหนึ่งคือต้องใฝ่รู้ ต้องอัพเดทเทรนด์ใหม่อยู่ตลอดเวลา  โดยเฉพาะทางด้านออนไลน์ เพราะมันมาเร็วไปเร็วมาก บางเทรนด์แค่สามวันก็ไปแล้ว เราต้องทัน บางทีข่าวออกวันนี้ลูกค้าเห็นเค้าก็โทรมาหาเราเลยว่าเค้าอยากได้แบบนี้ เรียกว่าเราต้องรู้ทุกข่าว ทันทุกเรื่องเลย และอีกเรื่องก็คือการวิเคราะห์สถิติ เราต้องดูตัวเลขให้ออก แต่มันก็ไมได้ยากขนาดนั้นนะ จริง ๆ เราแค่ต้องเข้าใจหลักการค่ะ และพอเราเห็นบ่อย ๆ ก็เข้าใจง่ายขึ้น

 

 

ความท้าทายของสายอาชีพนี้คืออะไร

ความท้าทายคือเราจะบริหารเงินของลูกค้าอย่างไรให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เป็นธรรมดาที่ลูกค้าคาดหวังกับเรา ซึ่งเราก็จะต้องคิดอ่านวางแผนว่าใช้เงินเค้ายังไงให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และในเวลาที่เจอปัญหาบางครั้งสถิติมันไม่ดี หน้าที่ของเราคือต้องหาเหตุผลให้ได้เราต้องรู้ที่มาที่ไปและอะไรคือสาเหตุ เพื่อที่เราจะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุด ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องธรรมดาแต่เราต้องแก้ปัญหาให้เร็ว เพราะในโลกออนไลน์ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากค่ะ อีกเรื่องหนึ่งก็คือเราต้องจัดลำดับความสำคัญของงานให้ดีด้วย คิดดูอย่างที่นี่เรามี Client Service ประมาน 4-5 ทีม แต่ละทีมก็จะมีลูกค้าหลายคน  ทีมเราเลยต้องทำงานเยอะมากและบางทีงานก็มาพร้อม ๆ กันซึ่งเราก็ต้องจัดการให้ดีค่ะ

 

การเติบโตของสายงานนี้เป็นอย่างไร

ก็เป็นปกติคือ เรียงตาม Level ค่ะ เริ่มจากระดับ Executive แล้วก็มาเป็น Supervisor และก็เป็น Manager ซึ่งตำแหน่งที่สูงขึ้นก็จะดูภาพใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็จะมีบางคนที่พอเป็นระดับ Director แล้วอยากหาความท้าทายใหม่ก็อาจจะเปลี่ยนไปเป็น Account Director คือไปดูภาพรวมมากขึ้นค่ะ

 

ความสุขในการทำงานนี้คืออะไร

เรารักงานนี้ เราอยู่กับมันมาตลอดถามว่ามีเบื่อไหมก็มีบ้าง แต่ด้วยความที่เราได้ทำงานที่หลากหลาย ได้ความรู้ใหม่จากการทำงานกับลูกค้าหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์ เราว่างานนี้มันท้าทาย เรารู้สึกว่ามันยังมีเรื่องให้เราเรียนรู้อีกมากโดยเฉพาะเรื่องออนไลน์ที่มีเรื่องให้ต้องศึกษาตลอดเวลา

 

 

ฝากถึงน้อง ๆ หรือคนที่สนใจจะเข้ามาทำอาชีพนี้

ตอนที่เรียนอยู่เป็นช่วงเวลาที่ลองผิดลองถูกได้ แต่ต้องรีบหาตัวเองให้เจอแล้วทำให้เต็มที่ ในยุคนี้ความรู้หาง่าย ทุกคนไม่ว่าจะจบสาขาไหนมาก็สามารถเข้ามาทำงานตรงนี้ได้ ออนไลน์เข้าถึงทุกคนมันใกล้ตัวมาก ถ้าเราสนใจจริงเราแค่ต้องศึกษาเยอะ ๆ บางคนจบสายตรงมาแต่ไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องออนไลน์ก็สู้คนที่ไม่ได้จบตรงสายแต่มีความรู้ความสนใจด้านนี้ไม่ได้ ทุกวันนี้สายอาชีพนี้เปิดกว้างมากแค่คุณหาคำว่า Online Marketing ในอินเทอร์เน็ตจะมีข้อมูลเยอะแยะมากมายพร้อมเสิร์ฟให้คุณแล้ว

 

แม้ว่าทุกวันนี้เม็ดเงินลงทุนในการทำโฆษณาส่วนใหญ่จะยังอยู่กับสื่อหลัก ๆ อย่างทีวี  แต่ด้วยจำนวนคนใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้นักการตลาดหลาย ๆ คนต่างประเมินกันว่า ในอนาคตอันใกล้ สื่อออนไลน์ จะต้องเติบโตขึ้นมาไม่แพ้ทีวีอย่างแน่นอน ซึ่งนั่นก็หมายถึงตลาดงานที่เปิดกว้างรอต้อนรับนักการตลาดที่มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ สายอาชีพ Online Media Planner นั่นเอง

 

JobThai มี Line แล้วนะคะ

ติดตามสาระความรู้สำหรับคนทำงาน ที่ย่อยง่าย อ่านสนุก และพูดคุยทุกแง่มุมเกี่ยวกับการทำงานอย่างใกล้ชิดที่

เพิ่มเพื่อน

 

tags : career focus, การทำงาน, คนทำงาน, career & tips, jobthai, online media planner, การตลาด



ติดตามข่าวสารและเรื่องราวดีๆ ทาง Email

ขอบคุณสำหรับการติดตาม